ผ่านไปเรียบร้อยโรงเรียนฝรั่งเศสแล้วนะครับ สำหรับพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนครั้งที่ 33 หรือ “ปารีส 2024” หรือ “ปารีส โอลิมปิก” ที่มวลมนุษยชาติทั่วโลก (รวมทั้งคนไทยเราด้วย) ต่างรอคอยว่าจะออกมาอย่างไร? ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างสมกับข่าวคราวที่รํ่าลือกันหรือไม่?

โดยเฉพาะประเด็นที่ว่าเจ้าภาพฝรั่งเศสจะ “ฉีกขนบ” พิธีเปิดที่จัดทำกันในสนามกีฬาขนาดใหญ่ มาเป็นการจัดในบริเวณสวนสาธารณะใจกลางกรุงปารีส พร้อมด้วยการใช้วิธีแห่นักกีฬาด้วยขบวนเรือมาตามลำนํ้าแซนระยะทางกว่า 6 กิโลเมตรนั้นจะทำได้ดีแค่ไหน?

กำหนดการถ่ายทอดของบ้านเราจะเริ่มขึ้นในเวลาเที่ยงคืนครึ่งของคืนวันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม หรือ 30 นาทีของเช้าวันใหม่วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พร้อมกับมีรายงานล่วงหน้าแล้วให้ทราบว่า จะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเศษ ใครจะดูชมคงจะต้องอดตาหลับขับตานอนกันหน่อยล่ะ เพราะกว่าจะจบน่าจะประมาณตี 3 ครึ่งเป็นอย่างน้อย

ประสาคอกีฬาเข้าเส้นเลือด ผมอุตส่าห์เตรียมตัวแอบหลับช่วงบ่ายๆ ตุนไว้ ตั้งใจจะเปิดทีวีดูในห้องนอนและหวังว่าจะดูได้ตั้งแต่ต้นจนจบ

ก็ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามข่าวที่ออกมาล่วงหน้าทุกประการ โดยเฉพาะการแห่นักกีฬาไปตามลำนํ้าแซน ถือว่ามาตามนัดล่องผ่านตึกรามบ้านช่อง และผ่านอัฒจันทร์ที่สร้างไว้ข้างๆ เพื่อให้ประชาชนไปนั่งดูชมตามเวลาที่แจ้งข่าวไว้

แต่กลับกลายเป็นการสร้างความผิดหวังให้กับคนดูอย่างใหญ่หลวง โดยเฉพาะในบ้านเรา เพราะกระแสวิจารณ์จากสื่อสังคมเริ่มแรงขึ้นเป็นระยะ

ว่าอืดอาดยืดยาดบ้าง เริ่มเรื่องแบบสับสนไปกลับมาจนเวียนหัวบ้าง ขบวนเรือไม่เห็นจะสวยอย่างที่คุยบ้าง

การแสดงการโชว์ตามริมฝั่งนํ้าหรือตามสะพานที่ขบวนเรือจะผ่าน ทั้งไม่สวยทั้งสุดกร่อยชวนง่วงนอนบ้าง

ผมก็เดาว่าที่โซเชียลบ้านเราวิจารณ์กันแรงในตอนแรกๆ ว่าจืดชืดนั้น ก็เพราะขบวนเรือของเขาเคลื่อนออกมาตอนทุ่มกว่าเวลาที่โน้น ซึ่งในฤดูร้อนเช่นนี้พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน ยังสว่างโร่อยู่ว่าอย่างนั้นเถิด

ภาพขบวนเรือแล่นอืดๆ และทิวทัศน์ 2 ฟากฝั่งยามตะวันไม่ตกดินยังไม่มีแสงไฟช่วย จึงดูไม่เฉิดฉาย อะไรๆจึงเชยไปหมด แม้แต่แดนซ์เซอร์ที่เต้นตามริมฝั่งหรือบนสะพานจึงดูเชยไปด้วย เป็นเหตุแฟนๆ ในเมืองไทยหลายคนบ่นอุบและหลบไปนอนเสียไม่น้อย

จนกระทั่งประมาณตี 3 บ้านเรา หรือราวๆ 4 ทุ่ม ที่โน่นพระอาทิตย์ที่โน่นตกดินสนิทแล้ว ได้เวลาเปิดไฟ…เท่านั้นเอง บรรยากาศก็เปลี่ยนจาก “หลังมือ” เป็น “หน้ามือ” ทันควัน

ทุกตึก ทุกอาคาร ทุกสถานที่สำคัญๆ ของปารีส เมื่อได้ไฟก็พลันสว่างไสวเปล่งประกายออกมาทันที

ขณะเดียวกันจากเรืออืดๆ ก็เป็นเรือเร็วแบบสปีดโบตวิ่งฉิว มีนักกีฬาดังอย่าง ราฟาเอล นาดาล อย่าง เซเรนา วิลเลียมส์ และ ซีนาดีน ซีดาน ที่มาตอนแรกแล้วหายต๋อมไป กลับมาโผล่อีกหน

หอ ไอเฟล ที่ดูซึมๆ ก็พลันกระฉับกระเฉง เริ่มแผลงฤทธิ์เปล่งประกายรัศมี วูบแล้ววูบเล่าลานตาไปหมด

ช่วงจุดคบเพลิงลงกระถางซึ่งห้อยมาจาก “บอลลูน” ก็เก๋มาก สว่างวาบเป็นสีทองเหลืองอร่ามไปทั่ว พร้อมกับลูกบอลลูน กระถางเพลิงโอลิมปิก ที่จะสว่างไสวไปจนถึงพิธีปิด วันที่ 11 สิงหาคม

ตบท้ายด้วยการขึ้นขับร้องเพลง Hymne a’l’amour อันสุดซึ้งของฝรั่งเศสที่ฮิตมากว่า 70 ปีแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังฮิตอยู่ และซึ้งอย่างบอกไม่ถูก จากหอไอเฟล เมื่อผู้ร้องได้แก่ เซลีน ดิออน

เซลีนดันหยุดร้องเพลงไปยาวนาน เพราะโชคร้ายเป็นโรคประหลาดที่ทำให้กลายเป็นคนตัวแข็งทื่อขยับเขยื้อนอะไรแทบไม่ได้ ต้องพักรักษาตัวนานมาก แม้กลับมาครั้งนี้ก็เห็นได้ชัดถึงใบหน้าที่ซูบผอมลง

แต่นํ้าเสียงยังเหลือกินเหลือใช้มาก สะกดคนดูคนฟังนับแสนที่ปารีส และหน้าจอทีวีทั่วโลก ไม่รู้กี่ร้อยล้านคน

เมื่อประมาณตี 4 ของเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา จนแทบนํ้าตาไหลไปด้วย

ทำให้พิธีเปิดจบลงอย่างประทับใจ ยกให้เป็นพิธีเปิดโอลิมปิกที่อลังการทันสมัยที่สุดนับตั้งแต่ดูมา

อาจารย์ใจดีอย่างผมตัดเกรดให้ A+ เลยครับ…โดยถือว่าช่วงแรกๆ ที่ดูอืดๆ นั้นเป็นช่วงอุ่นเครื่อง ยกประโยชน์ให้เจ้าภาพเขาไปก็แล้วกันอย่าไปตัดคะแนนอะไรเลยครับ…เพราะครึ่งหลังทำได้สุดยอดจริงๆ.

“ซูม”