ไปดู “คุณพระช่วย 2”

ซอกแซกสัปดาห์ที่แล้ว ทีมงานนำท่านผู้อ่านไปสัมผัสกับอาคาร “นิทรรศน์ รัตนโกสินทร์” สถานที่รวบรวมสะสมความรู้และความเป็นมาของกรุงรัตนโกสินทร์แห่งใหม่ ณ ถนนราชดำเนิน

ค่อนข้างฮือฮาพอสมควรทีเดียว มีโทรศัพท์ เข้ามาซักถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมจำนวนมาก

สำหรับสัปดาห์นี้ ทีมงานซอกแซกขออนุญาตเขียนถึงเรื่องราวที่เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมและความเป็นไทยต่ออีกสัปดาห์ เพราะเพิ่งจะไปนั่งดูชมกลับมา มีความเห็นในระหว่างทีมงานว่าควรจะได้บันทึกไว้เพื่อเป็นเกียรติแก่การแสดงชุดนี้

คอนเสิร์ต “คุณพระช่วยสำแดงสด 2…ตอนแผ่นดินทอง” ณ โรงละครอักษรา คิงเพาเวอร์ ซอยรางนํ้า…ที่ท่านผู้อ่านคงจะได้ยินข่าวคราวมาบ้างแล้วนั่นแหละครับ

โดยเฉพาะหน้าข่าวบันเทิงของหนังสือพิมพ์ ทุกฉบับ ต่างรายงานข่าวและเขียนถึงด้วยความชื่นชมตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทีมงานซอกแซกเห็นด้วยและยินดีที่จะบันทึกไว้ด้วยความชื่นชมเช่นเดียวกัน

เนื่องจากเป็นการแสดงในแบบคอนเสิร์ต จึงต้องใช้เสียงเพลงเป็นสื่อในการนำผู้ชมย้อนยุคกลับไปสู่อดีต ซึ่งก็คงไม่ไกลเท่าไรนัก

เทียบกับนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ที่ย้อนกลับไป 200 กว่าปี แต่ของ “คุณพระช่วย” นั้น น่าจะย้อนไปราวๆ 40 ปี หรือ 50 ปีกระมัง

เช่นเพลง “กลิ่นโคลนสาปควาย” ของครูไพบูลย์ บุตรขัน ที่มอบให้ ฝน ธนสุนทร นักร้องลูกทุ่งเสียงใสขวัญใจแฟนลูกทุ่งมาถ่ายทอดในยุคนี้

หรือเพลง “สิบหมื่น” จากภาพยนตร์เรื่อง “มนต์รักลูกทุ่ง” โดย ตุ้ม จ่านกร้อง นักร้องลูกทุ่งคนใหม่ จากโรงเรียนชนะเลิศรายการชิงช้าสวรรค์ จ่านกร้อง จังหวัดพิษณุโลก เมื่อ 2 ปีที่แล้ว…และเพลง “ขวัญ ของเรียม” โดยพรานบูรณ์ จากละครเรื่องแผลเก่า ซึ่งได้ ลูกนํ้า นักร้องรุ่นใหม่อีกรายมาช่วยสืบทอด

ที่ต้องชมก็คือทุกๆ เพลงจะเป็นการผสมผสานระหว่างดนตรีสากลวงใหญ่ระดับออเคสตรากับ ดนตรีไทยวงใหญ่ที่ยกมาตั้งข้างเคียงกัน

มีการบรรเลงแบบส่งกันไปส่งกันมาอยู่ตลอดเวลา และก็สามารถร่วมบรรเลงเป็นวงเดียวกันได้ อย่างกลมกลืน

จุดเด่นที่ถือเป็นภารกิจสำคัญของรายการคุณพระช่วย ทั้งในจอโทรทัศน์และการแสดงสดก็คือการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย ทั้งเก่าและใหม่ทุกๆ ประเภทเท่าที่จะทำได้

แม้ในภาพรวมคราวนี้จะย้อนไปเพียง 40-50 ปีดังกล่าว แต่ที่ไม่เคยขาดก็คือการประชันดนตรีไทย ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีประจำชาติที่ย้อนยุคไปหลายร้อยปี เกินกว่าอายุของกรุงรัตนโกสินทร์ด้วยซํ้า

งวดนี้เป็นการประชัน “ระนาดเอก” ด้วยเพลง “จีนตอกไม้” ที่พอขึ้นเสียงปุ๊บผู้ชมก็จำได้ทันทีว่านี่คือเพลงประชันจากภาพยนตร์เรื่อง ระนาดเอก นั่นเอง

2 หนุ่มน้อยที่มาประชันก็คือ 2 หนุ่มที่ผ่านการประชันทางโทรทัศน์มาแล้ว…ฝีไม้ลายมือจัดจ้านทั้งคู่ เรียกเสียงปรบมือกึกก้องในลูกเล่นลูกชนที่งัดออกมาโชว์อย่างทัดเทียมกัน

ของดีอีกชิ้นหนึ่งของไทยเราที่อยู่ในการสำแดงสดของคุณพระช่วยครั้งนี้ด้วยก็คือ นักร้องประสานเสียงวง “สวนพลู” ครับ

เป็นวงที่นำเพลงไทยๆและเพลงพื้นบ้านต่างๆ มาร้องประสานเสียงประกอบการแสดงพื้นบ้านของเด็กๆ ไทย เช่นการเล่นงูกินหาง หรือรีรีข้าวสาร ได้อย่างกลมกลืน

