ไม่ขัดข้องที่จะ “กู้เงิน” แต่ “เป็นห่วง” ตอน “ใช้เงิน”

และแล้ว ครม.ก็มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.ก. ที่จะกู้เงินรอบใหม่ เพื่อใช้ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมอันเป็นผลมาจากการระบาดระลอกที่ 3 ของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งสิ้น 700,000 ล้านบาท ในการประชุมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

เรียกว่ามาแบบเงียบๆ ลับสุดยอดจริงๆ เพราะแทบไม่มีสื่อฉบับไหนรู้ระแคะระคายเสียด้วยซ้ำ…จนกระทั่งเลิกประชุมแล้วนั่นแหละ…จึงได้มีรายละเอียดมาแจกผู้สื่อข่าวโดยไม่มีการแถลงข่าว

ที่ผมตั้งข้อสังเกตว่าไม่มีการแถลงข่าวก็เพราะโดยปกติเนื้อข่าวที่มีรายละเอียดยุบยิบ ทั้งยอดเงิน ทั้งวิธีการและหมวดหมู่ที่จะเอาเงินไปใช้ ถึงขนาดหนังสือพิมพ์เอามาลงได้เกือบครึ่งหน้าเช่นนี้ น่าจะเป็นการแถลงโดยท่านนายกฯ หรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง หรือโฆษกรัฐบาล ฯลฯ

แต่คราวนี้ไม่มีการอ้างชื่อผู้แถลงแต่อย่างใด หนังสือพิมพ์และสำนักข่าวออนไลน์ล้วนใช้ถ้อยคำในประโยคแรกว่า “รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล” เหมือนๆ กันทุกสำนัก

นับเป็นรายงานข่าวที่ “ไม่มีผู้แถลง” อย่างเป็นทางการที่ยาวที่สุดเท่าที่ผมเคยติดตามข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเป็นต้นมา

อย่างไรก็ตาม ในรายงานข่าวของสื่อบางสำนักระบุว่า เลขาธิการ ครม. เป็นผู้ทักท้วงมิให้แถลงข่าวนี้ เพราะเป็นเรื่องลับมาก “ริมแดง” ต้องรอให้ดำเนินการไปตามขั้นตอนครบถ้วนเสียก่อน

ก็เลยทำให้ข่าวนี้ออกมาสู่สาธารณชนในลักษณะรายงานข่าวอย่างที่ว่า

เอาเถอะ ถึงแม้จะยังคงเป็น “รายงานข่าว” อยู่…แต่ก็เป็นที่เข้าใจกันว่าทุกสิ่งทุกอย่างน่าจะลงตัว ไม่มีอะไรคลาดเคลื่อนไปจากรายละเอียดที่สื่อมวลชนนำมาลงมากนัก

รวมทั้งก็คงแน่ชัดแล้วละว่า เราจะต้องกู้เงินอีก 700,000 ล้านบาท เพิ่มเติมจากวงเงินรอบแรกที่กู้ไว้ 1 ล้านล้านบาท ตาม พ.ร.ก.ของกระทรวงการคลังที่บังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2563 จนถึงปัจจุบัน

ในหลักการผมเห็นด้วยครับ เพราะความเสียหายทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยเรา สำหรับการระบาดระลอกนี้ ค่อนข้างหนักหนาสาหัสมาก…จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐจะต้องเตรียมเงินก้อนใหญ่พอสมควร สำหรับการฟื้นฟูและเยียวยาต่างๆ

ก้อนที่แล้วส่วนใหญ่ก็ใช้ไปหมดแล้ว หรือมีข้อผูกพันไปแล้ว เห็นว่าเหลือวงเงินที่จะนำไปใช้ได้จริงๆแค่ 16,525 ล้านบาทเท่านั้น

ในขณะที่ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2565 ซึ่งจัดทำขึ้นก่อนการระบาดรอบนี้ก็คงจะไม่ได้เตรียมการเอาไว้มากพอและสอดคล้องกับผลกระทบที่เกิดขึ้นล่าสุด

ดังนั้น หากการกู้เพิ่มอีก 700,000 ล้าน เมื่อรวมกับภาระเงินกู้ของรัฐบาลทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ยังไม่เกินสัดส่วนหนี้สาธารณะของประเทศต่อจีดีพีตามกรอบวินัยการคลัง…คือร้อยละ 60 ละก็…กู้ไปเถอะครับ

เท่าที่อ่านจากข่าวบางข่าวระบุว่า เมื่อบวกตัวเลขใหม่งวดนี้เข้าไปแล้วกับของเก่าจะอยู่ประมาณร้อยละ 58 ก็ถือว่าสามารถดำเนินการได้

ผมจึงเห็นด้วยกับมติ ครม.ที่จะกู้เงินอีกรอบหนึ่งในวงเงินดังกล่าว

แต่ก็คงต้องฝากความห่วงใยไว้แก่กระทรวงการคลังและหน่วยงานของรัฐที่จะใช้เงินกู้ก้อนนี้ ให้คำนึงไว้ตลอดเวลาว่า…อาจจะเป็นเงินกู้ “ก้อนสุดท้าย” ของรัฐบาลแล้วก็ได้ เพราะใกล้จะเต็มกรอบอยู่รอมร่อ

เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้ตระหนักถึงคุณค่าของเงินที่ใกล้จะหมดหน้าตักก้อนนี้ให้มากที่สุด และนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์จนสามารถฟื้นฟูเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนต่างๆ ของประชาชน รวมไปถึงกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง

อย่าลืมว่าก้อนที่แล้วการใช้จ่ายมีปัญหามากเหลือเกิน…เริ่มตั้งแต่เบิกช้า จ่ายช้า…โครงการไม่สมจริง ไม่ช่วยแก้ปัญหาจริง…ปฏิบัติไม่ค่อยได้จริง…ทำๆ ไปหน่อยขอลดเป้าขอเปลี่ยนเป้าเพราะไม่คืบหน้า ฯลฯ

จนผมไม่ค่อยแน่ใจว่าเราได้มีการประเมินผลการใช้เงินก้อนที่แล้วกันแล้วหรือยัง…ว่าอะไรได้ผลบ้าง อะไรไม่ได้ผลบ้าง?

เพื่อที่จะให้การใช้เงินก้อนใหม่ 700,000 ล้านบาท คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพประสิทธิผลอย่างแท้จริง

สำคัญที่สุดต้องย้ำกันแบบหนักแน่นแถมลงอาคมสาปล่วงหน้าไว้ด้วยเลยว่า เงินกู้ก้อนนี้เป็นภาระอันใหญ่หลวงของประชาชนที่ต้องเสียภาษี เพื่อนำไปใช้หนี้ในภายหลัง…ฉะนั้นห้ามโกง ห้ามซิกแซ็ก ฯลฯ เป็นอันขาดนะครับ…ฝากบิ๊กตู่ให้ดูแลแบบเข้มๆ ด้วยนะครับ.

“ซูม”

ข่าว, โควิด 19, กู้เงิน, รัฐบาล, มาตรการเยียวยา, เศรษบกิจ,