นับจากนี้ไปก็เหลืออีกเพียง 4 วันเท่านั้น งานใหญ่ของคนรักหนังสือครั้งที่ 2 แห่งปี ก็จะเริ่มขึ้นแล้วที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติ สิริกิติ์…ศูนย์ที่เหมาะแก่การจัดงานสำคัญๆ ทุกๆ ประเภท แต่เหมาะที่สุดและได้รับการ กล่าวขวัญมากที่สุด เคียงคู่มากับศูนย์สิริกิติ์ คงต้องยกให้มหกรรม “หนังสือ” งานของคนรักหนังสือทั่วประเทศไทย

งานแรก “สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ” ครั้งที่ 51 จัดไปแล้วเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ส่วนงานหลัง “มหกรรมหนังสือระดับชาติ” ที่ระยะหลังๆ นี้มักเรียกกันว่า “Book Expo” ซึ่งครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ 28 แล้วนั้น มีกำหนดจะเริ่มขึ้นในวันที่ 12 ตุลาคมที่จะมาถึง จึงเหลืออีกเพียง 4 วันเท่านั้น ดังที่ได้เกริ่นไว้

จึงเป็นหน้าที่ของ “ทีมงานซอกแซก” ทีมงานของคนที่รักหนังสือเป็นชีวิตจิตใจที่จะมาเขียนเชิญชวนให้คนรักหนังสือด้วยกัน ซึ่งน่าจะยังมีอีกหลายสิบล้านคนในประเทศไทยเราให้เตรียมตัว เตรียมใจแวะไปเที่ยวชมงานนี้ ดังเช่นทุกครั้งที่มีการจัดงาน

คณะกรรมการจัดงาน ซึ่งก็คือ คณะกรรมการของ สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จัดจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ที่มีชื่อย่อเป็นภาษาอังกฤษว่า PU BAT โดยท่านนายกสมาคม สุวิช รุ่งวัฒนไพบูลย์ นอกจากจะเปิดการแถลงข่าวการจัดงานแก่สื่อมวลชนทุกแขนงเป็นการส่วนรวมแล้ว ยังได้ยกทีมมาที่หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ให้สัมภาษณ์แก่ทีมข่าวไทยรัฐ และหัวหน้าทีมซอกแซกเป็นพิเศษอีกด้วย

ผลัดกันตอบคำถามผลัดกันชี้แจงข้อสงสัยใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงกับพวกเราที่ห้องรับแขกของกองบรรณาธิการ

สรุปข้อใหญ่ใจความได้ว่า “มหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 28” หรือ Book Expo Thailand 2023 จะจัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุม แห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 12 ตุลาคม ไปจนถึงวันจันทร์ที่ 23 ตุลาคม รวม 12 วัน ณ ฮอลล์ 5-7 ชั้น LG ชั้นเดียวกับทางเข้าศูนย์ฯ ที่ขึ้นมาจากรถไฟฟ้า MRTนั่นแหละครับ

ท่านนายกสมาคมย้ำว่า แนวคิดของการจัดงานปีนี้ มีทั้งคำไทย คำฝรั่งนำมาสมาสเคียงข้างกัน อ่านได้ใจความว่า “Book Dreams หนังสือที่จะช่วยเติมเต็มความฝันให้สมบูรณ์” อ่านปุ๊บรู้ ความหมายทันที โดยไม่ต้องแปลความใดๆ ทั้งสิ้น

จำนวนสำนักพิมพ์ที่จะมาร่วมงานครั้งนี้จากยอดขอจองพื้นที่ล่าสุด คือ 340 สำนักพิมพ์ พอดิบพอดี ส่วนการออกบูธนั้น จะมีร้านหนังสือต่างๆ มารวมด้วย จองไว้แล้วกว่า 930 บูธ รวมยอดหนังสือทั้งหมดที่จะมาวางจำหน่ายกว่า “1 ล้านเล่ม”

ทั้งนี้จะมีการเปิดตัว “หนังสือใหม่” ที่จะนำมาจำหน่ายเป็นปฐมฤกษ์ในงานนี้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ปก หรือ 3,000 เรื่องอย่างแน่นอน

