“5 มนต์เสน่ห์” วัดอรุณราชวราราม “ผูกใจ” นักท่องเที่ยววันนี้

หัวหน้าทีมซอกแซกเคยเขียนเล่าไว้ในคอลัมน์ปกติประจำวันเมื่อหลายๆวันก่อนว่า หลานชั้นประถมศึกษา 2 คน ฟังครูเล่า นิทานเรื่อง “ยักษ์วัดโพธิ์” กับ “ยักษ์วัดแจ้ง” แล้วก็อยากจะไปดูตัวจริงเสียงจริงของยักษ์ทั้ง 2 วัดนี้

ทำให้ครอบครัวซอกแซกของเราต้องนัดกันไปทั้งวัดโพธิ์ (วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม) และวัดแจ้ง (วัดอรุณราชวราราม) อีกครั้งเมื่อไม่นานนี้

แม้จะไป 2 วัดนี้บ่อยมาก แต่ทุกครั้งที่ไปก็มักจะได้เรื่องได้ราว หรือได้สาระที่สมัยใหม่เขาเรียกว่า “คอนเทนต์” มาฝากท่านผู้อ่านอยู่เสมอ

รวมทั้งล่าสุด ไปแล้วก็ทราบว่าทั้ง 2 วัดยังคงมีนักท่องเที่ยวไปเยือนอย่างหนาแน่น แม้จะอยู่ในช่วงโลว์ซีซัน โดยเฉพาะที่วัดแจ้งหรือวัดอรุณราชวรารามนั้น แน่นตั้งแต่เช้าจดเย็นเลยทีเดียว (เปิด 8 โมงเช้า ปิด 6 โมงเย็น)

ไปเที่ยวนี้คณะของเราใช้เวลาอยู่ที่วัดอรุณฯ มากกว่า เนื่องจากได้ทราบข่าวมาว่า “เทรนด์” หรือความนิยมที่พุ่งแรงอย่างมากของวัดอรุณฯในช่วงปีเศษๆ เกือบ 2 ปีมานี้ก็คือ…จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเช่า “ชุดไทย” แต่งตัวเป็นหนุ่มไทยสาวไทยหรือผู้อาวุโสไทยๆ ถ่ายรูป “เช็กอิน” จนดังกระหึ่มไปทั่วโลก

หัวหน้าทีมซอกแซกซึ่งติดตามข่าวคราวต่างๆ ทางโซเชียลมีเดียโดยเฉพาะยูทูบ และ TikTok มาพอสมควร จึงอยากพิสูจน์ด้วยตาตนเองว่าจริงหรือไม่ ซึ่งในที่สุดก็พบว่าจริงตามที่เคยได้ดูได้ฟังและได้อ่านจากโซเชียลมีเดียทุกประการ

อย่างไรก็ตาม สำหรับวัดอรุณฯโดยรวมแล้ว “เสน่ห์” ของวัดนี้มิใช่มีเพียงเรื่องการแต่งชุดไทยที่เป็น “เสน่ห์ใหม่” ล่าสุดเท่านั้น

หากย้อนหลังกลับไปอ่านบทความท่องเที่ยวทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ จะพบว่า “เสน่ห์” โดยรวมของวัดอรุณราชวรารามมีถึง 4 ประการเป็นอย่างน้อย

ประการแรก หรือ เสน่ห์ ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกกล่าวถึงมากที่สุด และอยากมาเที่ยวชมพร้อม “ถ่ายภาพ” เป็นที่ระลึกไว้มากที่สุด ก็คือ องค์พระปรางค์ วัดอรุณฯ นั่นเอง

องค์พระปรางค์ที่เปรียบเสมือน “โลโก้” ของประเทศไทยมานานนับร้อยปี ผ่านภาพต่างๆ ตั้งแต่ภาพวาด ภาพถ่าย ภาพยนตร์ วีดิทัศน์ จนถึงภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวได้ ที่เรียกว่า “คลิป” จากมือถือยุคใหม่ ฯลฯ

นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 2 ที่มีพระราชดำริให้ปรับปรุงองค์พระปรางค์ขึ้นใหม่ แต่ยังไม่แล้วเสร็จก็สิ้นรัชกาลไปก่อน…จากนั้นก็เป็นพระมหากรุณาธิคุณของล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 3 ที่สายพระเนตรยาวไกล ทรงขยายฐานและเพิ่มความสูงจนเป็นพระปรางค์ขนาดใหญ่ และมีความสูงถึง 81.85 เมตร โดดเด่น เป็นสง่ามาจนถึงปัจจุบัน (จากองค์เดิมที่สูงเพียง 16 เมตรเท่านั้น)

เสน่ห์ประการที่ 2 ได้แก่ “โบสถ์น้อย” อันเป็นที่ประดิษฐาน พระบรมรูปหล่อของสมเด็จ พระเจ้าตากสินมหาราช ถือเป็นแรงบันดาลใจ ที่สำคัญประการหนึ่งสำหรับพี่น้องชาวไทยที่นิยมมาสักการะพระบรมรูปพระเจ้าตากสินและ พระแท่น บรรทม ที่เชื่อกันว่าเป็นของพระองค์ท่าน และทางวัดได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ในโบสถ์น้อยด้วย

