เชื่อไหม? ดุสิตธานี “กรอบรูป” สวยที่สุด

ข้อเขียน “ซอกแซก” อาทิตย์นี้เป็นผลพวงมาจากข้อเขียน “ซอกแซก” เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคมปีกลาย (2567) หรือเกือบ ๆ 5 เดือนที่แล้ว

ท่านผู้อ่านที่เป็นแฟนคลับของคอลัมน์นี้คงจะพอจำได้ ผมได้เขียนถึงการกลับมาอีกครั้งหนึ่งของ “โรงแรมดุสิตธานี” โรงแรมทันสมัยรุ่นเก่าของประเทศไทยที่เปรียบเสมือนทัพหน้าในการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองและนักท่องเที่ยวที่เริ่มมุ่งหน้าเดินทางมาเยือนประเทศไทยมากขึ้นเมื่อประมาณ 60 ปีที่แล้ว

ผมจึงกลับไปใช้บริการโดยแวะไปดื่มกาแฟ รับประทานของว่างที่คอฟฟีช็อป พร้อมกับถือโอกาสเดินตระเวนดูโน่นนี่ไปรอบ ๆ ปรากฏว่าไปเจอพนักงานใจดีพอทราบว่าผมเป็น FC เก่าของดุสิตธานีก็พาไปเดินชม “ของเก่า” อีกหลายอย่าง โดยเฉพาะห้องจัดเลี้ยง “นภาลัย” ที่ยังคงอยู่–น้ำตก 9 ชั้นที่ยังคงอยู่และ ฯลฯ ที่ยังคงอยู่

รวมทั้งสระน้ำที่สร้างขึ้นใหม่ ณ บริเวณดาดฟ้าที่ยื่นออกมาเป็นพิเศษของชั้น 5 มองเห็นยอดไม้และต้นไม้อันเขียวขจีของสวนลุมพินีอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล–กลายเป็นสระน้ำที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของประเทศไทยไปอย่างเหลือเชื่อ

พนักงานใจดียังบอกผมด้วยว่า อีกสิ่งหนึ่งที่ดุสิตธานีใหม่ยังรักษาไว้ก็คือ “ยอดแหลม” ของชั้นสูงสุดที่จำลองมาจากพระปรางค์วัดอรุณฯ แท่งเก่ายังคงอยู่ทุกประการ โดยมีการสร้างแท่งใหม่ที่ใหญ่และสูงกว่าเก่าครอบไว้อย่างมิดชิด

ผมยังไม่มีโอกาสได้ขึ้นไปดู แต่ก็ตั้งใจว่าจะต้องหาโอกาสขึ้นไปดูสักครั้งเมื่อมีเวลามากกว่าเมื่อตอนที่ไปเยือนครั้งที่แล้ว

ก็ปรากฏว่าผู้อ่านคอลัมน์นี้ท่านหนึ่งที่สนิทชิดเชื้อกับผมมานานมากแล้ว คุณ ชาลอต โทณวณิก ซึ่งเป็นญาติของคุณ ชนินทธ์ โทณวณิก บุตรชายของท่านผู้หญิง ชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ให้กำเนิดโรงแรมดุสิตธานี และในอดีตคุณชาลอตก็เคยได้รับความเมตตาจากท่านผู้หญิงชนัตถ์มาโดยตลอด

คุณชาลอตมีความเห็นว่าเรื่องราวหลาย ๆ เรื่องของโรงแรมดุสิตธานี โดยเฉพาะ “วิสัยทัศน์” อันยาวไกลมากของท่านผู้หญิงชนัตถ์ควรจะได้มีการบันทึกไว้ผ่านคอลัมน์ของผม เพื่อให้ท่านผู้อ่านไทยรัฐได้มีโอกาสรับรู้รับทราบอีกทางหนึ่ง

จึงได้ติดต่อประสานให้ผมมีโอกาสได้พบและสัมภาษณ์คุณ ชนินทธ์ โทณวณิก ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหารบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เมื่อวันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์

ได้พูดได้คุยได้เดินชมหลาย ๆ ห้องสำคัญ ๆ ที่ดุสิตธานี (ใหม่) ยังคงเก็บไว้ รวมทั้งมีโอกาสได้ขึ้นไปสู่ ยอดสูงสุด ของดุสิตธานีใหม่ นั่งดื่มเครื่องดื่มเย็น ๆ ชมวิวยามเย็นที่สวยงามเหลือเกิน สมมาดปรารถนา

เป็นที่มาของข้อเขียน (อีกครั้งหนึ่ง) ของคอลัมน์ซอกแซกในวันนี้ ต่อจากฉบับเมื่อ 5 เดือนก่อนโน่นว่าอย่างนั้นเถอะ