ในส่วนของการจัดแบ่งโซนต่างๆ เพื่อให้คนรักหนังสือสามารถเดินเลือกซื้อได้อย่างสะดวกตามรสนิยมจึงแบ่งออกเป็น 5 โซน ไม่ปะปนกันเริ่มจากหนังสือทั่วไป, นิยายและวรรณกรรม, หนังสือเด็กและการศึกษา, การ์ตูนและวัยรุ่น (Book Wonderland) และโซนสุดท้ายก็คือ หนังสือเก่า ต่างๆ

นอกจากการจำหน่ายหรือออกร้านและการเสวนาแนะนำหรือเปิดตัวหนังสือใหม่ต่างๆ แล้วอีกกิจกรรมหนึ่งที่ถือเป็นไฮไลต์ของงานหนังสือมาโดยตลอด ได้แก่ “การจัดนิทรรศการ” ทั้งที่เกี่ยวกับหนังสือและเหตุการณ์บ้านเมืองที่ควรแก่การจดจำนั่นเอง

ปีนี้เนื่องจากจะเป็นปีที่ 50 ของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ “14 ตุลาคม 2516” ที่นิสิต นักศึกษา และประชาชนได้รวมพลังครั้งยิ่งใหญ่ยอมสละเลือดเนื้อและชีวิต “ทวงคืน” ประชาธิปไตยมา

จากรัฐบาลเผด็จการใน พ.ศ.ดังกล่าวได้สำเร็จ จนกลายเป็นทั้ง “วันมหาวิปโยค” ขณะเกิด เหตุการณ์ และ “วันมหาปิติ” หลังเหตุการณ์สงบลงแล้ว ด้วยพระบารมีปกเกล้าฯ

จึงจะมีการจัดแสดงนิทรรศการ “50 ปี 14 ตุลาคม” ให้ดูชมและเดินอ่านข้อความกันอย่างละเอียด รวมทั้งจะมีการจัดแสดงหนังสือและนิตยสารที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 14 ตุลาคม ที่รวบรวมไว้ได้จำนวนมากอีกด้วย

ท่านนายกฯ สุวิช รุ่งวัฒนไพบูลย์ กล่าวอย่างเชื่อมั่นว่า “ตลาดหนังสือ” ของประเทศไทยได้ฟื้นตัวกลับมาแล้ว หลังจากซบเซาไปมากในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด

ที่สำคัญจากกระแสตอบรับจากสำนักพิมพ์และผู้ประกอบการด้านจัดพิมพ์หนังสือที่แสดงความกระตือรือร้นในการจะมาเข้าร่วมกับมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งนี้ ทำให้เชื่อได้ว่า ตลาด หนังสือกำลังฟื้นขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะเดียวกันบรรดาสำนักพิมพ์ต่างๆ ที่มาร่วมงานก็จะมีโปรโมชันพิเศษมากมายก่ายกองมีทั้งการลดราคา การแจกคูปองแบบซื้อเยอะได้แจกเยอะ รวมไปถึงการจัดส่งให้ฟรีถ้าซื้อครบเท่านั้นเท่านี้บาท ฯลฯ เชื่อว่าจะเป็นแรงดึงดูดใจให้คนรักหนังสือไปเที่ยวงานนี้อย่างท่วมท้น

“ผมเชื่อว่าตลอด 12 วัน ของงานนี้จะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 1.6 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากครั้งที่แล้ว 20 เปอร์เซ็นต์ และน่าจะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 400 ล้านบาท เพิ่มจากครั้งก่อน 20 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน” ท่านนายกสมาคมกล่าวสรุป

ทีมงานซอกแซกขอเอาใจช่วยให้การคาดหมายของนายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย จงบรรลุเป้าหมายทุกประการ…และขอเชิญชวนท่านผู้อ่านทุกท่านไปช่วยกันเติมเต็มเป้าหมายต่างๆด้วย

สรุปคนเข้างาน 1.6 ล้านคน เงินหมุนเวียน 400 ล้านบาท…จะได้ตามนี้หรือไม่ ก็อยู่ที่ท่านผู้อ่านแหละครับว่าจะตัดสินใจไปงานนี้ที่ศูนย์สิริกิติ์หรือไม่? และเพียงใด? ระหว่าง 12–23 ตุลาคม.

“ซูม”