ยินดี 2 เด้ง “รมว.พิชัย” 19% ภาษีทรัมป์ + ปธ.มวยเอเชีย
แม้ผมจะไม่เห็นด้วยกับนโยบายเรือธงหลายๆ นโยบายของรัฐบาลเพื่อไทย โดยเฉพาะนโยบายแจกเงินดิจิทัล และนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรที่แฝงเหลี่ยมบ่อนพนันเอาไว้ด้วย ที่ผมคัดค้านอย่างหัวชนฝาผ่านคอลัมน์นี้
แม้ผมจะไม่เห็นด้วยกับนโยบายเรือธงหลายๆ นโยบายของรัฐบาลเพื่อไทย โดยเฉพาะนโยบายแจกเงินดิจิทัล และนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรที่แฝงเหลี่ยมบ่อนพนันเอาไว้ด้วย ที่ผมคัดค้านอย่างหัวชนฝาผ่านคอลัมน์นี้
หลังจากที่รอและลุ้นกันอยู่นานพอสมควรว่าใครจะมาเป็นผู้ว่าการแบงค์ชาติคนใหม่แทนท่านผู้ว่าการ เศรษฐพุฒิ สุทธิวาหนฤพุฒิ ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 30 กันยายนที่จะถึงนี้…ในที่สุด “หวยล็อก” ก็มาออกที่ท่านผู้อำนวยการธนาคารออมสินคนปัจจุบัน วิทัย รัตนากร
แฟนเก่าแก่ของผมท่านหนึ่งที่ยังติดตามอ่านไทยรัฐฉบับพิมพ์อยู่เป็นประจำกรุณาถ่ายสำเนาบทความบทหนึ่งที่ลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับวันที่ 10 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา พร้อมกับขีดเส้นใต้สีแดงมาด้วยหลายจุดก่อนจะเขียนด้วยลายมือทิ้งท้ายสั้นๆว่า “แม่นมาก”
ผมเคยออกความเห็นเป็นนัยๆ ไปบ้างแล้วว่า ผมเห็นด้วยกับข้อเสนอของหลายๆ ฝ่ายว่า นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ควรลาออกหรือไม่ก็ยุบสภา ในกรณีโทรศัพท์ไปคุยกับ “อังเคิล ฮุน เซน” แล้วโดนหักหลัง ฝ่ายโน้นนำคลิปสนทนามาเผยแพร่
ผมเคยเขียนกราบเรียนท่านผู้อ่านไปแล้วว่า ผมเป็นเด็กที่เติบโตมากับความรู้สึกที่เจ็บปวดจากการที่ต้องสูญเสียเขาพระวิหารให้กับกัมพูชาตามการตัดสินของศาลโลก เมื่อ พ.ศ.2505 ขณะเรียนอยู่ปีที่ 3 คณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์
คำว่า “เฒ่าสารพัดพิษ” เป็นสำนวนเก่าแก่สำนวนหนึ่งที่สื่อมวลชนไทยหยิบยกมาใช้ในการเปรียบเทียบกับนักการเมืองสูงอายุแต่มีเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงทางการเมืองแพรวพราว เมื่อประมาณ 40-50 ปีที่แล้ว
ผมอ่านบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2568 ที่เหลือนี้ จากถ้อยแถลงของท่านอธิการบดีมหาวิทยาลัย หอการค้าไทย ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ครั้งล่าสุดเมื่อเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา…แล้วก็ค่อนข้างเห็นด้วยกับท่าน
กำลังว้าวุ่นใจอยู่กับเหตุการณ์ทางการเมืองในบ้านเราว่าจะจบอย่างไรหนอ? และจะวุ่นวายมากน้อยเพียงใดหนอ? เมื่อรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยและนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ไม่ยอมลาออก ไม่ยอมยุบสภา ประกาศเดินหน้าต่อไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผมมีความจำเป็นที่จะต้องเขียนต้นฉบับวันนี้ล่วงหน้า ทำให้ไม่สามารถจะรอเหตุการณ์ที่น่ากังวลใจ น่าห่วงใยอย่างยิ่ง ที่ “ตะวันออกกลาง” กรณีอิสราเอลโจมตีอิหร่านกว่า 200 จุด รวมทั้งศูนย์วิจัยนิวเคลียร์ด้วย และต่อมาอิหร่านก็โจมตีอิสราเอลกลับ ยิงจรวดหลายร้อยลูกเข้าใส่กรุงเทลอาวีฟและเยรูซาเล็มอย่างดุเดือดนั้น จะจบลงอย่างไร? หรือบานปลายออกไปอย่างไร?
หลังจากที่ท่านเลขาธิการสภาพัฒน์แถลงตัวเลขการขยายตัวของจีดีพีไตรมาสแรกปีนี้ว่าอยู่ที่ 3.1 เปอร์เซ็นต์ แต่มีรัฐมนตรีท่านหนึ่งของรัฐบาลบอกว่าก็ยังเป็นอัตราขยายตัวที่เกิน 3 เปอร์เซ็นต์ และเป็นฝีมือของรัฐบาลนี้โดยตรง