หลังจากรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้สัก 2–3 วัน ยังไม่ทันได้ประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรกกระมัง พวกผมหลายคนที่ไทยรัฐก็ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยแบบเปิดใจกับท่านรัฐมนตรี วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ที่ห้องอาหารแห่งหนึ่ง
ท่านเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงนี้มาก่อน และแม้จะพ้นตำแหน่งไปแล้วก็ยังวนๆเวียนๆ อยู่กับวงการท่องเที่ยวพอสมควร ไม่ได้หลุดวงโคจรออกไปไกลแต่อย่างใด
ท่านจึงมีโครงการ มีแผนงานที่จะทำในเรื่องของการท่องเที่ยวหลายๆ โครงการ จนผมจำแทบไม่ได้เลย เพราะเยอะจริงๆ
จำแม่นอยู่โครงการเดียวเท่านั้น เพราะท่านย้ำหลายหนว่าท่านอยากจะทำเป็นเรื่องแรกเมื่อเข้ารับตำแหน่ง นั่นก็คือ นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรอง หรือจังหวัดรอง เพื่อการกระจายรายได้และเพิ่มรายได้แก่จังหวัดที่ไม่ใช่เมืองหลักในการท่องเที่ยวให้มากขึ้น
เพราะหากไม่มีการกำหนดนโยบายและแผนงานในเรื่องนี้ รายได้จากการท่องเที่ยวก็จะกระจุกอยู่แต่ในเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ ที่เป็นเมืองหลักทั้งหลาย ไม่กระจายไปสู่เมืองอื่นๆ
ท่านจึงตั้งใจจะเริ่มด้วยการกระจายรายได้การท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ในส่วนที่ท่านรับผิดชอบ…โดยกระจายในระดับจังหวัดหรือระดับเมืองก่อน ต่อไปค่อยๆกระจายลงสู่อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน เป็นลำดับไป
ผมฟังท่านบรรยายสรุปแล้วก็ยกมืออนุโมทนาสาธุ เอาใจช่วยให้นโยบายของท่านประสบความสำเร็จ หลังจากนั้นก็แยกย้ายจากโต๊ะกินข้าวไม่ได้เจอท่านอีกเลยจนบัดเดี๋ยวนี้
จนกระทั่งเมื่อก่อนสิ้นปีเก่า 2560 ได้อ่านข่าวว่า ททท. จะไปส่งเสริมการเคาต์ดาวน์ในเมืองรอง 4-5 เมือง ผมค่อยนึกขึ้นมาได้ และชมท่านอยู่ในใจว่า ท่านเอาจริงแล้วแฮะ
ต่อมาเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม หรือวันบ๊อกซิ่งเดย์ หลังวันคริสต์มาสหนึ่งวัน ก็มีข่าวว่า ครม.เห็นชอบกับการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวเมืองรองแล้ว รวม 55 จังหวัด
ให้ผู้ที่ไปเที่ยวเมืองรองตามที่ประกาศชื่อไว้ แล้วนอนพักโรงแรม พักโฮมสเตย์ จ่ายค่าทัวร์นำเที่ยว ค่าอาหาร ค่าซื้อสินค้า OTOP ต่างๆ มาหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท หลักการเดียวกับการหักลดหย่อนภาษี กรณี “ช็อปช่วยชาติ”
หลังจากประกาศชื่อจังหวัดท่องเที่ยวรองไปแล้วเมื่อวานนี้เอง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็ออกมาแถลงเพิ่มเติมว่าด้วยแนวทางด้านการตลาด เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองอีกกระตั๊กใหญ่
ภายใต้แคมเปญที่ว่า “Amazing Thailand Go Local” หรือแปลเป็นไทยว่า “เที่ยวท้องถิ่นไทย ชุมชนเติบใหญ่ เมืองไทยเติบโต”
จัดเตรียมไว้ทั้งกูเกิลแม็ป ทั้งการจัดทำแอพพลิเคชั่น มีการให้แต้ม ให้คูปองส่วนลดซื้อสินค้า การสะสมแต้มชิงโชคและสิ่งจูงใจต่างๆ ฯลฯ
ต้องขออภัยที่คัดลอกไม่หมด เพราะเยอะจริงๆสำหรับการให้บริการเพื่อจูงใจให้คนไทยไปเที่ยวเมืองรองที่ท่านผู้ว่าการ ททท. แถลงไว้
เสร็จแล้วท่านผู้ว่าฯ ก็สรุปว่า ด้วยแผนต่างๆ ที่จะดำเนินการจะเป็นผลทำให้ปีหน้าคนไทยท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นและก่อให้เกิดรายได้ทั่วประเทศไม่ตํ่ากว่า 1 ล้านล้านบาท
จำนวนนี้จะเป็นของเมืองหลัก 650,000 ล้านบาท หรือ 65 เปอร์เซ็นต์ และกระจายไปสู่เมืองรอง 35 เปอร์เซ็นต์ หรือ 350,000 ล้านบาท
แม้ว่าตัวเลขจำนวนนี้จะยังไม่เกิดขึ้น และไม่แน่ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะยังเหลือเวลาที่จะพิสูจน์อีก 1 ปีเต็มๆ
จะได้เป้า หรือไม่ได้เป้าก็ช่างเถอะ…ผมชอบวิธีการทำงานแบบนี้ครับ คือคิดนโยบายรวมแล้วมีแผนปฏิบัติเป็นขั้นเป็นตอนออกมาเป็นระลอก และเมื่อลงมือทำไปแล้วแม้จะไม่ได้ตามเป้าแต่ก็จะมีความเคลื่อนไหว มีการหมุนเวียนเงินตราไปสู่เมืองรอง ดีกว่าอยู่เปล่าๆ แน่นอน
ผมเอาใจช่วยเต็มที่เลยครับ ขอให้นโยบายท่องเที่ยวเมืองรองประสบความสำเร็จนะครับ
สำหรับผมเอง ตรุษจีนปีนี้อาจจะไปนอนค้างนครสวรรค์บ้านเกิดสักคืน 2 คืน เพราะหลังๆ นี้ไปเช้าเย็นกลับตลอด เผอิญว่านครสวรรค์ได้เป็นเมืองรองท่องเที่ยวกะเขาด้วย เอาค่าโรงแรมมาหักลดหย่อนภาษีได้…สงสัยจะต้องนอนค้างสักคืนแล้วละน้องพร.
“ซูม”