ท่านที่เรียนวิชาประวัติศาสตร์คงจะจำได้ว่า เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินยกทัพที่ปราบกลุ่ม หรือ “ชุมนุม” ต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลังกรุงศรีอยุธยาแตกได้ราบคาบแล้ว ได้เดินทัพมาถึงกรุงธนบุรีในช่วงเวลาเช้าที่หน้าวัดแห่งนี้ ซึ่งแต่เดิมชื่อ วัดมะกอก

เป็นผลให้วัดนี้ต่อมาได้รับการเรียกขานว่า วัดแจ้ง และกลายเป็นวัดอรุณฯ ในที่สุด

เสน่ห์ประการที่ 3 เป็นเรื่องเล่าจากตำนาน หรือนิทานพื้นบ้านเรื่องยักษ์วัดแจ้งกับยักษ์วัดโพธิ์นั่นเอง เพราะที่วัดอรุณฯนี้จะมียักษ์ 2 ตนยืนโดดเด่นเป็นสง่าเฝ้าซุ้มประตูอยู่…เป็นที่รู้จักของเด็กๆ ที่มักจะรบเร้าผู้ปกครองให้พามาดู 2 ยักษ์วัดแจ้ง ซึ่งมิใช่ยักษ์ธรรมดาๆเลย…ที่มีกายสีขาวอยู่ทางขวามือ ได้แก่ ยักษ์สหัสเดชะ ส่วนที่มีกายสีเขียวก็คือ ทศกัณฐ์ อภิมหายักษ์คู่ปรับตลอดเรื่องรามเกียรติ์ของ พระราม นั่นเอง

เสน่ห์ประการที่ 4 ก็เป็นเสน่ห์มาแต่เนิ่นนาน คู่กับวัดอรุณฯ เลยก็ว่าได้ ได้แก่ วิหารน้อย ปัจจุบันเป็นที่ประดิษฐาน “พระจุฬามณี เจดีย์” ซึ่งเป็นพระเจดีย์ขนาดใหญ่พอสมควร สร้างไว้ในพระวิหารให้ประชาชนกราบไหว้บูชา

พระวิหารน้อยแห่งนี้ เคยเป็นที่ประดิษฐาน องค์พระแก้วมรกต เมื่อครั้งอัญเชิญมาจาก เวียงจันทน์ ครั้งแรก เป็นเวลานาน ถึง 5 ปี จึงได้อัญเชิญสู่วัดพระศรี รัตนศาสดารามในห้วงเวลาต่อมา

ทั้งหมดข้างต้นนี้ คือ เสน่ห์ 4 ประการของวัดอรุณฯ ที่ชนะใจนักท่องเที่ยวและประชาชนชาวไทยที่รักในศิลปวัฒนธรรมและภูมิใจในประวัติศาสตร์ไทยอยู่ก่อนแล้ว

ก็มาถึง “เสน่ห์” ประการที่ 5 ที่เพิ่งเกิดขึ้นหมาดๆ ประมาณ 2 ปีมานี้เอง…นั่นก็คือ ร้านให้เช่า “ชุดไทย” ที่มีมากมายทั้งนอกบริเวณวัดและในบริเวณวัดบางส่วน…อันเป็นผลจากอิทธิพลของละครโทรทัศน์ เรื่อง “บุพเพสันนิวาส” และ “พรหมลิขิต” ทำให้วัดหรือโบราณสถานหลายแห่งนำชุดไทยไปให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเราเช่าเพื่อถ่ายภาพขณะเที่ยวชมวัด

แต่ของวัดอรุณฯ มาได้นักท่องเที่ยวต่างประเทศช่วยเสริม โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน เวียดนาม ฮ่องกง อินโดนีเซีย หลังจากบรรดา “อินฟลูเอนเซอร์” และ “ยูทูบเบอร์” มาเช่าแต่งและเดินถ่ายภาพไปตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณองค์พระปรางค์ ซึ่งแน่นที่สุดในปัจจุบันนี้

ค่าเช่าโดยเฉลี่ยคนละ 200 บาทต่อ 2 ชั่วโมง แต่ด้านนอกวัดมีบางร้านให้เช่าในราคา 150 บาทต่อ 2 ชั่วโมง และมีบริการแต่งหน้าเสริมสวยคิดราคาเพิ่มนิดหน่อยด้วย หรือใครที่ไม่มีช่างภาพมาจะจ้างช่างภาพพิเศษด้วยก็ได้

นักท่องเที่ยวมาเช่าแต่งกันเป็นร้อยๆ คนเลย ช่วงที่เราไปดู…ยืนแอ็กชันถ่ายภาพเกือบจะทุกแง่มุม ขององค์พระปรางค์ มีความสุขกันอย่างเต็มที่

ถือเป็นรายได้เพิ่มเติมของประเทศปีละหลายๆ ล้านบาทเหมือนกันนะครับ ทำเป็นเล่นไป…ก็ต้องขอบคุณ “ยูทูบเบอร์” ทั้งหลายไว้ ณ ที่นี้อีกครั้ง.

“ซูม”

วัดโพธิ์, วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม, วัดแจ้ง, วัดอรุณราชวราราม, ยักษ์วัดโพธิ์, ยักษ์วัดแจ้ง, คอนเทนต์, เช่าชุดไทย, บุพเพสันนิวาส, พรหมลิขิต, เช็กอิน, พระปรางค์วัดอรุณ, อินฟลูเอนเซอร์, ยูทูบเบอร์, ข่าว, ท่องเที่ยว. ท่องเที่ยวไทย, ข่าววันนี้, ข่าวล่าสุด, ซูมซอกแซก