เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมแวะไปดูละครเวทีระดับโลก “แฟนธอม ออฟ ดิ โอเปร่า” ที่พาคณะมาแสดงที่โรงละครรัชดาลัยเธียเตอร์ ถนนรัชดา และจัดแสดงไปตลอดสิ้นเดือนสิงหาคมนี้
ละครสนุกอย่างไร? ประทับใจแค่ไหน? ผมจะเขียนละเอียดในคอลัมน์ “ซอกแซก” วันอาทิตย์นี้นะครับ.. สำหรับวันนี้ ขอทำหน้าที่ถ่ายทอดบรรยากาศการท่องเที่ยวของประเทศไทยเราเสียก่อนว่า ณ นาทีนี้ (ในช่วงที่เศรษฐกิจไทยอยู่ระหว่างขาลง และนายทรัมป์เล่นงานเราด้วยภาษีนำเข้าร้อยละ 19 หลายวันมาแล้วนั้น) เป็นอย่างไรกันบ้าง?
โดยเริ่มจากบรรยากาศของ โรงละครรัชดาลัย และ ตลาดกลางคืนในย่านนั้น และข้อมูล “คลิปวีดีโอ” ที่ผมเห็นโพสต์อยู่ยูทูบ ตลอด 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ละครเรื่อง “ปีศาจโรงละคร” หรือ “แฟนธอม ออฟ ดิ โอเปร่า” ลงโรงมาหลายวันแล้ว มีข่าวว่าคึกคักคนดูแน่นตั้งแต่รอบกาล่า และรอบพิเศษของโรงพยาบาลรามาธิบดี+รอบพิเศษของธนาคารกรุงเทพ ที่มีการรายงานในสื่อต่างๆ
รอบพิเศษคนดูฟรีเยอะ ยังไงๆ ก็คึกคักแน่น แต่เวลาแสดงจริงๆ จะเต็มหรือไม่? คือคำตอบแรกที่ผมอยากรู้ จึงต้องลุ้นเป็นพิเศษก่อนไปถึงรัชดาลัย เมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่แล้ว
ปรากฏผลว่า ชื่นใจครับ.. เต็ม 98 เปอร์เซ็นต์ มีว่างแค่ 2-3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และที่สำคัญคนดูที่เห็นเป็นฝรั่งครึ่งหนึ่งไทยครึ่งหนึ่ง แปลว่าได้นักท่องเที่ยวฝรั่งหรือฝรั่งที่มาทำงานอยู่ในประเทศไทยครึ่งโรงกับคนไทยซึ่งแต่งตัวดีใส่ของแพง เห็นชัดว่ามาจากกลุ่ม 10 เปอร์เซ็นต์บน ที่ร่ำรวยได้ส่วนแบ่งจาก GDP ไปมากสุดตามที่นักเศรษฐศาสตร์ไทยเขาเคยคำนวณไว้
จากภาพที่เห็นแสดงว่า ณ วินาทีนี้ธุรกิจประเภทบันเทิง สำหรับละครเรื่องนี้น่าจะ “ทำกำไร” ให้คุณ ไบรอัน มาร์การ์ ประธานบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ และคุณ “บอย” ถกลเกียรติ วีรวรรณ ประธานบริษัท ซีนาริโอ ผู้ร่วมกันลงทุนจัดแสดงละครชุดนี้.. พอสมควร.. หรือไม่ก็ไม่ขาดทุนแน่ๆ
ผมออกจากโรงละครตอน 3 ทุ่มครึ่งก็มาเจอปัญหารถติดที่แถวๆ ใกล้โรงละครนั่นแหละครับ เหตุเพราะเลยมาหน่อยเดียวที่เคยเป็นร้านว่างหน้าห้างบิ๊กซี วันนี้กลายเป็น “ตลาดนัดกลางคืน” ไปเรียบร้อยแล้ว เพราะ “จ๊อดแฟร์” หรือ “จ๊อดมาร์เกต” ตลาดยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่เคยสว่างไสวอยู่หลังห้างเซ็นทรัลรัชดา-ย้ายมาอยู่ที่นี่แล้ว
พบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินหิ้วของพะรุงพะรังในตลาดจ๊อดแฟร์แห่งใหม่เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์แน่นเอี๊ยดไปหมด
แถมยังทยอยมากันอีกเพราะยังมีรถแท็กซี่ทยอยเข้ามาจอดส่งจอดรับยาวเหยียดจนทำให้รถติด (และเป็นเวลาที่ทำให้กองเชียร์ประเทศไทยอย่างผมมีความสุขที่สุด)
เพราะแสดงให้เห็นว่า “การท่องเที่ยว” ของเรายังไม่ตาย และยังมีพลังที่พร้อมจะฟื้นกลับมาในหลายๆ จุดของประเทศไทย
กลับมาบ้านอ่านข่าวล่าสุด ท่าน รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา สรวงศ์ เทียนทอง แถลงว่า ตั้งแต่ 1 ม.ค. ถึง 3 ส.ค. รวม 7 เดือน ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมเข้ามา 19.5 ล้านคนครับ สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 900,000 ล้านบาท
นักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรกได้แก่ จีน (2.7 ล้านคนเศษ) มาเลเซีย (2.7 ล้านเศษ) อินเดีย (1.3 ล้านเศษ) รัสเซีย (1.1 ล้านเศษ) เกาหลีใต้ (9 แสนเศษ) รวมแล้วชะลอลดลงจากปีกลาย 5.25%
ก็ต้องยอมรับความจริงกันไปเพราะในท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจแย่ทั่วโลกอย่างนี้และเกิดปรากฏ “ทรัมป์คลั่ง” เขย่าโลกเช่นนี้ ยังมีคนมาเที่ยวบ้านเราขนาดนี้.. ผมว่าก็โอเคแล้วครับ
นั่งดูคลิปวีดีโอของอินฟลูฯ หลายๆ คน ก็ยังรายงานว่าสุวรรณภูมิแน่นทุกวัน และที่ทรงวาดที่จตุจักรก็ยังแน่นอยู่
แน่นอนย่อมสู้ปีที่ผ่านมาไม่ได้ จินยังหาและกลับมาไม่เท่าเดิม แต่ก็อย่างที่บอกและเห็นด้วยสายตาผมเอง การท่องเที่ยวไทยยังมีลมหายใจ.. ขอให้กำลังใจขอให้สู้ต่อไป.. ปรับปรุงกลยุทธ์ปรับทิศทางการทำงานเสียหน่อย ธุรกิจการท่องเที่ยวยังเป็นที่พึ่งในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยได้แน่นอนครับ.
“ซูม”