เมื่อ 2 วันก่อน หนังสือพิมพ์และสำนักข่าวหลายสำนักพาดหัวข่าวอย่างตระหนกตกใจว่า คนจีนหลายหมื่นแออัดเที่ยว “เขาหวงซาน” หลังเพิ่งพ้นวิกฤติโควิด-19 ทำให้หวั่นว่าเชื้อไวรัสมรณะอาจจะกลับมาเผยแพร่อีกรอบหากคนจีนยังขืนไปเที่ยวกันอย่างแออัดเช่นนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า เขาหวงซาน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม แห่งหนึ่งของมณฑลอานฮุย และเป็น 1 ในสถานที่ท่องเที่ยว 29 แห่ง ที่ได้รับการโปรโมตช่วงเปิดให้ประชาชนไปเที่ยวฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศของจีนให้ฟื้นกลับมา หลังจากถูกกักตัวอยู่กับบ้านในช่วงโควิด-19 ระบาดเป็นเวลานาน
ซึ่งก็ปรากฏว่าประชาชนแห่กันไปอย่างล้นหลามจนเจ้าหน้าที่อุทยานต้องออกมาปิดอุทยานในวันอาทิตย์ที่แล้วเป็นคำรบสอง เพราะมีนักท่องเที่ยวแห่กันไปเที่ยวจนล้นเกินกำหนด 20,000 คนต่อวัน ที่วางไว้
ขณะเดียวกัน ผู้ที่ห่วงใยในสถานการณ์โควิด-19 ก็ตำหนินโยบายท่องเที่ยวที่ออกมาเร็วเกินไป และไม่มีแผนควบคุมที่ดี เพราะทุกวันนี้โรค ระบาดโรคนี้ก็ยังแผลงฤทธิ์อยู่บ้างในจีน โดยยังมีผู้ป่วยใหม่ทั้งประเทศวันละ 30-40 คน และเสียชีวิตวันละ 2-3 คนมาโดยตลอด
สำหรับผมอ่านข่าวนี้แล้วก็เกิดความรู้สึกขึ้นพร้อมๆ กัน 2 ความรู้สึก…คือประการแรกเห็นด้วยกับบทวิพากษ์วิจารณ์ของสื่อต่างๆ ที่ตำหนิวนอุทยานของมณฑลอานฮุยแห่งนี้ที่ไม่มีมาตรการดูแลระมัดระวังไวรัสโควิด-19 แถมยังประมาทให้ผู้คนเข้าไปเบียดเสียดกันอย่างแออัด
แต่อีกแวบหนึ่ง ผมคิดเลยไปถึงสถานการณ์เศรษฐกิจของโลกหลังโควิด-19 สงบลงแล้ว ซึ่งมีการคาดหมายว่าเศรษฐกิจโลกจะทรุดตัวเกิดการถดถอยอย่างหนักหน่วง
ผมเองก็เชื่อว่าจะทรุดมากเช่นกัน จึงได้เสนอแนะให้รัฐบาลเตรียมโครงการหรือมาตรการ รวมทั้งเตรียมเงินที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจถดถอยครั้งนี้เอาไว้ให้พร้อม โดยเฉพาะความช่วยเหลือเฉพาะหน้า แก้ปัญหาคนตกงาน คนยากจนต่างๆ ซึ่งได้รับผลกระทบใหญ่หลวงอย่างแน่นอน ขอให้เตรียมการไว้
ส่วนอะไรที่มันยังไม่เฉพาะหน้า ก็อยากให้คิดๆ เอาไว้ก่อน ค่อยติดตามดูสถานการณ์โลกให้สะเด็ดนํ้า หรือนิ่งเสียก่อน เพราะทุกๆ ชาติต่างก็บอบชํ้าและต่างก็มีมาตรการแก้ในส่วนของเขาแต่ละชาติไป เราก็ควรจะรอดูนิดหน่อยว่าอะไรจะเป็นประโยชน์ อะไรจะเป็นโทษแก่เรา จะได้รับมืออย่างถูกต้อง
นอกจากบทบาทภาครัฐแล้ว สิ่งที่เป็นความหวังของชาวโลกก็คือการลงทุน หรือการท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยตรงจะเกิดขึ้นหรือไม่? หรือถ้าเกิด จะเกิดเร็วขนาดไหน?
ผมเองเป็นห่วงว่าจะเกิดขึ้นช้ามาก จะทำให้การใช้ “นโยบายท่องเที่ยว” เป็นตัวยาเร่งฟื้นเศรษฐกิจไม่ได้เต็มที่เหมือนในอดีต และได้เขียนแสดงความคิดเห็นเอาไว้หลายครั้ง
แต่พอมาเห็นภาพคนจีนแห่ไปเที่ยว “เขาหวงซาน” ในสื่อทุกฉบับแล้ว ผมก็รู้สึกโล่งอกและเบาใจขึ้นมาก ที่พบว่าคนจีนยังไม่ทิ้งอุปนิสัยการชอบเที่ยว ชอบสนุกสนานของเขา
อย่าลืมว่าแม้เศรษฐกิจจีนจะถอยไปมากช่วงสงครามเศรษฐกิจกับสหรัฐฯ และน่าจะถอยลงไปอีกมากหลังการระบาดของโควิด-19
แต่จีนก็เป็นชาติที่รวยที่สุดและสะสมความมั่งคั่งเอาไว้มากกว่าชาติอื่นๆ ในช่วง 10-15 ปีที่ผ่านมา…ยังไงก็ยังเหลือเยอะ แม้จะสูญเสียพอสมควร
ตอนนี้จีนเกือบหายจากไข้โควิดแล้ว อีกไม่นานคงหายสนิท ดังนั้น ด้วยทรัพยากรที่ยังมีมากกว่าใคร ก็เชื่อกันว่ารัฐบาลจีนจะสามารถปลุก เศรษฐกิจจีนภายในประเทศขึ้นมาได้ก่อนใครๆ
เสร็จแล้วพอเศรษฐกิจฟื้นปุ๊บ คนจีนซึ่งยังชอบเที่ยว ชอบซื้อ ชอบสนุก (เห็นจากภาพที่เขาหวงซาน) ก็น่าจะออกเที่ยว ออกช็อปเหมือนเดิม
ใครที่อยู่ใกล้ๆ จีน (อย่างไทย) ก็จะมีโอกาสฟื้นตัวตามเร็วขึ้น เพียงแต่เราจะต้องตั้งรับให้ดี อย่าให้ผลประโยชน์จากการมาเที่ยวของเขาโดนดูดกลับไปหมดแบบทัวร์ศูนย์เหรียญในยุคก่อนก็แล้วกัน
สรุปหมู่นี้มีข่าวดีเกิดขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ผมเขียนต้นฉบับบ่ายวันอังคาร ปรากฏว่ายอดติดเชื้อใหม่ของเราเพิ่มแค่ 38 คนเอง
เรามาถูกทางแล้วครับ อดทนอดกลั้น กัดฟันต่อไปนะครับ แสงสว่างปลายอุโมงค์เริ่มใกล้เข้ามาแล้ว.
“ซูม”