อีก 2 วัน “ชี้ชะตา” ประเทศ ส่ิงที่ “ควรทำ” และ “อย่าหาทำ”

อีกเพียง 2 วันจากวันนี้ (ศุกร์ที่ 12 พ.ค.2566) ก็จะถึงวันชี้ชะตาประเทศ “14 พฤษภาคม 2566” แล้วนะครับ…วันเลือกตั้งทั่วไปครั้งสำคัญที่สุดอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศไทยเรา

สำหรับข้อเขียนวันนี้ที่ผมจั่วหัวว่าอะไรบ้างที่ “ควรทำ” และ “อย่าหาทำ” หรือไม่ควรทำในช่วงสุกดิบก่อนเลือกตั้งก็เพราะนึกขึ้นมาได้ว่าที่ผ่านมาพี่น้องประชาชนชาวไทยมักจะทำผิดกฎหมายเลือกตั้งโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์กันอยู่เสมอๆ

เป็นผลให้ถูกจับกุมในข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งมีทั้งโทษปรับโทษจำคุกด้วย…เบาอยู่เสียเมื่อไหร่ล่ะ…น่าที่จะหยิบยกมาเรียนเตือนให้ระวังตัวกันเอาไว้บ้าง

ขณะเดียวกันเมื่อจะเขียนถึงสิ่งที่ไม่ควรทำแล้วอย่างนี้ก็ควรเขียนถึงสิ่งที่ “ควรทำ” ควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ได้ประโยชน์ครบถ้วน

มาเริ่มกันที่สิ่งที่สมควรทำก่อนเลยครับ…ข้อแรกก็คือต้องไปใช้สิทธิใช้เสียงในวันอาทิตย์นี้ตามห้วงเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้นะครับระหว่าง 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น โปรดอย่านอนหลับทับสิทธิเด็ดขาด

เรายังมีเวลาอีก 2 วัน สำหรับการทำการบ้านว่าสมควรจะเลือกใคร? ก็ขอให้ใช้เวลาพิจารณาให้ถ้วนถี่อีกครั้งหนึ่ง

ผมยังหวังว่าพี่น้องประชาชนชาว ส.ว. หรือผู้สูงอายุ ที่ผมตั้งนิกเนมว่า “ผู้เกษียณ” จะออกมาใช้สิทธิใช้เสียงอย่างถล่มทลายตามทฤษฎี “เกษียณ” สู้ “กระแส” ที่ผมเคยเขียนฝากไว้

คงไม่ต้องชี้นำนะครับว่าควรเลือกใคร? หรือพรรคไหน? เพราะผมเชื่อมือเชื่อใจและเชื่อความคิดของ “ผู้เกษียณ” หรือ “ผู้สูงอายุ” ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากจะตัดสินใจได้อย่างถูกต้องเสมอ

ก็มาถึงสิ่งที่ไม่ควรทำ หรือ “อย่าหาทำ” กันบ้าง เพราะเมื่อทำแล้วอาจนำไปสู่การโดนปรับโดนจำ เนื่องจากผิดกฎหมายเลือกตั้งซึ่งมีอยู่หลายๆ ข้อห้ามด้วยกัน ดังที่เกริ่นไว้ข้างต้น

ข้อแรกเลยเกี่ยวกับเรื่อง “หาเสียง” ครับ เพราะกฎหมายระบุว่า ห้ามโฆษณาหาเสียงให้แก่ผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองตั้งแต่เวลา 18.00 น. วันที่ 13 พ.ค.ไปจนถึง 18.00 น. วันที่ 14 พ.ค.

แม้เจตนาของกฎหมายต้องการจะบังคับใช้แก่พรรคการเมืองต่างๆ แต่ถ้าเราเผลอไปทำเข้า เช่นเผลอไปชวนเพื่อนฝูงญาติมิตรว่าให้เลือกคนนี้คนนั้น หลัง 6 โมงเย็นวันเสาร์ไปจนตลอดวันอาทิตย์ทั้งวันละก็ อาจผิดในข้อหา “หาเสียง” ในเวลาที่ห้ามหาเสียง ที่ว่าได้

การโพสต์ลงโซเชียล เป็นเชิงหาเสียงหรือชี้แนะให้เลือกคนโน้นคนนี้ ก็ห้ามเด็ดขาด หลัง 6 โมงเย็นวันเสาร์เป็นต้นไป

จะโดนลงโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับเลยทีเดียวเชียว สำหรับความผิดข้อนี้

ข้อต่อมาก็เป็นเรื่องห้ามไม่ให้จำหน่ายจ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิด ตั้งแต่ 6 โมงเย็นวันเสาร์ที่ 13 พ.ค.ไปจนถึง 6 โมงเย็นวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. …ซึ่งเป็นข้อห้ามที่เราคุ้นเคยเป็นอันดีอยู่แล้ว

ถัดไปก็เป็นเรื่อง “พนันขันต่อผลเลือกตั้ง” ห้ามเด็ดขาด เพราะโทษหนักกว่า 2 ข้อแรกเยอะเลย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาท จนถึง 100,000 บาท หรือทั้งปรับทั้งจำ และยังโดนถอนสิทธิเลือกตั้งถึง 10 ปีอีกด้วย

ยังมีอีกหลายข้อห้ามครับ ส่วนใหญ่ใช้บังคับกับผู้สมัครรับเลือกตั้งกับหัวคะแนน ผมก็ขอข้ามไป…เพื่อไปพูดถึงข้อห้ามสำคัญสำหรับพวกเราประชาชนโดยตรงดีกว่า

โดยเฉพาะข้อห้ามที่ตรงกับจริตของมนุษย์ยุคใหม่ที่เป็นทาสมือถือ ทำอะไรมักจะถ่ายรูปเอาไว้ด้วยกล้องมือถืออยู่เสมอๆ นั่นแหละครับ

เขาห้ามเอาไว้ชัดเจนนะครับว่า “ห้ามถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่กากบาทแล้ว” โดยเด็ดขาด…กาแล้ว กรอกแล้ว ก็พับให้ดีไปหยอดลงหีบเลย อย่าเผลอถ่ายรูปบัตรเข้าให้ก็แล้วกัน

จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งปรับทั้งจำเชียวนะครับ สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปทั้งหลาย ที่เผลอไปถ่ายบัตรเลือกตั้งที่ตัวเองกากบาทเรียบร้อยแล้ว

ขอให้โชคดีได้ลงคะแนนคนที่ใช่ พรรคที่ชอบ โดยไม่มีใครผิดกฎหมายเลือกตั้งข้อใดข้อหนึ่งนะครับ 14 พฤษภาคมนี้.

“ซูม”

อีก 2 วัน “ชี้ชะตา” ประเทศ ส่ิงที่ “ควรทำ” และ “อย่าหาทำ”, เลือกตั้ง, หาเสียง, การเมือง, พรรคารเมือง, ข่าว, เกษียณ, กฎหมาย, ซูมซอกแซก