คุณชนินทธ์เล่าว่า แรงบันดาลใจที่จะรื้อทิ้งของเก่าทั้งหลัง และสร้างขึ้นใหม่ทั้งหลังเช่นกันเกิดขึ้นในระหว่างปี 2560 เมื่อเครือดุสิตธานีได้ประกาศต่อสัญญาเช่าที่ดินกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นระยะเวลายาวถึง 67 ปี

ทำให้เกิดความคิดขึ้นว่า ดุสิตธานีเก่าแม้จะสวยงามเพียงใด มีตำนานและเรื่องราวมากมายเพียงใด แต่จากห้องที่มีอยู่ถึง 517 ห้อง และส่วนใหญ่ก็เป็นห้องเล็กและแคบตามแบบสมัยก่อน ไม่สามารถขยายให้ใหญ่โตกว้างขวางขึ้นได้อีก

โอกาสที่จะปรับตัวขึ้นเป็นโรงแรมชั้นหนึ่งตามมาตรฐานโลก เพื่อแข่งขันกับโรงแรมดังๆทั่วโลกจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้

จึงตัดสินใจทุบทิ้งทั้งหลังแล้วสร้างขึ้นใหม่ให้เหลือเพียง 257 ห้อง (จาก 517 ห้อง) แต่ให้สูงขึ้นเป็น 39 ชั้นจาก 23 ชั้น ซึ่งนอกจากจะได้โรงแรมแห่งใหม่ 1 โรงแรมแล้ว ยังเหลือพื้นที่ที่จะสร้างอาคารที่พักอาศัยหรือคอนโดได้อีก 1 หลัง รวมถึงอาคาร ห้างสรรพสินค้า ได้อีก 1 ห้าง พร้อมห้องที่จะเป็นออฟฟิศสำนักงานอีกจำนวนมากอยู่ด้านบน

เป็นที่มาของโครงการ ดุสิต เซ็นทรัลพาร์ค โดยการร่วมทุนกับเครือ เซ็นทรัล เจ้าของห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ไทย ตามที่เป็นข่าวมาโดยตลอด

โดยมูลค่าการลงทุนของโครงการนี้รวมกันทั้งสิ้นจะสูงถึง 46,000 ล้านบาท นับเป็นมูลค่าการลงทุนสูงเป็นอันดับ 5 ของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย

เฉพาะในส่วนที่เป็น “โรงแรมดุสิตธานี” นั้นเมื่อสามารถรื้อของเก่าและสร้างขึ้นใหม่ได้ก็สามารถที่จะดัดแปลงไปสู่ความโดดเด่นที่ดุสิตธานีมีอยู่ในตัวได้อย่างเต็มที่

จากเดิมที่ดุสิตธานีหันหน้าไปทาง 4 แยก ซึ่งจะเห็นแต่รถติดย่านศาลาแดง เป็นส่วนใหญ่ ก็สามารถหันหน้ามาทางสวนลุมพินีได้อย่างเต็มตัว

ทำให้ 200 กว่าห้องนอนใหญ่ของดุสิตธานีใหม่จะมองเห็น “วิวสวนลุมพินี” ซึ่งสวยมากได้ทุกห้อง กลายเป็นพาร์คโฮเต็ลที่สมบูรณ์แบบประกอบการออกแบบโดยใช้กระจกผืนใหญ่ผืนเดียว แบบไม่มีรอยต่อขนาดกว้าง 5 เมตร สูง 2 เมตร เป็นผนังด้านที่อยู่ติดกับสวน

จึงกลายเป็น “กรอบรูปยักษ์” ที่ผู้พักจะได้เห็นวิวอันงดงามของสวนลุมพินี และตึกระฟ้าด้านหลังสวนตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่เช้า-สาย-บ่ายเที่ยง ไปจนถึงค่ำคืนที่จะมีสีสันแตกต่างกันไป

นี่คือจุดเปลี่ยนอันยิ่งใหญ่ของโรงแรมดุสิตธานี สำหรับผู้เข้าพัก ซึ่งเมื่อก่อนมองจากหน้าต่างจะเห็นตึกทั่วๆไปกับขบวนรถติดยาวเหยียด แต่ ณ วันนี้จะมี “กรอบรูปยักษ์” ที่เปลี่ยนแปลงสีสันไปตลอดทั้งวัน มาให้ดูทดแทน.

(อ่านต่อซอกแซกสัปดาห์หน้านะครับ)

“ซูม”

โรงแรมดุสิตธานีใหม่วิวสวนลุมพินี การออกแบบที่ทันสมัยและการลงทุนมหาศาลในโครงการดุสิต เซ็นทรัลพาร์ค