ชื่นชม “คุณสู้ เราช่วย” ส่งใจ “ลุ้น” ให้ “สำเร็จ”
ในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร แถลงถึงผลงาน 90 วันของท่าน เมื่อวันพฤหัสบดี 12 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น ท่านได้พูดถึงโครงการและนโยบายที่เป็นความหวังของคนไทยในปีหน้าหรือปี 2568 เอาไว้ด้วย
ในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร แถลงถึงผลงาน 90 วันของท่าน เมื่อวันพฤหัสบดี 12 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น ท่านได้พูดถึงโครงการและนโยบายที่เป็นความหวังของคนไทยในปีหน้าหรือปี 2568 เอาไว้ด้วย
ผมชำเลืองดูปฏิทินตั้งโต๊ะข้างหน้าผมอยู่หลายตลบ และพบว่าวันที่ต้นฉบับวันนี้จะลงตีพิมพ์คือวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน “วันสุกดิบ” ก่อนวัน “ลอยกระทง” 1 วันนั่นเอง
ผมเขียนต้นฉบับวันนี้ในวันเสาร์ที่ 9 พ.ย. เพื่อลงตีพิมพ์ในวันจันทร์ที่ 11 พ.ย. ซึ่งจะเป็นวันประชุม (หลังจากเลื่อนมา 2 ครั้ง) ของคณะกรรมการสรรหาประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยท่านใหม่แทนท่านเก่าที่ครบวาระ
ขณะที่ผมเตรียมตัวจะเขียนต้นฉบับวันนี้ในบ่ายแก่ๆ ของวันจันทร์ ก็มีข่าวแพร่สะพัดไปทั่วสำนักข่าวออนไลน์ว่า ได้มีการเลื่อนการพิจารณาว่าจะเลือกท่านใดมาเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ จากแคนดิเดตเดิม 3 ท่าน ออกไปอีก 1 สัปดาห์
ผมตั้งใจมาเป็นสัปดาห์แล้วว่า วันนี้ (จันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน) จะเขียนถึงงานสำคัญงานหนึ่งที่พี่ๆและเพื่อนๆ ชาวธรรมศาสตร์ที่รวมตัวกันเป็น “ชมรมเพื่อนโดม” และ “มูลนิธิเพื่อนโดม” จัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (5 พฤศจิกายน)
เมื่อวานผมเขียนถึงการลดดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา ตั้งใจสรุปรายละเอียดต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อให้ท่านผู้อ่านที่มีเวลาน้อย แต่สนใจในประเด็นนี้ จะได้เก็บไว้เป็นข้อมูล เพื่อไปใช้ประโยชน์ต่อไป
เมื่อวันพุธที่ผ่านมานี้เอง ธนาคารโลกได้เผยแพร่รายงานการติดตามเศรษฐกิจของประเทศไทยฉบับล่าสุด ที่จัดทำโดยธนาคารโลก.โดยประมาณการว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2567 นี้ จะขยายตัวตลอดทั้งปีได้ร้อยละ 2.4 จากที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 1.9 ในปีที่แล้ว (2566)
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาผมหยิบข่าวพาดหัวของไทยรัฐฉบับก่อนหน้านั้นมาเขียนซ้ำเพื่อให้กระทรวงการคลังกับธนาคารแห่งประเทศไทยหรือแบงก์ชาติ เข้ามานั่งพูดคุยกันอย่างเปิดอกเปิดใจด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย
ระหว่างที่ผมไปพักผ่อนแบบชิลๆ ที่บ้านกรูด อ.บางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 3-4 วัน ดังที่ได้เรียนให้ท่านผู้อ่านได้ทราบแล้วนั้นต้องยอมรับว่าเป็นห้วงเวลาที่ผมมีความสุขอย่างแท้จริง
ในช่วงที่ผมหลบไปเที่ยวอินโดนีเซียเสียหลายวันนั้น ข่าวฮิตข่าวหนึ่งในบ้านเราก็คือข่าวตัวเลข GDP ของกระทรวงการคลังหลุด แต่แล้วก็มีการลบทิ้ง และต่อมาจึงมีการแถลงจากกระทรวงการคลังด้วยข้อมูลหรือตัวเลขเดียวกันกับที่หลุดออกมานั่นเอง