ดังได้กล่าวไว้ในไทยรัฐฉบับเมื่อวานแล้วว่า ยุครัฐบาลหอยเป็นยุคที่สิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นของประชาชน และสื่อมวลชนได้รับการลิดรอน ถูกจำกัดและถูกควบคุมอย่างเข้มงวดมากที่สุดยุคหนึ่งของประเทศไทย
ยังจำได้ถึงความเครียดของคณะผู้บริหารไทยรัฐ ซึ่งมีอดีต ผอ.กำพล วัชรพล เป็นผู้นำทัพและต้องประชุมกันวันต่อวันเพื่อหาทางออกและการต่อสู้ทั้งเพื่อสิทธิเสรีภาพและความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเอง
ได้เห็นความปราดเปรื่องของท่าน ผอ.กำพล ในการวางตัว “ขุนพล” ของกองบรรณาธิการเสียใหม่ ให้บรรดาคอลัมนิสต์ด้านการเมืองที่เขียนเผ็ดมันแต่ไม่ต้องชะตากับ “รัฐบาล” หยุดพักไว้ก่อน
ข่าวการเมืองแทบไม่เสนอเลยแม้แต่ข่าวอาชญากรรมก็ต้องระวัง เพราะหากพาดหัวหรือนำเสนอในเชิงหวือหวา และล่อแหลมก็อาจโดนสั่งปิดได้
ผมเองเป็นคอลัมน์เบา ๆ กลาง ๆ ยุคนั้น จริง ๆ แล้วเขียนในทำนองสนุกสนานออกมุกตลกด้วยซ้ำ แต่ท่าน ผอ.ก็ขอร้องไม่ให้ตลกมาก โดยเฉพาะตลกการเมืองห้ามเด็ดขาด
แน่นอนด้วยข้อเขียนที่แห้งแล้งไร้รสชาติ และด้วยข่าวซึ่งไม่สามารถเจาะลึกในหลายๆเรื่องได้ดังที่เคยปฏิบัติมา ทำให้ยอดจำหน่ายหนังสือพิมพ์เริ่มนิ่งและบางวันก็ถดถอยลง
เป็นเหตุให้พวกเราในกองบรรณาธิการไทยรัฐต้องมาช่วยกันขบคิดว่าจะทำให้หนังสือพิมพ์ของเรา “ขายได้” อย่างน้อยก็ให้เท่าเดิม อย่าให้ถึงขั้นลดลงได้อย่างไร?
ในที่สุดเราก็มีความเห็นว่า ควรจะนำ “นิยายกำลังภายใน” มาลงในหนังสือพิมพ์ของเราแบบวันต่อวัน เพราะหากแฟนติดใจก็จะตามอ่านตามซื้อเพิ่มขึ้น
แต่ก็มีปัญหาว่า “เรื่องจีน” หรือ “นิยายกำลังภายใน” นั้นเป็นหนังสือที่อ่านยากเข้าใจยาก เพราะตัวละครเยอะขบวนท่าเยอะ ลึกลับซับซ้อน เหมาะสำหรับคนจบ ม.6 คนที่เรียนชั้นเตรียมอุดม หรือปี 1 ปี 2 มหาวิทยาลัยเป็นอย่างน้อย
หนังสือพิมพ์รายวันหลายฉบับได้นำมาลงแล้ว แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะผู้อ่านหนังสือพิมพ์ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด จะมีความรู้เพียงแค่ ป.4 หรือ ม.3 เป็นส่วนใหญ่
ดังนั้นหากไทยรัฐจะนำมาลงอีกก็ต้องเป็นกำลังภายใน ฉบับที่อ่านได้ง่าย ๆ ใช้ภาษาง่าย ๆ เข้าใจได้ทันที
จึงเป็นสาเหตุที่เราต้องส่งเทียบเชิญไปที่ น.นพรัตน์ นักเขียนกำลังภายใน 2 พี่น้องที่กำลังหนุ่มแน่น และชอบลองของ มาคุยกันพร้อมกับตั้งโจทย์ว่า เราอยากได้กำลังภายในที่คนจบ ป.4 อ่านได้ สัก 1 เรื่อง คุณไปช่วยจัดการให้หน่อย
เราขอเฉพาะเรื่องแรกเท่านั้น เพื่อให้คนอ่านของเราอ่าน เรื่อง 2 เรื่อง 3 ค่อยมาว่ากันอีกที
น.นพรัตน์ ตอบโอเคผมจะลองดู แล้วเขาก็ไปเลือกเรื่อง “อินทรีผงาดฟ้า” พระเอกชื่อ “เต็งพ้ง” ของ โกวเล้ง ส่งมาให้พวกเรา
ต้นฉบับ…แม้จะเป็นกำลังภายในที่อ่านง่ายขึ้นมาแล้ว แต่ก็เป็นระดับ ม.6 อยู่ พวกเราต้องขอให้คุณ น.นพรัตน์ ไปช่วยตัดตัวละครบางตัวออกไปลดความลึกลับซับซ้อนลง แต่พวกสำนวนโวหาร และคำเปรียบเปรยต่าง ๆ เรารู้ว่าชาวบ้านต้องชอบแน่ ๆ ก็ให้คงไว้
ปรับปรุงตัดต่อกันอยู่หลายรอบ จนเห็นว่าเป็นกำลังภายในที่อ่านได้ง่าย ๆ แล้วก็นำลงหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เมื่อกลางปี 2520
กลายเป็นประสบการณ์ใหม่ของการจัดทำหนังสือพิมพ์รายวันเมื่อ “อินทรีผงาดฟ้า” และ “เต็งพ้ง” เจ้าหนุ่มดาบโค้งวงพระจันทร์ โด่งดังไปทั่วประเทศไทย แฟน ๆ อ่านแล้วติดงอมแงมทั้ง ป.4, ม.3, ม.6 และระดับมหาวิทยาลัย
ยอดจำหน่ายไทยรัฐเพิ่มขึ้นวันละหลายหมื่นฉบับ จนท่าน ผอ. ตกรางวัลให้ น.นพรัตน์ ขึ้นเครื่องไปพักผ่อนที่ฮ่องกงอยู่หลายคืน… และต่อมา “กำลังภายใน” ก็กลายเป็นของโปรดของแฟน ๆ ไทยรัฐติดต่อมาอีกหลาย ๆ ปีก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นนวนิยายอย่างอื่น ๆ
นี่ถ้าไม่โดนกดขี่ลิดรอนเสรีภาพในยุครัฐบาลหอย “อินทรีผงาดฟ้า” ก็คงไม่มาผงาดในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ถือเสียว่าในท่ามกลางความทรงจำอันขมขื่น “ยุครัฐบาลหอย” ก็ยังมีความทรงจำอันสดชื่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ซุกอยู่ด้วยเหมือนกัน.
“ซูม”

