“หางโจวเกมส์” ลดโลกร้อน “พลุดิจิทัล” สวยกว่า “พลุไฟ”

เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมนั่งเฝ้าจอดูการถ่ายทอดสดพิธีเปิดเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว มณฑลเจ้อเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งแต่ต้นจนจบด้วยความสุข และปรบมือให้แก่เจ้าภาพด้วยความชื่นชมอย่างจริงใจ

แม้ในช่วงเวลาเดียวกันจะมีการถ่ายทอดสด ฟุตบอลลีกยุโรปหลายคู่ และมีการถ่ายทอดสด วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย กับทีมชาติเกาหลีใต้ ในศึกคัดเลือกทีมไปสู่ “ปารีสโอลิมปิก 2024” อยู่ด้วยก็ตาม

แต่ด้วยความผูกพันกับเอเชียนเกมส์มายาวนาน และได้เห็นหลายๆประเทศในเอเชียใช้ “มหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์” เป็นเครื่องมือในการพัฒนาประเทศ รวมทั้งไทยเราด้วยดังที่เขียนกราบเรียนท่านผู้อ่านไว้แล้ว เมื่อ 2-3 วันก่อน

ผมจึงตัดสินใจเปิดแช่อยู่ที่ช่อง 5 HD ซึ่งทำหน้าที่ในการถ่ายทอดสด นั่งดูชมตั้งแต่ต้นจนจบและอาศัยมือถือดู “สกอร์” การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงควบคู่ไปด้วย ซึ่งก็จบลงด้วยความสุขเช่นกัน เมื่อทีมสาวไทยเราโชว์ศักยภาพสมศักดิ์ศรีแชมป์เอเชียไล่ตบทีมสาวพลังโสม เอาชนะไปอย่างเด็ดขาดอีกครั้ง 3-0 เซต

อีกเหตุผลหนึ่งที่ผมตั้งใจที่จะรอดูชมพิธีเปิดเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ของจีน ก็เพราะเขาย้ำไว้ตั้งแต่ต้นว่า ท่านประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จะมาเป็นประธานในพิธีเปิด แสดงถึงการให้ความสำคัญอย่างสูงแก่เกมนี้

ขณะเดียวกันเขาก็โฆษณาแล้วโฆษณาอีกว่า พิธีเปิดเอเชียนเกมส์ของเขาจะไม่เยิ่นเย้อ แต่จะยิ่งใหญ่ไฮเทคและเป็น “มิตรกับสิ่งแวดล้อม”

โดยจะเป็นตัวอย่างของ “กีฬาสีเขียว” เพื่อนำไปสู่การลดปริมาณคาร์บอนในอากาศตามนโยบาย “ลดภาวะโลกร้อน” ของสหประชาชาติโดยความเห็นชอบร่วมกันของชาวโลกในปัจจุบัน

ครับ! หลังจากนั่งดูชมจบลงแล้ว ก็ต้องชื่นชมและยกนิ้วให้ว่า จีนเขาทำได้อย่าง “สมราคาคุย” ทุกประการ

การแสดงแสงสีเสียงที่ผสมผสานระหว่าง “นักแสดง” ที่มีชีวิตชีวากับระบบ “ดิจิทัล” ที่เนรมิตฉากต่างๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ของหางโจวมาให้ดูชมอย่างเต็มอิ่ม เข้ากันได้อย่างกลมกลืนและสวยงามมาก

คนดูทางบ้านผ่านจอทีวีจะได้เปรียบคนดูในสนามพอสมควรที่จะมองเห็น “มนุษย์ยักษ์ AI” เดินแบบเหาะข้ามนครหางโจว มาลงที่สนามแข่งขัน อย่างตื่นตาตื่นใจ

โดยเฉพาะช่วงไคลแมกซ์ที่โดยปกติจะต้อง “จุดพลุ” เปรี้ยงปร้างหลายๆ สิบชุด จากรอบสนามขึ้นสู่ท้องฟ้า…และก็อย่างที่ทราบดีแล้วว่า “พลุจีน” สวยสดงดงามไม่แพ้ของชาติอื่นใดเลย

แต่คราวนี้เป็นพลุและดอกไม้ไฟดิจิทัลทั้งสิ้น ทั้งเปล่งประกายทั้งส่งเสียงกึกก้องสวยกว่าดังกว่า “พลุ” ปกติหลายเท่า

ไม่มีควันไม่มีเขม่าดินดำ และสำหรับชาว “หางโจว” ที่อยู่ใกล้ๆ สนามกีฬา ย่อมไม่ได้กลิ่นเหม็นไหม้แบบการยิงพลุจริงๆอย่างแน่นอน

ผมเดาว่าถ้าเทคโนโลยีนี้ราคาไม่แพงนักต่อไปจีนอาจส่งออกไปสู่งานพิธีต่างๆ ที่จะต้องจุดพลุได้ทั่วโลก…เผลอๆ โลกยุคใหม่อาจไม่มีการยิงพลุจริงที่ก่อให้เกิด PM 2.5 ในการยิงหรือการจุดแต่ละครั้งก็ได้

ระหว่างดู “พลุเทียม” อย่างตื่นตาตื่นใจนั้นเอง ผมก็นึกเป็นห่วงร้านขายพลุ ร้านขายดอกไม้ไฟและธุรกิจด้านพลุด้านดอกไม้ไฟทั้งหลายว่าให้เตรียมตัวเตรียมใจล่วงหน้าไว้ได้ละครับ

พวกผมหนังสือพิมพ์กระดาษและนิตยสารกระดาษร้องไห้มาแล้วเพราะ “ดิจิทัล” เมื่อคนเลิกอ่าน “สื่อกระดาษ” หันมาอ่านหรือดูสื่อดิจิทัลไปแล้วเกือบค่อนโลก

ขอพยากรณ์ว่าต่อไปธุรกิจและประเพณีจุดพลุหรือดอกไม้ไฟด้วยกระสุนดินดำต่างๆ จะหมดไปเมื่อโลกหันมาจุดพลุดิจิทัลแทน

มองในแง่ “โลก” ถือว่าดีครับ เพราะจะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ แต่มองในแง่ “ศิลปะ” และ อาชีพ ก็น่าเห็นใจที่พลุไฟแท้ๆ อาจหมดไปและนักจุดพลุหรือออกแบบพลุทั้งหลายอาจตกงานจึงควรเตรียมตัวล่วงหน้าไว้

ขอขอบคุณ “หางโจวเกมส์” ไว้ ณ ที่นี้อีกครั้งที่ช่วยจุดประกายความหวังในการลดโลกร้อนและมีส่วนร่วมในการลดโลกร้อนอย่างเป็นรูปธรรมด้วยการไม่จุดพลุไฟและลดการเพิ่มคาร์บอนในอากาศด้วยวิธีต่างๆ

ไหนๆ จีนก็จะเป็น “เจ้าเหรียญทอง” อยู่แล้ว เนื่องจาก 10 ครั้งหลัง “จีน” ครอง “เจ้าเหรียญทอง” มาตลอด…ผมขอมอบเหรียญทองพิเศษสำหรับพิธิเปิด 2023 ที่จัดได้ยอดเยี่ยมแถมให้อีก 1 เหรียญก็แล้วกันครับ.

“ซูม”

พิธีเปิด, เอเชียนเกมส์, หางโจวเกมส์, ลดโลกร้อน, พลุดิจิทัล, พลุไฟ, ดิจิทัล, จีน, กีฬา, ลดภาวะโลกร้อน, ข่าว, ​ซูมซอกแซก, เทคโนโลยี, ทีมชาติไทย