ผมคงต้องขออนุญาตท่านผู้อ่านหลบลี้หนีข่าวการเมืองเรื่องจัดตั้งรัฐบาลใหม่ต่ออีกสักวันนะครับ เพราะไปพลิกแฟ้มเอกสารบนโต๊ะทำงานแล้วเจอ “เอกสารข่าว” หรือในภาษาหนังสือพิมพ์ของพวกเราเรียกว่า “ข่าวแจก” ชิ้นนี้โดยบังเอิญ

ที่ใช้คำว่า “บังเอิญ” ก็เพราะผมได้รับ “ข่าวแจก” อันทรงคุณค่าชิ้นนี้มาร่วมๆ เดือนแล้ว แต่ช่วงนั้นดูกำหนดเวลาเห็นว่ายังอีกไกล จึงเก็บซุกเข้าแฟ้มเอาไว้ก่อน…ซุกจนลืมสนิทว่าอย่างนั้นเถิด

ถ้าไม่ “บังเอิญ” เกิดความรู้สึกว่าเราไม่ได้เปิดแฟ้มเอกสารนานแล้ว…ลองเปิดเสียหน่อยว่ามีข่าวคราวอะไรน่าสนใจบ้าง? ทำให้ผมหยิบแฟ้มออกมาเปิดแล้วก็พบว่า งานที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด สำหรับประเทศไทยของเรา งานนี้จะเริ่มขึ้นในวันจันทร์ที่ 26 สิงหาคมที่จะถึงนี้เอง

เก็บไปเขียนในคอลัมน์ “เสาร์สารพัน” วันพรุ่งนี้ก็จะช้าเกินไปและจะเขียนได้เพียงสั้นๆ เท่านั้น…จึงต้องขออนุญาตลัดคิวเขียนให้เต็มคอลัมน์ในวันนี้

ข่าวการเตรียมจัดงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2567” หรือที่ตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “Thailand Researh Expo 2024” นั่นแหละครับ

จะเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 26 เดือนสิงหาคมนี้ ไปจนถึงวันศุกร์ที่ 30 เดือนสิงหาคม ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และ บางกอก คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ สถานที่ที่เคยจัดติดต่อกันมาแล้วหลายๆ ปีนั่นเอง

ผมได้เขียนแสดงความคิดความเห็นผ่านคอลัมน์นี้เอาไว้หลายครั้งหลายหนแล้วว่า “งานวิจัย” ในด้านต่างๆเท่านั้น ที่จะเป็น “กุญแจ” สำคัญที่สุดที่จะเปิดประตูประเทศไทยให้ก้าวเดินออกไปสู่ความสำเร็จ ในการยกระดับการพัฒนาประเทศในวันข้างหน้า

ชาติใดประเทศใดก็ตาม หากไม่สนใจในเรื่องงานวิจัย โดยเฉพาะทางด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อันเป็นเหตุที่จะต้องซื้อหา หรือพึ่งพาเทคโนโลยีใหม่ๆ จากต่างประเทศไปตลอดละก็…ชาตินั้นประเทศนั้นจะไม่มีวันประสบความสำเร็จในการพัฒนาได้เลย

วันนี้จึงต้องเขียนเกริ่นนำอีกที เพื่อชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของ “งานวิจัย” และนวัตกรรม ก่อนจะเข้าเรื่องราวว่า Thailand Researh Expo 2024 จะมีแก่นมีสารอะไรบ้าง

ในเอกสารข่าวที่ สำนักงานวิจัยแห่งชาติ (วช.) ในสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมส่งมาถึงผมเดือนกว่าๆ แล้วนั้น สรุปว่าปีนี้จะมีการประชุมสัมมนากว่า 150 หัวข้อ

ครอบคลุมประเด็นสำคัญหลากหลาย อาทิ เรื่อง “ซอฟต์พาวเวอร์ : พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์”, “CEO Forum : Act Now Toward a Sustainable Future”, “Future Talent Empower : สร้างคนให้ตรงใจ ตอบโจทย์วิจัยของประเทศ” “การยกระดับอุตสาหกรรมระบบรางของประเทศด้วยงานวิจัย”, “ทำไมเราล้าหลังและประชาชนจะช่วยอะไรได้?” ฯลฯ

รวมถึงการเปิดตัวนักวิจัยศักยภาพสูงประจำปี 2567

ขณะเดียวกัน ก็จะจัดแสดงนิทรรศการจากผลงานวิจัยจากหน่วยงานและสถาบัน ตลอดจนสถานศึกษาที่เป็นเครือข่ายในระบบวิจัยและนวัตกรรมทั้งในเชิงนโยบาย, สังคม-ชุมชน, พาณิชย์และอุตสาหกรรมอีกกว่า 1,000 ผลงาน

หลายๆ ผลงานยังไม่สามารถดัดแปลงไปสู่การปฏิบัติหรือการพาณิชย์ได้ แต่ก็จะมีหลายๆ ผลงานทีเดียวที่ไปสู่การปฏิบัติแล้ว

อ้อ? เกือบลืมไปในวันเปิดงานวันจันทร์จะมีปาฐกถาพิเศษของรักษาการ รมว.อว. ศุภมาส อิศรภักดี ในหัวข้อ “ขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยวิทยาศาสตร์วิจัย และนวัตกรรม” ด้วยนะครับ

สำหรับผู้สนใจไปร่วมงานควรลงทะเบียนก่อน ดังเช่นที่ปฏิบัติมาโปรดคลิกไปที่ https://researchexpo.nrct.go.th ตั้งแต่บัดนี้

การเมืองจะวุ่นวายอย่างไรก็ช่างเขาเถิด แต่การวิจัยและพัฒนาและนวัตกรรม คือ ความอยู่รอดของชาติที่แท้ทรู…ขอฝากงานนี้ไว้ด้วยนะครับ ท่านผู้อ่านครับ.

“ซูม”