ในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร แถลงถึงผลงาน 90 วันของท่าน เมื่อวันพฤหัสบดี 12 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น ท่านได้พูดถึงโครงการและนโยบายที่เป็นความหวังของคนไทยในปีหน้าหรือปี 2568 เอาไว้ด้วย
หลายๆ โครงการผมเห็นด้วยและขอเอาใจช่วยเต็มที่ แต่ก็มีหลายๆ โครงการที่เป็นโครงการเก่าและจะนำมาทำใหม่ที่ผมคิดว่าอาจจะต้องมาระดมสมองไตร่ตรอง หรือทบทวนกันอีกครั้ง เพราะการดำเนินการที่แล้วมาพบว่ามีปัญหาและอุปสรรคเกิดขึ้นพอสมควร
ที่ผมชื่นชมและวันนี้ขอถือโอกาสนำมาเขียนให้กำลังใจเห็นจะได้แก่โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนของคนไทย รวมไปถึงหนี้ของผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อม ซึ่งค่อนข้างจะหนักหนาสาหัสดังที่เราได้ยิน สภาพัฒน์ ก็ดี แบงก์ชาติ ก็ดี แถลงข่าวแจ้งข้อมูลแจ้งตัวเลขอยู่เสมอๆ
ท่านนายกฯ อิ๊งค์ พูดถึงโครงการนี้ว่า จะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างรัฐบาล กระทรวงการคลัง แบงก์ชาติ และสถาบันการเงินต่างๆ โดยเฉพาะแบงก์พาณิชย์จะเข้ามาร่วมด้วยอย่างแข็งขัน
ที่ผมเอาใจช่วยเป็นพิเศษก็เพราะตระหนักดีว่า มนุษย์เงินเดือน หรือคนที่มีรายได้ปานกลาง ที่ประสงค์จะสร้างเนื้อสร้างตัวสร้างฐานะให้เป็นปึกแผ่นในยุคนี้สมัยนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย
เพราะจะต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถยนต์ จ่ายเงินค่าเทอมลูก และค่าใช้จ่ายประจำวันต่างๆ ซึ่งล้วนแพงหูฉี่แทบทั้งสิ้น
ผมเชื่ออยู่เสมอว่า คนชนชั้นกลาง หรือผู้มีรายได้ปานกลางนั้นคือ “ทรัพยากรหลัก” ของประเทศชาติ หากบุคคลกลุ่มนี้ต้องมาเผชิญกับปัญหาหนี้สินล้นพ้นตัว จะเอาขวัญกำลังใจที่ไหนไปทำงานไปพัฒนาชาติบ้านเมือง
ด้วยเหตุนี้ผมจึงเอาใจช่วยโครงการนี้เป็นพิเศษ
อีกเหตุผลหนึ่งที่ผมชอบก็เพราะโครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาล+กระทรวงการคลัง+ธนาคารแห่งประเทศไทย…แสดงให้เห็นว่า 2 หน่วยหลักทางเศรษฐกิจอันได้แก่ กระทรวงการคลัง กับแบงก์ชาติยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
รวมถึงรัฐบาลกับแบงก์ชาติด้วยก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีอย่างยิ่ง ท่านผู้ว่าการแบงก์ชาติถึงกับออกมาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงด้วยตนเอง
แสดงว่าแบงก์ชาติเขามิได้ขัดใจรัฐบาลเสมอไป…เขาขัดเฉพาะเรื่องที่ควรขัดเท่านั้น…เรื่องที่เขาเห็นว่าเป็นประโยชน์จริง เขาก็พร้อมจะทำให้เต็มที่
อีกอย่างหนึ่งที่ผมชอบมากก็เพราะในหนังสือจากผู้ว่าการแบงก์ชาติไปถึงสถาบันการเงินนั้นท่านใช้สำนวนแบบบ้านๆ สำหรับโครงการต่างๆ และแผนปฏิบัติการต่างๆ แสดงว่าแบงก์ชาติยุคนี้ลงมาติดดินเยอะมาก ใครหนอว่าอยู่แต่บนหอคอยงาช้าง
ชื่อโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” นี่ก็ติดดินมาก ฟังเหมือนเพลงปลุกใจ หรือเพลงรักชาติของคุณลุง สันติ ลุนเผ่ มากกว่า จะเป็นชื่อโครงการที่แบงก์ชาติมีส่วนร่วมอย่างสำคัญ
ในท่อนท้ายของหนังสือท่านผู้ว่าการเน้นว่า…“ธปท.หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ธนาคารพาณิชย์และบริษัทในกลุ่มธุรกิจ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจจะให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือลูกหนี้ตามมาตรการต่างๆ เป็นอย่างดี”
“เพื่อช่วยลดภาระหนี้สินและสนับสนุนให้ลูกหนี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถฟื้นตัวและกลับมาชำระหนี้ได้ หลังสิ้นสุดการให้ความช่วยเหลือลงแล้ว”
ล่าสุดมีรายงานว่า มีผู้เดือดร้อนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 5 หมื่นราย และทางการก็ยังประกาศรับผู้เข้าร่วมโครงการต่อไปจนถึง วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
ผมก็ถือโอกาสประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้อีกครั้งและขออวยพรให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จนะครับ ท่านนายกรัฐมนตรี.
“ซูม”