เมื่อวานนี้ผมเขียนถึงแผงหนังสือพิมพ์สุดท้ายในหมู่บ้านผมที่จำเป็นต้องปิดตัวเองไปตามสถานการณ์ของโลกยุคดิจิทัล ทำให้สื่อกระดาษทั้งหลาย ทั้งรายเดือน รายสัปดาห์ และรายวันต่างทยอยปิดตัวกันไปจนเหลือจำหน่ายน้อยมากตามแผงต่างๆ
ทำให้แผงมีรายได้ลดลงไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ต้องปิดตัวเอง
ผมอาลัยอาวรณ์แผงหนังสือพิมพ์แผงนี้มาก เพราะอยู่คู่หมู่บ้าน อาคารสงเคราะห์คลองจั่น (ด้านหลัง การเคหะแห่งชาติ บางกะปิ) มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2514 มาถึงปีนี้ก็ย่าง 51 ปีเข้าไปแล้ว
แต่ผมก็เรียนท่านผู้อ่านไว้ด้วยว่า สำหรับพวกเราคนชอบอ่านหนังสือพิมพ์กระดาษนั้นไซร้ยังพอจะมีความโชคดีอยู่บ้างตรงที่แม้แผงหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่จะค่อยๆทยอยปิดตัวเองไป
ทว่ายังมี “แผงเล็กๆ” เกิดขึ้นมาแทนที่ แม้จะไม่ชดเชยการขาดหายไปของหนังสือพิมพ์ทั้งหมด แต่ก็ยังชดเชยได้ในระดับหนึ่ง
ที่สำคัญสำหรับคนรักการอ่านที่ยังมีความสุขกับการอ่านหนังสือพิมพ์ ที่พิมพ์ด้วยกระดาษ ก็ยังสามารถต่ออายุความสุขของท่านได้ด้วยการแวะไปซื้อที่แผงเล็กๆ เหล่านี้ แผงที่แฝงอยู่ในร้านสะดวกซื้อที่เรียกว่า “เซเว่นอีเลฟเว่น” นั่นเอง
ผมเองนอกจากจะมีความสุขจากการเขียนหนังสือแล้ว ยังมีความสุขจากการอ่านหนังสือควบคู่ไปด้วย และผมก็เรียนท่านผู้อ่านแล้วว่า ผมจะมีความสุขมากที่ทุกๆ เช้าได้อ่าน หนังสือพิมพ์ หลายๆ ฉบับ
หนังสือพิมพ์ที่ผมบอกรับมาตั้งแต่ต้นมีทั้งหมด 4 ฉบับ ได้แก่ ไทยรัฐ-เดลินิวส์-มติชน และ สยามกีฬา
จริงๆ แล้วอยากจะรับมากกว่านี้ แต่เมื่อคำนวณรายได้รายจ่ายของผมแล้วสามารถรับได้เพียงเท่านี้เอง ฉบับอื่นๆ ก็อาศัยเปิดอ่านฟรีเอาบ้างจาก “แผง” ที่ผมคุ้นเคยมา 50 ปี ซึ่งต้องปิดตัวเองอย่างที่ว่า
หนึ่งฉบับที่ยังไงๆ ผมก็ซื้อแน่ๆ ได้แก่ สยามกีฬา น่ะครับ แม้จะแพงกว่าเพื่อน เพราะขายถึง 20 บาท…ผมก็ยินดีซื้อด้วยความเต็มใจ
เหตุเพราะทุกวันนี้ผู้ที่บุกเบิกนำหนังสือพิมพ์เข้าสู่ “เซเว่น” ก็คือ คุณ ระวิ โหลทอง เจ้าพ่อ สยามกีฬา นั่นเอง
ผมเคยเขียนเล่าไว้เมื่อ 2 ปีก่อนโน้นแล้วว่า คุณ ระวิ เขามีหนังสือกีฬารายวันหลายฉบับ นอกจาก สยามกีฬา ยังมี สตาร์ซอกเกอร์ และ สปอร์ตพูล (ซึ่งขายดีมาก) ฯลฯ
ทำให้คุณระวิสามารถจัดตั้งกองทัพ “มอเตอร์ไซค์” ขึ้นมากองทัพหนึ่งเพื่อขนหนังสือในเครือไปวางตามร้านเซเว่นได้ด้วยตนเอง
ต่อมาเมื่อทาง “เซเว่น” มีปัญหาเรื่องจำหน่ายหนังสือพิมพ์ทั้งหมด เพราะอายุของสินค้าประเภทหนังสือพิมพ์มีแค่วันเดียวเท่านั้น…สดอยู่วันเดียว รุ่งขึ้นก็เน่าขายไม่ออก ทำให้เซเว่นขาดทุนไปพอสมควร
เซเว่นจึงต้องตัดสินใจเลิกขายหนังสือพิมพ์รายวันทั่วไปอยู่ระยะหนึ่ง…ยังขายก็แต่หนังสือในเครือกีฬาของคุณระวิที่ส่งเองและรับผิดชอบเองเท่านั้น
คุณระวิเป็นนักหนังสือพิมพ์เก่า เป็นลูกหม้อคนหนึ่งของไทยรัฐที่กราบลา ผอ.กำพลไปออกหนังสือกีฬารายวันอย่างถูกต้องตามทำนองคลองธรรม จึงได้รับพรและได้รับความอนุเคราะห์จากท่าน ผอ.กำพล หลายอย่างในช่วงเริ่มต้น
เมื่อคุณระวิเห็นว่าหนังสือพิมพ์จะเดือดร้อนเพราะชวดวางขายในเซเว่น คุณระวิก็ขันอาสา คุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ว่า ผมจะขนหนังสือพิมพ์รายวันมาส่งเอง พร้อมหนังสือกีฬาของผมนี่แหละ
รับผิดชอบการจำหน่ายทั้งหมดเสมือนหนึ่งคุณระวิและสยามกีฬาเป็นสายส่งอีกสายหนึ่งทำให้คุณก่อศักดิ์ ซึ่งด้วยใจจริงก็รักการอ่านอยู่แล้ว แต่ต้องจำใจเลิก ตอนแรกเพราะขาดทุนจึงยอมรับข้อเสนอของคุณระวิ
หนังสือพิมพ์จึงยังคงอยู่ได้ในเซเว่นมาจนถึงวันนี้ ล่าสุดเมื่อเซเว่นมีมากถึง 13,000 สาขาทั่วประเทศ และมีประมาณ 6,000 สาขาอยู่ใน กทม. จึงเท่ากับเรายังมีแผงเล็กๆ รองรับหนังสือพิมพ์อีกถึง 6,000 แห่ง
ผมคุยกับคุณระวิหลายครั้งได้รับการยืนยันว่า การวางจำหน่ายในเซเว่น (ช่วงนี้ใน กทม.ก่อน) จะยังคงเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า ทุกครั้งที่แผงหนังสือข้างบ้านท่านปิดลงไป อย่าลืมแวะไปที่ร้านเซเว่นนะครับ (ซึ่งก็คงจะอยู่ใกล้บ้านท่านนั่นแหละ)
ที่นั่นยังมีหนังสือพิมพ์รายวันวางขายครับ…อย่าลืมแวะไป “ต่ออายุ” ความสุขด้วยการอ่าน นสพ.กระดาษด้วยก็แล้วกัน.
“ซูม”