ฤาจะเป็นสงคราม “สีเทา”? ปกป้อง “เมืองหลวง” สแกมเมอร์

นักวิเคราะห์เหตุการณ์ปะทะชายแดนระหว่างกัมพูชา ผู้ก่อกวนและยิงก่อนกับกองทัพไทยที่สู้เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย เริ่มพูดหรือ “วิเคราะห์” กันถี่ขึ้นแล้วครับว่าเหตุไฉนทหารเขมรงวดนี้จึงมีกระสุน และอาวุธยุทโธปกรณ์เยอะเหลือเกิน

แถมยังมีอาวุธรบรุ่นใหม่ล่าสุดมาใช้ด้วยแม้การสู้รบจะผ่านมา 7-8 วันแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงสาดอาวุธเข้าใส่หมู่บ้านของไทยอย่างไม่หยุดหย่อน และยิงสาดแบบทิ้งๆ ขว้างๆ เหมือนไม่กลัวกระสุนหมดคลังอย่างไรอย่างนั้น

ทำให้ต้องตั้งข้อสังเกตกันว่ามีใครส่งเงินมาช่วยกัมพูชารบหรือเปล่า? ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ในตลาดมืดหรือเปล่า? จ้างนักรบรับจ้างมาบังคับโดรนในการสู้รบหรือไม่อย่างไร?

รวมทั้งเป็นไปได้ไหมที่บรรดาเจ้าของเงินทุนนอกระบบหรือสแกมเมอร์ต่างๆ จะ “ลงขัน” กันมาช่วยกัมพูชารบเพื่อปกป้องกัมพูชา ซึ่งเปรียบเสมือนที่มั่นสุดท้ายของพวกเขาไว้ผมก็เลยลองตั้งเป็นประเด็นถาม “กูเกิล” ดูว่า

เงินสีเทาในกัมพูชาเป็นอย่างไร? มีสัดส่วนเท่าใดของ GDP กัมพูชา? และนี่คือคำตอบจาก AI ในกูเกิลครับ

เงินนอกระบบมีบทบาทสูง : ธุรกิจสีเทาอย่างแก๊งคอลเซ็นเตอร์สแกมเมอร์ ทำรายได้มหาศาล (อาจถึง 4-6 แสนล้านบาทต่อปี หรือประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ของ GDP กัมพูชาแต่ละปี) ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

เงินจากธุรกิจเหล่านี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ GDP ทำให้เศรษฐกิจกัมพูชาเติบโตเร็ว แต่เป็นการเติบโตที่มาจากกิจการผิดกฎหมายและไม่โปร่งใสทุนจีนสีเทา โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (ถนน, โรงแรม) จากทุนจีน สีเทา ขาดความโปร่งใส กลายเป็นฐานให้กลุ่มทุนเถื่อน และอาชญากรรมไซเบอร์ขยายตัว และฟอกเงินผลกระทบต่อภาพรวม :

GDP เติบโตแต่คนส่วนใหญ่ยังยากจน รายได้เฉลี่ยตํ่า การพึ่งพาภาคเกษตรกรรมยังสูงธุรกิจสีเทาหลักๆ ในกัมพูชา ได้แก่

1.แก๊งคอลเซ็นเตอร์/สแกมเมอร์ อันเป็นแหล่งรายได้หลัก สร้างความเสียหายทั่วโลก 2.บ่อนออนไลน์การพนันมีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจสีเทา 3.ธุรกิจสีเทาอื่นๆ อาจรวมถึงการฟอกเงิน การค้ามนุษย์ที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายอาชญากรรม

ปัญหาที่ตามมา 1.คอร์รัปชัน เอื้อให้ธุรกิจสีเทาเฟื่องฟู 2.การฟอกเงิน เงินผิดกฎหมายหมุนเวียนในระบบ 3.ปัญหาอาชญากรไซเบอร์ กัมพูชาถูกมองเป็นศูนย์กลางของปัญหา

สรุป แม้ GDP กัมพูชาจะเติบโต แต่เงินสีเทาจากกิจกรรมนอกระบบเหล่านี้มีส่วนสำคัญและสร้างปัญหาที่ซับซ้อนทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม จนบางครั้งถูกเรียกว่า “เป็นเศรษฐกิจแบบ Scamtopia” ครับ! ผมก็ลอกคำอธิบายในส่วนของคำถามว่า “เงินสีเทานอกระบบมีส่วนสัมพันธ์กับ GDP กัมพูชาแค่ไหน?” ที่กูเกิลลงตีพิมพ์เอาไว้โดยไม่ตัดทอนอะไรเลย

หากนาย ฮุน เซน หรือ ฮุน มาเนต ไม่เห็นด้วยในประเด็นไหน กรุณาไปโต้ตอบ หรือสั่งลบออกจากกูเกิลเอาเองนะครับ

หากคำตอบข้างต้นเป็นจริงก็แสดงว่าเงินสีเทานอกระบบซึ่งมีถึง 60 เปอร์เซ็นต์ของ GDP เขมรและเป็นตัวเลขประมาณ 4-6 แสนล้านบาทต่อปีนั้น…สูงไม่ใช่เล่นสูงและมากพอที่บรรดาสแกมเมอร์ทั้งหลายจะนำมาใช้ซื้ออาวุธในตลาดมืด หรือจ้างนักรบรับจ้างต่างชาติเพื่อปกป้องกัมพูชา

ซึ่งเปรียบเสมือนเมืองหลวงสแกมเมอร์ของเขาได้อย่างแน่นอน ซึ่งจะส่งผลให้การปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องแผ่นดินของกองทัพไทยเรายากลำบากมากขึ้น เพราะต้องรบกับศัตรูที่นอกเหนือไปจากทหารกัมพูชาและมีงบประมาณที่พร้อมจะทุ่มเทอย่างเต็มที่

ผมภาวนาให้ข้อสันนิษฐานเรื่องนี้เป็นจริง เพราะจะทำให้ “กฎ แห่งกรรม” เรื่องทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นจริงในที่สุด…

ต่อให้เงินสแกมเมอร์จะเยอะแค่ไหน แต่เมื่อเป็นเงินจากความชั่วร้ายย่อมหนี ไม่พ้นกฎแห่งกรรมแน่นอนครับ.

“ซูม”

ชายแดนไทยกัมพูชา ความตึงเครียดด้านความมั่นคง วิเคราะห์บทบาทเงินสีเทาและสแกมเมอร์ต่อสถานการณ์ปะทะ