แด่ “ธุรกิจเช่าหนังสือ” “ดาวร่วงอันดับ 1” แห่งปี

ผมนั่งอ่านผลงานวิจัยของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่พยากรณ์ว่าธุรกิจใดบ้างจะเป็น “ดาวรุ่ง” ธุรกิจใดบ้างจะเป็น “ดาวร่วง” ประจำปี 2562 แล้วก็รู้สึกใจหาย โดยเฉพาะเมื่อตอนที่อ่านมาถึง “ดาวร่วง” ต่างๆ

เพราะหลายๆ ธุรกิจเป็นธุรกิจที่ผมรู้จักมักคุ้นและเคยใช้บริการมาแล้วเป็นส่วนใหญ่…บางธุรกิจคุ้นเคยหรือใกล้ชิดมากๆ เปรียบเสมือนเพื่อนคนสนิทคนหนึ่งเลยทีเดียว

ผมไม่สามารถเอ่ยถึงได้ครบทั้ง 10 ธุรกิจดาวร่วง เพราะเนื้อที่อันจำกัดของคอลัมน์แต่ก็ขออนุญาตให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำหรับท่านที่สนใจใคร่ทราบรายละเอียดต่างๆ ทั้ง “ดาวร่วง” และ “ดาวรุ่ง” พร้อมๆ กัน โปรดกลับไปอ่านหน้า 8 หรือหน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับเมื่อวันจันทร์ที่ 21 มกราคม อีกครั้งนะครับ

ในส่วนของ “ดาวร่วง” ทั้งหลายนั้น ดาวที่ผมเสียดายที่สุด และอาลัยมากที่สุดเห็นจะได้แก่ธุรกิจ “เช่าหนังสือ” นั่นเอง

งานวิจัยของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยระบุว่า ธุรกิจเช่าหนังสือ เป็นดาวร่วงอันดับที่ 1 เคียงคู่ไปกับ ธุรกิจหัตถกรรม และ เฟอร์นิเจอร์ไม้ (ดั้งเดิมที่ไม่ได้มีการปรับตัว) ซึ่งน่าเป็นห่วงมากกว่าใครทั้งหมด

พูดก็พูดเถิดเท่าที่ผมติดตามงานวิจัยชุดนี้มา 2-3 ปี ธุรกิจเช่าหนังสือดูเหมือนจะได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นดาวร่วงมาโดยตลอด

ซึ่งก็เป็นไปตามแนวโน้มของการอ่านหนังสือของคนไทยที่แม้จะยังคงอ่านหนังสืออยู่ แต่ก็เปลี่ยนมาอ่านในระบบออนไลน์ หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น และอ่านหนังสือเล่มๆน้อยลง

ทำให้ธุรกิจจำหน่ายหนังสือเล่มพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย ดังจะเห็นได้จากการปิดตัวเองของร้านจำหน่ายหนังสือหลายๆ ร้าน

ก็ขนาด “ธุรกิจจำหน่ายหนังสือ” ยังฝืดเคืองอย่างที่กล่าวนี้แล้ว “ธุรกิจเช่าหนังสือ” จะเจริญรุ่งเรืองอยู่ได้อย่างไร?

จริงๆ แล้วธุรกิจเช่าหนังสือก็ไม่ใช่ธุรกิจใหญ่โตหรือมีรายได้มีกำไรที่มากมายมหาศาลอะไรนัก เท่าที่จำได้เจ้าของร้านเช่าหนังสือส่วนใหญ่มักจะอยู่ในขั้นมีรายได้พออยู่พอกินเท่านั้น

แต่ลงท้ายแล้วก็คงจะมีกำไรอยู่บ้าง ทำให้มีการลงทุนเปิดร้านให้เช่าหนังสือขึ้นตามย่านต่างๆ ของ กทม. หรือในต่างจังหวัดก็จะมีตามเมืองใหญ่ๆ เช่น ในตัวจังหวัด เป็นต้น

50 ปีก่อนโน้นในยุคผมเรียนมหาวิทยาลัยร้านเช่าหนังสือจะอยู่ที่ บางลำพู มากที่สุดมีถึง 4-5 ร้าน ตั้งอยู่ติดๆ กัน ส่วนย่านอื่นๆ ก็มีบ้างย่านละ 2-3 ร้าน เช่น บางรัก, ศรีย่าน, สามย่าน, หรือในตรอกซอกซอยบางส่วนของเยาวราช เจริญกรุง

หนังสือที่นำมาให้เช่ามีทั้งนวนิยายเรื่องยาวเรื่องสั้น เรื่องแปล นิยายกำลังภายในไปจนถึงนิตยสารรายสัปดาห์หรือรายเดือนต่างๆ

ในความเห็นส่วนตัวของผม…รู้สึกเสียดายธุรกิจนี้เป็นที่สุด เพราะเป็นธุรกิจที่ทรงคุณค่าให้ความรู้ ให้สติปัญญา ให้ความสนุกสนานเพลิดเพลินแก่คนไทยที่เป็นนักอ่านหนังสือ แต่ไม่ค่อยมีเงินซื้อหนังสือ สามารถที่จะอ่านหนังสือได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจเช่าหนังสือยังไม่ตายเสียทีเดียว…ร้านเช่าหนังสือแบบเก่าหดหายไปก็มีร้านเช่าหนังสือยุคไฮเทคมาแทนใครจ่ายค่าสมาชิก หรือจ่ายเงินค่าอ่านก็สามารถที่จะอ่านได้ทางอินเตอร์เน็ต

เด็กรุ่นใหม่คงจะหันไปอ่านในลักษณะนี้กันมาก และเท่าที่ทราบก็เป็นธุรกิจที่ทำรายได้ดีพอสมควร

เผอิญว่าคนรุ่นเก่าอย่างผมไม่คุ้นเคย และยังชอบบรรยากาศแบบเดิมๆ ที่ไปนั่งอ่านรวมๆ กัน ตามร้านเช่าหนังสือมากกว่า จึงรู้สึกเสียดายของเดิม ที่กำลังจะโรยราไปดังที่พร่ำพรรณนามาจนเกือบเต็มคอลัมน์วันนี้

แต่จะทำอย่างไรได้ สรรพสิ่งในโลกนี้ไม่มีอะไรจีรัง การเกิดขึ้นคงอยู่และดับไปเป็นธรรมดาของโลก หนังสือเล่ม, สิ่งพิมพ์และวารสารต่างๆ อยู่รับใช้โลกมานานแล้ว ถึงเวลาก็ต้องจากไป

ส่วน “ของใหม่” ไม่ว่าจะเป็น “อีบุ๊คส์” “สำนักข่าวออนไลน์” หรือ “โซเชียลมีเดีย” ทั้งหลายก็อย่าทนงตัวจนเกินไป เพราะต่อไป ก็อาจจะมีอะไรที่ “ใหม่กว่า” เกิดขึ้นในอนาคตมาเขี่ยตกรุ่นไปอีกจนได้

ผมก็ขอปลอบใจ “ธุรกิจเช่าหนังสือ” และ “ร้านเช่าหนังสือ” ธุรกิจดาวร่วงหมายเลข 1 ที่กำลังจะล้มหายตายจากด้วย “สัจธรรม” ที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนไว้––ดังนี้แล.

“ซูม”