ตัดเกรดนายกฯ “อิ๊งค์” ม.หอการค้าไทยให้ “C+”

ผมเป็นแฟนคลับตัวจริงเสียงจริงของท่านอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย น่าจะกว่า 10 ปี แล้วกระมังครับ ตั้งแต่ท่านยังเป็นอาจารย์ประจำศูนย์ พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจของมหาวิทยาลัยเรื่อยมาจนถึง ได้เป็นอธิการบดีในขณะนี้

เวลาท่านไปทำวิจัยหรือสำรวจเศรษฐกิจเรื่องโน้นเรื่องนี้ ผมจะหยิบยกมารายงานต่อในคอลัมน์นี้อยู่เสมอ

เพื่อให้พี่น้องประชาชนที่อ่านไทยรัฐได้เรียนรู้ถึงข้อมูลและข้อเท็จจริงที่ท่านค้นพบ ซึ่งจากการติดตามมานาน ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นข้อมูลที่ “ไม่ลำเอียง” และใกล้เคียงกับความเป็นจริง

ล่าสุด ท่านออกมาแถลงถึงดัชนีความเชื่อมั่นของหอการค้าไทย (ภาคธุรกิจ) ประจำเดือนพฤศจิกายน พบว่าดัชนีที่เกี่ยวข้องหลายๆ ด้านปรับตัวดีขึ้น แสดงถึงความเชื่อมั่นของนักธุรกิจและผู้บริโภคสินค้าของไทยเริ่มจะฟื้นกลับมา

ขณะเดียวกันท่านอาจารย์ได้พูดถึง “ผลงาน 90 วัน” ของรัฐบาลนายกฯ อิ๊งค์ด้วยและตัดเกรดให้ C+ ครับ พร้อมกับขยายความว่า “ได้ C+ ก็ถือว่าดีแล้ว เพราะโจทย์ค่อนข้างยากมาก”

เกรด C+ ที่ว่านี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราเรียนระดับไหน…ถ้าเรียนระดับปริญญาตรี C+ ก็ถือว่าโอเคสอบผ่านได้

แต่ถ้าเป็นระดับปริญญาโทกับปริญญาเอกจะถือว่าสอบไม่ผ่าน …ผมไม่ทราบว่ายุคนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง…แต่ในช่วงที่ผมไปเรียนปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกาเมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว เทอมแรกเลยก็ได้ C+ และ B มาอย่างละตัว ทำให้ค่าเฉลี่ยของผมออกมาต่ำกว่า B

อาจารย์ที่ปรึกษาเรียกผมไปเตือนว่าคุณต้องไปหา A มาเฉลี่ยให้เป็น B ให้ได้นะและอย่าให้ได้ C มาอีก มันจะถ่วงคะแนนลงไปอีก จะทำให้มหาวิทยาลัยเขาอาจพิจารณาไม่ให้คุณเรียนต่อ เพราะระดับปริญญาโทของที่นี่อย่างต่ำต้อง B ต่ำกว่านั้นไม่ได้เลย

ผมฟังแล้วแทบเป็นลมและเครียดอยู่เป็นเดือน เพราะจะต้องไปหา A มาชดเชยและหากหาไม่ได้แล้วยังเผลอไปได้ C มาอีกตัวอาจจะต้องถูกเชิญออกจากมหาวิทยาลัยกลับบ้านมือเปล่า หมดอนาคตแต่เพียงเท่านี้

เทอมต่อมานอกจากทุ่มเทในการเรียนอย่างบ้าเลือดแล้วผมยังใช้คำสอนของ “พระโยคี” ที่สอน สุดสาคร ว่า “รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี” โดยเฉพาะท่อนท้ายการรักษาตัวรอดนั้นสำคัญที่สุด

ผมจึงต้องออกไปสืบค้นไปหาข้อมูลว่า มีอาจารย์ท่านไหนที่ใจดีมีเมตตามักให้เกรด A อยู่เสมอ จะเป็นวิชาอะไรก็ช่าง? กลับมาแล้วจะใช้ประโยชน์ได้หรือไม่ก็ช่าง? ขอเกรด A เอาไว้ก่อน

ก็ปรากฏว่าไปเจอโปรเฟสเซอร์จากอียิปต์ท่านหนึ่ง ท่านใจดีมากสอนวิชาพัฒนาเศรษฐกิจ เน้นด้านความยากจนของทวีปแอฟริกา ผมก็เลือกเรียนเลย แอฟริกาก็แอฟริกาเถิด ปรากฏว่าได้ A มาจริงๆ ทำให้ค่าเฉลี่ยของผมกลับมาเป็น B และได้เรียนต่อจนจบ…ในที่สุด

แถมยังกลายเป็นโชคดี เพราะพอกลับมาทำงานบ้านเรา ผมได้รับมอบหมายให้ไปทำงานด้านพัฒนาชนบทอยู่ระยะหนึ่ง สามารถใช้ความรู้เกี่ยวกับ “ความจน” ในวิชาเศรษฐกิจทวีปแอฟริกามาประยุกต์ได้เป็นอย่างดี

ที่ผมเขียนถึงท่านนายกฯ อิ๊งค์ในวันนี้ก็เพราะประสบการณ์คล้ายๆ กัน การสอบได้ C+ ในระดับปริญญาโทถือว่าได้คะแนนไม่ดีนัก ก็อยากจะให้กำลังใจท่านให้พยายามต่อไป เพราะโจทย์ยากอย่างที่ ดร.ธนวรรธน์ท่านว่าไว้

แต่ท่านนายกฯ ต้องเรียนเองสอบเองนะครับ…ให้คุณพ่อติวได้แต่ควรติวเงียบๆ อย่าเอิกเกริก และที่สำคัญอย่าให้คุณพ่อลงมาสอบแทนลูกอย่างเด็ดขาดเพราะต่อให้ได้ A ก็เป็นโมฆะ เพราะคุณพ่อพ้นสภาพนักศึกษาไปแล้วนะครับตามมาตรา 98 (7) ของรัฐธรรมนูญไม่มีสิทธิ์สอบจ้า!

“ซูม”

“ผลงาน 90 วัน” ของรัฐบาลนายกฯ อิ๊งค์ด้วยและตัดเกรดให้ C+ ครับ พร้อมกับขยายความว่า “ได้ C+ ก็ถือว่าดีแล้ว เพราะโจทย์ค่อนข้างยากมาก”