ไปดู “ขอพบในฝัน” มิวสิคัล “สุนทราภรณ์”

จากกิตติศัพท์ที่ว่าละครเวทีเรื่อง “ขอพบในฝัน สุนทราภรณ์เดอะมิวสิคัล” ซึ่งขึ้นเวทีไปแล้วถึง 16 รอบ เมื่อปีที่แล้ว แต่ยังมีเสียงเรียกร้องให้กลับมาแสดงใหม่จนคณะผู้จัดอดใจไม่ไหวต้องจัดให้ขึ้นเวทีรีสเตจกันอีกครั้ง ในช่วงเดือนมีนาคมนี้

หัวหน้าทีมซอกแซกในฐานะแฟนคลับเก่าแก่ของ “สุนทราภรณ์” ติดตามฟังเพลงของครูเอื้อสุนทรสนานมาตั้งแต่แตกเนื้อหนุ่มจนถึงเดี๋ยวนี้ เนื้อหนังเริ่มแก่และแตกเป็นริ้วๆไปค่อนตัวแล้ว… ไหนเลยจะอดใจอยู่ได้

ประกอบกับการแสดงเมื่อครั้งที่แล้ว ห้วงเวลาไม่ลงตัวทำให้ไม่สามารถจะแว่บไปดูได้เลยแม้จะตั้งใจเอาไว้หลายครั้งหลายหนก็ตาม

สำหรับคราวนี้ไม่ยอมพลาดอีกแล้วครับไปดูมาเรียบร้อยเมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมานี่เอง

ดูเกือบ 4 ชั่วโมงเต็มๆ ของการแสดง โดยใช้เพลงเอกของสุนทราภรณ์เป็นแกนหลักในการเดินเรื่องถึง 25 เพลง ผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก

พิสูจน์ให้เห็นถึงความเพลิดเพลินสนุกสนานที่ได้รับจากละครเวทีเรื่องนี้สมกับที่มีเสียงเล่าลือและเสียงเรียกร้องให้กลับมาอีกหนทุกประการ

ประทับใจที่สุดคงต้องยกให้คู่พระคู่นาง หรือพระเอกนางเอกที่รับบทโดย ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม และ “น้องพิม” พิมประภา ตั้งประภาพร ที่ทั้งแสดงและร้องเพลงสุนทราภรณ์ได้ดีอย่างเหลือเชื่อ

สำหรับณัฏฐ์อาจไม่เหนือคาดหมายมากนัก เพราะเคยผ่านการแสดงที่เกาหลีมาแล้ว ซึ่งก็ทราบดีว่า การซ้อมการเคี่ยวกรำดารานักแสดงของที่โน่นโหดขนาดไหน

ใครที่สอบผ่านเวทีเกาหลีมาได้รับรองว่าต้องแกร่งทุกคนไปแหละ

เมื่อณัฏฐ์กลับมารับบทเศรษฐีหนุ่มเจ้าสำราญ แต่รักใครรักจริง ตัวเอกของ “ขอพบในฝัน” จึงแสดงได้อย่างสมบทสมบาทชนิดไม่มีที่ติ

ประกอบกับเสียงร้องที่ไพเราะเป็นทุนอยู่แล้วในฐานะแชมป์ยอดนักล่าฝันซีซั่นที่ 5 ของ ทรู อคาเดมี แฟนเทเชีย เมื่อปรับมาร้องเพลงของสุนทราภรณ์ จึงทำได้อย่างลงตัว

แต่ที่เหนือความคาดหมายบ้างเล็กน้อย ก็เห็นจะเป็นนางเอก พิมประภา ตั้งประภาพร หรือน้องพิมนี่แหละครับ เพราะนึกไม่ถึงจริงๆว่าจะร้องเพลงสุนทราภรณ์ได้อย่างดีเยี่ยม

ดีจนคนรุ่นเก่าอย่างหัวหน้าทีมรู้สึกมั่นใจว่าเพลงสุนทราภรณ์จะอยู่ยั้งยืนยงไปตราบกาลนานแน่นอน หากได้รับการถ่ายทอดสืบสานจากนางเอกและพระเอกคู่นี้ รวมทั้งหนุ่มสาวอีกหลายคนที่ร่วมแสดงในละคร

สำหรับน้องพิมแม้จะผ่านการแสดงมาจนถึงขั้นเป็นนางเอกของช่อง 7 สี และผ่านการเป็นนักร้องที่เคยมีการบันทึกอัลบั้มของตัวเองมาแล้ว แต่ก็เป็นแนวทันสมัย ต่างกับแนวสุนทราภรณ์โดยสิ้นเชิง

คาดไม่ถึงจริงๆว่าสาวน้อยที่จบคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยรายนี้จะร้องเพลงในแนวของครูเอื้อได้อย่างหวานซึ้งและไพเราะในสไตล์ของเธอเอง