สำหรับการแสดงที่ประทับใจ จนสามารถเรียกเสียงปรบมือสลับกับการเขย่ามืออยู่ตลอดเวลา ได้แก่การร้องเพลง และเล่นเปียโนประกอบโดย “ตั๊ก” กับ “ติ๊ก”

อธิศรี สงเคราะห์ หรือน้องตั๊กนั้น พิการทางสายตา แต่มีพรสวรรค์ในการร้องเพลงอย่างยิ่ง ส่วนน้องติ๊ก หรือ สิตาพร พิภพวรชัย พิการทางหู แต่ก็สามารถเล่นเปียโนได้อย่างยอดเยี่ยม

ทั้ง 2 ร่วมกันร้องและบรรเลงเพลง “แก้วกัลยา” ที่ ประภาส ชลศรานนท์ ประพันธ์เพื่อถวายแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ได้อย่างไพเราะ และซาบซึ้ง

จนเป็นที่มาของการ “เขย่ามือ” หรือชูมือขึ้นเขย่าอันเป็นสัญลักษณ์ของการปรบมือสำหรับแสดงความชื่นชมแก่น้องติ๊กผู้พิการทางหู ที่แฟนๆ เขย่าแล้วเขย่าเล่าสลับกับเสียงปรบมือของจริงๆ กราวแล้วกราวเล่าให้แก่น้องตั๊กผู้พิการทางสายตา

ที่ทีมงานซอกแซกชอบมากๆ อีกชุดก็คือ”คาเมนไล่ควาย” จากการนำเพลงเอกของโลก”คาเมน” มาผสมกับ เขมรไล่ควาย ของไทย ระหว่างวงออเคสตรากับการเดี่ยวสะล้อของครูแอ๊ด นักดนตรี พื้นเมืองระดับแนวหน้าของดินแดนล้านนา

สนุกและกระหึ่มอีกเพลงหนึ่ง

ต้องขอชื่นชม เวิร์คพอยท์ฯ อีกครั้ง ที่นำเสนอได้อย่างสนุกสนานและไม่น่าเบื่อ ทำให้การลิ้มรสของไทยๆ ผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัว

ธงชัย-เท่ง-ท็อด ทำหน้าที่พิธีกรได้ดี กระชับกว่าคราวที่แล้ว แต่ยังมีลูกเล่นลูกหาแพรวพราวเหมือนเดิม ในขณะที่การแสดงโชว์หน้าม่านของ “น้าโย่ง” ในชุดแผ่นดินทอง ก็ยังเรียกเสียงฮาได้ อย่างไม่มีฝืดเลยแม้แต่น้อย

หลังการแสดงมีโอกาสได้พบทั้ง ปัญญา นิรันดร์กุล และ ประภาส ชลศรานนท์ ที่อยู่เบื้องหลังรายการคุณพระช่วยมาตลอดทั้งในทีวีและการแสดงสด

ปัญญาบอกว่า งวดนี้ไม่ขาดทุน แถมมีกำไรเล็กๆ ด้วยซํ้า เพราะคนดูล้นทุกรอบ และได้สปอนเซอร์มาช่วยหลายชิ้น

ทำให้มีกำลังใจที่จะจัดครั้งต่อๆไป…แม้จะเหนื่อยมาก เพราะใช้ผู้แสดงและนักดนตรีกว่า 300 ชีวิต แต่จากกำลังใจที่ได้รับทำให้หายเหนื่อยและพร้อมจะสู้ต่อ

ยอมรับว่าผู้ชมยังเป็นคน “มีอายุ” มากกว่าวัยรุ่น แต่ก็จะพยายามดึงวัยรุ่นให้มาดูมากๆ เพราะตระหนักดีว่าวัยรุ่นหรือคนหนุ่มคนสาวต่างหากที่จะเป็นผู้รับมอบมรดกชิ้นนี้ต่อไปจากเรา

อย่างคราวนี้ก็มี บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ นักร้องขวัญใจคนรุ่นใหม่ มาร้องเพลงของ สุรพล สมบัติเจริญ อาจจะช่วยเรียกแฟนรุ่นใหม่ได้ส่วนหนึ่ง

ที่น่าชื่นใจก็คือ รายการทางช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ แม้จะไปอยู่ช่วงบ่ายๆวันเสาร์ แต่ก็มีแฟนๆติดตามมาก และเชื่อว่าวัยรุ่นจะนั่งดูอยู่ด้วยไม่น้อย สังเกตได้จากการประชันทุกครั้งจะมีวัยรุ่นมาสมัครมากมาย

ส่งผลให้มีการฝึกฝนดนตรีไทยและเพลงไทยกันอย่างคึกคักในกลุ่มเยาวชนเพื่อจะมาประกวด

ต้องขอ “ปรบมือ” และ “เขย่ามือ” ให้แก่ “ปัญญา นิรันดร์กุล” และเวิร์คพอยท์ฯอีกครั้งที่ยังมีความเป็นไทยอยู่ในหัวใจตลอดเวลา

คนไม่ลืมบุญคุณคนมักได้รับความเจริญรุ่งเรือง แต่ของปัญญาถือว่าไม่ลืมบุญคุณแผ่นดิน จึงสำคัญยิ่งว่า…ตกนํ้าไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้แน่นอน เชื่อพี่เถอะ!

“ซูม”