ภาวนา “ศึก” ยิว–อิหร่าน! อย่าให้ “บานปลาย” กว่านี้

ผมเขียนต้นฉบับวันนี้ในช่วงใกล้ๆ เที่ยงของวันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2568 ซึ่งจะเป็นวันประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย–กัมพูชา ครั้งที่ 6 ตามที่มีข่าวล่วงหน้ามาหลายวันแล้ว

จนเที่ยงเศษๆ ได้เวลาที่ผมจะต้องส่งต้นฉบับแล้ว ก็ยังไม่มีรายงานผลการประชุมเข้ามาแต่อย่างใด…คงต้องหันไปคุยกันในเรื่องอื่นๆ ก่อนละครับ

จริงๆ แล้วเช้าวันนี้ (เสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2568) มีข่าวพาดหัวระดับโลกมาเขย่าขวัญผู้คนทั่วโลกตั้งแต่บ่ายๆ เย็นๆ ของวันศุกร์แล้ว เมื่อสำนักข่าวต่างๆ รายงานว่า อิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่านทางอากาศ เล่นงานที่ตั้งโรงงานนิวเคลียร์ และโรงงานขีปนาวุธตลอดจนกองบัญชาการทหารบางส่วนของอิหร่านอย่างหนักหน่วง

มีรายงานว่า ผู้นำระดับสูงของอิหร่าน และนักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์ที่มีชื่อเสียงได้สูญเสียชีวิตในการโจมตีครั้งนี้ด้วย

นำความวิตกกังวลมาสู่ตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ซึ่งปรากฏว่า หุ้น ดาวโจนส์ ร่วงไปถึง 770 จุด ปิดที่ 42,198 จุด, เอสแอนด์พี ร่วงไป 68 จุด ปิดที่ 6,977 จุด และ แนสแด็ก ก็หล่นถึง 256 จุด ปิดที่ 19,407 จุด

ที่สำคัญราคานํ้ามันในตลาดโลกก็พุ่งกระฉูดขึ้นทันที โดยนํ้ามันดิบเวสต์ เท็กซัส ที่นิวยอร์ก พุ่งรวดเดียวถึง 4.94 เหรียญสหรัฐฯต่อหนึ่งบาร์เรล ทำให้ราคานํ้ามันดิบกระโดดขึ้นไปปิดที่ 72 เหรียญ 98 เซนต์ต่อบาร์เรล กลับมาเกินหลัก 70 เหรียญอีกครั้ง

ในห้วงเวลาดังกล่าวยังไม่มีการตอบโต้จากอิหร่าน นอกจากจะมีข่าวว่าอิหร่านซึ่งเสียหายหนักมาก จะเอาคืนแน่นอน จะไม่ปล่อยให้อิสราเอลเล่นงานข้างเดียวเด็ดขาด

ก็ปรากฏว่าเป็นความจริง ในช่วงสายๆ วันเสาร์บ้านเราซึ่งเป็นเวลาคํ่าคืนที่อิสราเอล ทางอิหร่านก็เล่นงานอิสราเอลทันที ทั้งจรวดทั้งโดรนพุ่งเข้าใส่กรุง เทลอาวีฟ ไฟลุกโชนหลายๆ จุด

อิสราเอลแถลงข่าวว่าสกัดกั้นได้เป็นส่วนใหญ่ แต่จากวิดีโอที่เปิดเผย พบว่าจรวดและโดรนสามารถแหวกเข้าไปได้หลายๆ จุด ทำความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินให้แก่อิสราเอลไม่น้อยเช่นกัน

ผมจำเป็นต้องส่งต้นฉบับเวลาบ่ายโมงครึ่ง เหตุการณ์ดูเหมือนจะยังไม่จบเลยครับ และจะจบอย่างไรยังคาดเดาไม่ถูก สำนักข่าวรายงาน ว่าอิสราเอลซึ่งตั้งหลักได้แล้ว ก็เริ่มยิงสวนเข้าใส่กรุงเตหะรานอีกรอบ

ในทัศนะของผม ข่าวสงครามจากตะวันออกกลางที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้เรื่องราวกระทบกระทั่งระหว่างเรากับกัมพูชาเบาลงไปเยอะเลย

แน่ละ…อาจไม่เบาระหว่างเรากับเขมร เพราะยังไม่รู้จะจบอย่างไรและจะมีการตอบโต้อะไรจากฝ่ายโน้นออกมาอีก

แต่เมื่อมองในมุมของโลกจะเห็นว่าสถานการณ์ตะวันออกกลางล่อแหลมกว่ามาก อาจนำไปสู่ความเสียหายด้านเศรษฐกิจของโลกมากขึ้นอีกหลายเท่า ไม่ต้องอื่นไกล เฉพาะราคานํ้ามันโลกที่พรวดๆ ขึ้นมาอย่างเดียวก็หนักหนาสาหัสแล้วครับ

คงจำกันได้ ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานี่เอง ธนาคารโลก ฟันธงแล้วว่าอัตราความเจริญเติบโตของโลก ซึ่งก็ไม่ดีอยู่แล้ว คาดว่าจะขยายตัวได้ประมาณ 2.7 แต่จะลดเหลือแค่ 2.3 จากการอาละวาดของประธานาธิบดีทรัมป์

ของเรานั้นธนาคารโลกคาดเหมือนสภาพัฒน์ว่า จาก 2.9 เปอร์เซ็นต์ จะเหลือแค่ 1.8 เปอร์เซ็นต์

นี่ถ้ามาเจอผลกระทบจากสงครามตะวันออกกลางเข้าให้อีก ทั้งโลก ทั้งเรา จะหนักอีกเพียงไหน คงต้องลุ้นต่อไป

สำหรับผมเองขอลุ้นให้ศึกตะวันออกกลางคลี่คลายโดยเร็วที่สุด และศึกภาษีศุลกากรระหว่างเรากับสหรัฐฯที่ยังไม่รู้จะจบอย่างไรนั้น ขอให้มีผลเสียหายน้อยที่สุด

ส่วนเรื่องคันหัวกับ 2 พ่อลูกประเทศข้างบ้าน ซึ่งอาจมีผลกระทบด้านเศรษฐกิจบ้างนิดๆ หน่อยๆ ก็ช่างเถอะ ถ้าเป็นมาตรการตอบโต้ที่ได้ผล…ก็ขอให้ใช้มาตรการที่ว่านี้ต่อไป

นาทีนี้ช่วยกันภาวนาอย่าให้สงครามตะวันออกกลาง “บานปลาย” ก็แล้วกันครับ.

“ซูม”

สถานการณ์สงครามอิสราเอลอิหร่าน และผลกระทบเศรษฐกิจโลกในปี 2025