ผมเป็นคนหัวเก่าชอบอ่านหนังสือพิมพ์ ชอบอ่านหนังสือเป็นเล่มๆ ไม่ค่อยชอบอ่านจากจอมือถือ หรือแม้แต่จอคอมพิวเตอร์ก็เถอะ…จึงแอบเป็นกองเชียร์หนังสือเล่มและหนังสือพิมพ์มาโดยตลอด
เมื่อสัปดาห์ก่อนโน้นได้อ่านบทสัมภาษณ์ของรัฐมนตรีศึกษาธิการ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ เกี่ยวกับ ที่อ่านหนังสือประจำหมู่บ้าน แล้วก็รู้สึกดีใจจนต้องหยิบมาเขียนถึงในวันนี้
ท่านรัฐมนตรีกล่าวกับหน้าการศึกษาของไทยรัฐว่าผลการสำรวจของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ร่วมกับกรมส่งเสริมการเรียนรู้ล่าสุด พบว่าอัตราการรู้หนังสือของคนไทยเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 98 เปอร์เซ็นต์
ท่านรู้สึกดีใจและขอบคุณผู้ปฏิบัติงานทุกๆฝ่าย แต่โดยส่วนตัวท่านก็ยังห่วงใยอยู่ เพราะในการสำรวจพบว่ายังมีปัญหาการไม่รู้หนังสืออยู่บ้างใน 51 จังหวัด
อีกกลุ่มหนึ่งที่ท่านเป็นห่วงคือ กลุ่มผู้สูงวัย ซึ่งยังมีปัญหาในการอ่านหนังสือมากกว่ากลุ่มอื่น แต่ทางกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ก็เตรียมการของบประมาณเพื่อจัดทำ “ที่อ่านหนังสือในหมู่บ้าน” กว่า 5 หมื่น 4 พันแห่งทั่วประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป
ผมเองก็ดีใจและตื่นเต้นมากที่ทราบว่า “ที่อ่านหนังสือประจำหมู่บ้าน” ยังคงมีอยู่และมีถึง 5 หมื่นกว่าหมู่บ้านดังกล่าว
เพราะผมห่างเหินวงการพัฒนาชนบทมาเสียนาน ได้ยินว่า ที่อ่านหนังสือประจำหมู่บ้าน ซึ่งสมัยก่อนเรียกว่า “ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน” นั้นเลิกราหรือร้างราไปเกือบหมดแล้ว
ยิ่งทุกวันนี้หนังสือพิมพ์ได้รับความนิยมน้อยลง โดนสำนักข่าวโซเชียลผ่านโทรศัพท์มือถือเข้ามาแย่งชิงความนิยมไปเรียบร้อย…ประกอบกับบรรดาเอเย่นต์หรือสายส่งหนังสือพิมพ์ในจังหวัดต่างๆก็ค่อยเลิกราไป ทำให้การส่งหนังสือพิมพ์เข้าสู่หมู่บ้านค่อนข้างยากลำบาก
ผมก็นึกว่าที่อ่านหนังสือหมู่บ้าน ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มของ ปูชนียบุคคล ด้านการศึกษาท่านหนึ่ง…ได้แก่ ท่าน ดร.โกวิท วรพิพัฒน์ จะสูญพันธุ์ไปเสียแล้ว
จึงรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ทราบว่ายังอยู่และจะได้รับการพัฒนาส่งเสริมให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นไปอีก
ผมยังจำได้ว่าท่าน ดร.โกวิทได้เสนอแนะให้มีที่อ่านหนังสือพิมพ์หมู่บ้านมาหลายปี แต่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ในกระทรวง
จนมาถึงยุครัฐบาล “ป๋าเปรม” พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ที่เน้นการพัฒนาชนบท ตั้ง คณะกรรมการพัฒนาชนบทแห่งชาติ โดยท่านขันอาสาเป็นประธานด้วยตนเอง มี สภาพัฒน์ เป็นฝ่ายเลขานุการ
วันหนึ่ง คุณ โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองเลขาธิการสภาพัฒน์ ดูแลด้านการพัฒนาชนบท ก็เชิญท่านอาจารย์โกวิทมาดื่มกาแฟที่โรงแรม ราชศุภมิตร ใกล้ๆสภาพัฒน์ พร้อมกับแจ้งว่าได้ติดตามโครงการที่อ่านหนังสือพิมพ์หมู่บ้าน เพื่อช่วยประชาชนมิให้ลืมหนังสือมาโดยตลอด
ทราบดีว่ากระทรวงศึกษาธิการไม่มีงบประมาณ…คุณโฆสิต จึงเสนอให้อาจารย์โกวิทจัดทำโครงการมาของบประมาณจากคณะกรรมการพัฒนาชนบทแห่งชาติ ซึ่งก็ได้รับอนุมัติเมื่อ พ.ศ.2524 หรือ 2525 ประมาณนั้น
โครงการที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้านจึงเกิดขึ้น และจากการประเมินผลในยุคนั้นก็พบว่า ช่วยให้ชาวชนบทที่จบ ป.4 หรือ ป.6 ไม่ลืมหนังสือได้อย่างดียิ่ง
หลังจากผมมาทำงานไทยรัฐเต็มตัวแล้วก็แทบไม่ได้กลับไปชนบทอีกเลย จึงไม่ทราบว่าที่อ่านหนังสือพิมพ์หมู่บ้านเป็นตายร้ายดีอย่างไร? เมื่อทราบว่ายังอยู่และขยายความเป็นที่ “อ่านหนังสือ” อื่นๆ ด้วย จึงรู้สึกยินดีอย่างยิ่ง
ผมเอาใจช่วยเต็มที่ครับ และยังเชื่ออยู่ว่า สำหรับผู้อาวุโสนั้นน่าจะชอบอ่านหนังสือพิมพ์ หรือหนังสือเล่มมากกว่าอ่านหนังสือจากจอมือถือ…ดังนั้นวิธีช่วยให้ท่านไม่ลืมหนังสือก็คือที่อ่านหนังสือหมู่บ้านนี่แหละครับ.
“ซูม”