สำหรับผู้แสดงหนุ่มสาวคนอื่นๆไม่ว่าจะเป็น จิรโรจน์ ศรุณานิธิโรจน์ (เบนซ์), เมทัล สุขขาว ทายาทแท้ๆของ หรั่ง ร็อคเคสตร้า, ภัทรพงศ์ เวศกามี และ นิศาชล สิ่วไธสง ต่างก็ร้องเพลงสุนทราภรณ์ได้อย่างกลมกลืน ไม่มีอะไรเคอะเขินแม้แต่น้อย

ในส่วนของเนื้อหาละครนั้น อาจจะดูยาวและสับสนอยู่บ้าง แต่คนเขียนบทอย่าง วัชระ แวววุฒินันท์ ก็ใส่มุกเอาไว้ตลอด ทำให้หนักเป็นเบา เรียกเสียงหัวเราะได้ตลอดเวลา

ล้อเหตุการณ์บ้านเมืองตั้งแต่ เสือดำ, หวย 30 ล้าน ไปจนถึง โรดแม็ป และแม้แต่ ออเจ้า คำฮิตล่าสุดก็ยังมาปรากฏในบทพูดของตัวละคร

ได้ วัชระ ปานเอี่ยม ผู้กำกับมากอารมณ์ขันมากำกับเข้าด้วยก็ยิ่งทำให้สนุกกันใหญ่ ตั้งแต่ฉากแรกถึงฉากสุดท้าย

แต่ไม่ว่าจะสนุกอย่างไรก็ยังไม่เปลี่ยนจังหวะและวิธีการโยงเพลงเข้าหากัน ซึ่งทำได้ดีมาก โดยเฉพาะการเลือกเพลงที่เข้ากับเหตุการณ์ที่ดำเนินไปตามท้องเรื่อง

สำหรับเพลงเอกของเรื่อง “ขอพบในฝัน” นั้น เป็นเพลงที่อยู่ในหัวใจของแฟนเพลงสุนทราภรณ์อยู่แล้ว คำร้องโดย ครู แก้ว อัจฉริยะกุล ทำนองโดย ครู เอื้อ สุนทรสนาน…หัวหน้าทีมคัดลอกมาลงเฉพาะเนื้อร้อง ไม่ต้องใส่ทำนองก็เชื่อว่าแฟนๆ จะร้องกันได้อย่างขึ้นใจ

“ฉันชื่นใจเมื่อได้เห็น หัวใจเต้นเพราะได้เห็นดวงหน้า เฝ้าแต่มองมิคลายสายตา ชื่นนักหนาชักพาสุขฤทัย”

“ฉันจ้องมองเป็นหนักหนา เห็นเธอเต็มตา แล้วก็พาเพลินได้ เปรียบดังยารักษาดวงใจ ชุบอารมณ์ให้สดใสชื่นชีวัน”

“มองขอมองให้ชื่นใจ เดี๋ยวเธอจะจากไปเหมือนใจจะขาดพลัน ต้องโศกศัลย์เพ้อรำพัน เห็นเพียงหน้ากันไม่พอฉันสุขใจ”

“แม้จากไปใจคงเหงา ฉันคงจะเศร้าทุกข์จะเผาทรวงไหม้ อกจะตรมทุกข์ถมทรวงใน ขวัญเอยเมื่อไหร่จะได้เจอกัน” ฯลฯ ฯลฯ

ยกตัวอย่างมาแค่ครึ่งเดียวนะครับ ขืนลงเต็มเพลงจะไม่มีเนื้อที่เขียนถึงความสนุกสนานอื่นๆ อย่างแน่นอน

สรุปว่าเป็นละครมิวสิคัลที่น่าดูและดูแล้วมีความสุขอีกเรื่องหนึ่ง แม้จะเป็นเรื่องที่ 6 แล้วที่มูลนิธิสุนทราภรณ์ฯกับ เจเอสแอลฯ ร่วมมือกันจัดทำ ก็ยังสนุกไม่แพ้การแสดงทั้ง 5 เรื่องที่ผ่านมา

สนุกขณะแสดงไม่พอ ตอนจบเรื่องนักแสดงทุกคนยังลงมาสนุกโดยการชวนผู้ชมเต้นรำในจังหวะมันๆไปทั่วโรงละครอีกด้วย

วันนี้ (อาทิตย์ที่ 18 มีนาคม) จะเป็นการแสดงรอบที่ 3 เวลาบ่าย 2 โมง จากนั้นก็จะเหลือการแสดงอีก 3 รอบ คือ 24-25 มีนาคม และ 1 เมษายน เวลาบ่าย 2 เช่นกัน ที่ เอ็มเธียเตอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่โรงเดิม

แฟนเพลงสุนทราภรณ์ไม่ควรพลาดนะครับ ติดต่อจองบัตรที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ได้เลย… สำหรับผู้อาวุโสที่จองไม่เป็นก็ใช้วิธีวานให้ลูกหลานเข้าเว็บ www.thaiticketmajor.com  ถ้าบัตรไม่เต็มซะก่อนได้ดูแน่นอนครับ.

“ซูม”