ผมต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ หลายๆ คน ที่ส่งคลิปเมื่อวันที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี เสด็จพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้จบการศึกษาของมหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา…มาให้ผม
ทำให้ผมต้องไปเปิดดูอีกหลายๆ สิบครั้งทางยูทูบ ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีจอขนาดใหญ่กว่าและมีลำโพงที่ประสิทธิภาพสูงกว่า…รวมทั้งตัวอักษรคำบรรยายต่างๆ ที่อ่านได้ชัดเจนมากกว่าโทรศัพท์มือถือ
เมื่อดูจบหลายๆ สิบครั้งและตั้งใจว่าจะดูอีกหลายสิบครั้งนั้นแล้ว ผมก็ขออนุญาตเพิ่มเติมคำว่า “ขอบคุณ” จากการกล่าวแก่เพื่อนฝูงที่ส่งคลิปมาให้เป็นประโยคยาวๆว่า
ขอบคุณมากๆ…ลูกหลานนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร แห่งจังหวัดพิษณุโลก ที่ร่วมกันร้องเพลงถวายกำลังใจแด่พระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ ได้อย่างซาบซึ้งสุดที่จะบรรยายได้
คลิปวิดีโอดังกล่าวเริ่มด้วยภาพการตั้งแถวรับในบริเวณโถงเข้าสู่หอประชุมของมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยบรรดาคณาจารย์ พนักงานมหาวิทยาลัย และนิสิตกลุ่มใหญ่ที่กำลังขับร้องเพลงเพลงหนึ่งอยู่
ในวินาทีแรกที่ผมเปิดคลิป และได้ฟังการร้องประสานเสียงของนิสิตกลุ่มใหญ่ที่เป็นนักร้องของชมรมวงดนตรีลูกทุ่ง NU BAND ผมก็ถามตัวเองว่า “เพลงอะไรหนอไพเราะจับใจเสียจริงๆ”
ท่วงทำนองคล้ายๆ เพลงอีสาน เนื้อหาและสำนวนของเนื้อเพลงก็บ่งชัดว่าเป็นภาษาอีสาน ที่หลายๆ คำคนภาคกลางไม่ทราบความหมาย
แต่ด้วยทำนองที่ไพเราะมากและพยายามฟังอย่างตั้งใจก็สามารถเข้าใจได้ว่าเป็นเพลงที่แสดงออกถึงความรัก
จากนั้นสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ ก็เสด็จฯมาถึงและทรงหยุดรับฟัง พร้อมฉายภาพผ่านโทรศัพท์มือถือส่วนพระองค์จนจบเพลง…ทรงปรบพระหัตถ์และเสด็จฯ ไปทรงซักถามอาจารย์ผู้ควบคุมวงและนิสิตอยู่ครู่ใหญ่ก่อนเสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่หอประชุม
หลังจากเปิดชมและฟังเพลงคลิปอีกหลายสิบรอบดังกล่าวแล้ว ผมก็เข้าค้นหาที่มาที่ไปของเพลงนี้จากคลิปต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทำให้ทราบว่าเพลงที่ไพเราะมากเพลงนี้มีชื่อว่า “ฮัก” ในภาษาอีสาน ซึ่งแปลว่า “รัก” ในภาษาภาคกลางของเรานั่นเอง
ผู้แต่งเพลงนี้ได้แก่ “หนุ่ม มีซอ” หรือ “สุริยันต์ มาลาคำ” ลูกชายของ เฉลิมพล มาลาคำ อดีตหมอลำชื่อดังของภาคอีสาน
“หนุ่ม มีซอ” แต่งเพลงนี้ไว้เมื่อเกือบ 3 ปีก่อน นำออกเผยแพร่ทางช่องทางต่างๆ ได้รับความนิยมมากพอสมควรใน พ.ศ.2564 และมีนักร้องชื่อดังหลายคนนำไป Cover
หนึ่งในจำนวนนี้คือ “โจอี้” ภูวศิษฐ์ อนันต์พรสิริ ซึ่งนำมาร้องร่วมกับการบรรเลงเปียโนของ “โต๋” ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร ได้อย่างไพเราะเพราะพริ้งส่งผลให้มียอดวิวกว่า 4 ล้านแล้วในปัจจุบัน
ในเพลงต้นฉบับที่ “หนุ่ม มีซอ” ขับร้องไว้นั้น ณ นาทีนี้มียอดวิวสูงกว่า 66 ล้านในยูทูบ และที่เขาร้องร่วมกับ ไข่ มาลีฮวนน่า ก็มียอดเข้าชมสูงกว่า 10 ล้านวิว
เนื้อหาของเพลงเป็นภาษาอีสาน และใช้ท่วงทำนองอีสานที่แสดงถึงความรักของชายหนุ่มที่มีต่อหญิงสาว โดยมีถ้อยคำเปรียบเทียบที่คมคายภาษาพื้นบ้านหลายๆ คำและหลายๆ สำนวน
ทำให้เพลงนี้เป็นสัญลักษณ์ของ “ความรัก” ที่สื่อความหมายได้เกินกว่าความรักของหนุ่มสาว…ดังนั้น เมื่อนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวรนำมาขับร้องแสดงความ “ฮัก” ถวายสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ จึงนำมาซึ่งความซาบซึ้งใจอย่างหาที่สุดมิได้
ขอบคุณลูกหลานนิสิตแห่งมหาวิทยาลัยนเรศวรไว้ ณ ที่นี้ อีกครั้งหนึ่ง…ขอบคุณในความ “จงรักภักดี” ที่ทุกๆ คนแสดงออกผ่าน “เสียงเพลง” ถวายกำลังใจแด่พระองค์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย
จังหวัด พิษณุโลก เป็นจังหวัดศูนย์กลางของภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งประชาชนทั้งจังหวัดพูดและสื่อสารด้วยสำเนียงภาคกลางร้อยเปอร์เซ็นต์ …ไม่น่าเชื่อเลยว่า ลูกๆหลานๆจะร้องเพลงท่วงทำนองอีสานได้อย่างไพเราะจับใจไม่แพ้นักร้องอีสานแม้แต่น้อย
นี่ก็แสดงให้เห็นเช่นกันว่า…ข้อความที่ว่า “ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกมิได้” ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกฉบับนั้น…เป็นความจริงทุกประการ.
“ซูม”