ลูกท็อปเข้าร่วมภูมิใจไทย ปิดฉาก “มรดกเตี่ย” ชาติไทยพัฒนา?

ผมมีความจำเป็นต้องเขียนต้นฉบับล่วงหน้าไม่สามารถรอเหตุการณ์ล่าสุดได้ ฉะนั้นอ่านจบแล้วโปรดติดตามอ่านข่าวหน้า 1 ไทยรัฐฉบับวันนี้อีกครั้งว่า…

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมพาดหัวไว้เป็นไปตามที่พาดหรือไม่อย่างไร? นั่นก็คือข่าวที่ไทยรัฐฉบับล่วงหน้าวันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายนพาดหัวไว้ว่า

“ลูกท็อปตัดใจสละ ชทพ.ยกทีมเข้ารัง ภท.” พร้อมเสนอข่าวโดยละเอียดซึ่งแถลงโดยนาย อนุชา สะสมทรัพย์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.)

มีข้อความตอนหนึ่งว่า “เรามองว่าการเมืองในวันข้างหน้าพรรคเล็กจะอยู่ไม่ไหว และทำประโยชน์ให้แก่พี่น้องประชาชนได้น้อยกว่าการเข้าร่วมกับพรรคใหญ่…

และมาตกผลึกกันว่า พรรคใหญ่ที่ว่านี้คือภูมิใจไทย”

“ตระกูล สะสมทรัพย์ เรามองว่าพรรคภูมิใจไทยเหมาะสมกับจังหวัดนครปฐมมากที่สุด ตระกูล ศิลปอาชา โดยนาย วราวุธ ศิลปอาชา ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรค ก็เห็นตรงกันไปไหนไปกันเลือดสุพรรณจึงมาสรุปร่วมกันว่าเราจะไปพรรคภูมิใจไทยด้วยกัน และจะให้คำตอบอย่างชัดเจนอีกครั้งวันอาทิตย์ที่ 23 พ.ย.”

ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือว่า พรรคชาติไทยพัฒนา จะไปรวมกับ พรรคเพื่อไทย โดยจะมีรายชื่อหัวหน้าพรรค วราวุธ ศิลปอาชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามของพรรคเพื่อไทยอยู่ด้วยคนหนึ่งแต่คุณวราวุธ หรือลูกท็อป

ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางไปต่างประเทศขณะมีข่าวลือ ได้กลับมาตอบคำถามผู้สื่อข่าวภายหลังว่าไม่เป็นความจริง

ส่วนครั้งนี้แม้ผู้แถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ที่แล้วจะเป็นคุณ อนุชา สะสมทรัพย์ แต่แหล่งข่าวทุกสำนักรายงานตรงกันว่า ชาติไทยพัฒนา จะไปร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแน่นอนโดยส่วนตัว

ผมให้คะแนน “ลูกท็อป” ในเกณฑ์ดีมาโดยตลอด เพราะติดตามผลงานของท่านมาอย่างใกล้ชิด พบว่าท่านเป็นคนรุ่นใหม่ที่เก่งและมีความสามารถอย่างยิ่งคนหนึ่งที่ผมชอบมากคือลีลาการพูดจาปราศรัยของท่านเวลาไปประชุมต่างประเทศ

ซึ่งใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วลุ่มลึก มีสำเนียงแบบอังกฤษผสมอเมริกัน เพราะเคยร่ำเรียนมาจากทั้ง 2 ประเทศ

ดูเหมือนผมจะเคยเขียนถึง “ลูกท็อป” ว่ามีความสามารถพอที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ หากบุญมาวาสนาส่ง และจะเป็นในคนละแบบกับ “ท่านบรรหาร” บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ของประเทศไทยแต่ก็อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้ว…

คนจะเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยนั้น ต้องขึ้นกับบุญมาวาสนาส่งเป็นประเด็นสำคัญ…

ดังนั้น เมื่อบุญยังไม่มาวาสนายังไม่ส่ง และพรรค ชาติไทยพัฒนา ก็เรียวลงไปเรื่อยๆ ความจำเป็นที่ท่านจะต้องไปรวมกับพรรคอื่นๆจึงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ผมไม่ทราบว่าพรรคภูมิใจไทยจะใส่ชื่อคุณวราวุธเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่

เพราะจากที่ “นายกฯ หนู” คิดออกมาดังๆ เมื่อสัปดาห์ก่อนก็คือ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ กับ รมว.พาณิชย์ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ซึ่งเมื่อรวมกับชื่อ นายกฯ อนุทิน ในฐานะหมายเลข 1 ด้วยก็จะครบ 3 พอดีตามกฎกติกา

แต่เนื่องจาก ทั้ง ดร.เอกนิติ และคุณ ศุภจี มีแนวโน้มสูงที่จะไม่รับคำเชิญของ “นายกฯ หนู” ก็ถือว่า ลูกท็อป ยังมีโอกาสสูงที่จะได้รับการเสนอชื่อให้เป็น 1 ในแคนดิเดตของพรรคภูมิใจไทย

ผมค่อนข้างสนิทสนมกับนายกฯ บรรหาร ศิลปอาชา เมื่อครั้ง ท่านยังมีชีวิตอยู่ จึงรู้สึกดีใจเมื่อลูกชายของท่าน หรือ คุณวราวุธ ศิลปอาชา ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา รับมรดก “เตี่ยบรรหาร” ท่ามกลางความเห็นชอบของลูกน้องท่านบรรหารคนอื่นๆ

เมื่อมาทราบข่าวว่าท่านจำเป็นต้องสละพรรค ชทพ.ที่เปรียบเสมือนมรดกของคุณพ่อเช่นนี้ ก็รู้สึกเสียดายอยู่บ้าง…

แต่ก็เข้าใจดีว่า ยังไงๆ ก็ต้องเลือกหนทางนี้ เพราะหาไม่พรรคชาติไทยพัฒนาก็จะต้องเรียวลงไปเรื่อยๆ อยู่ดีหวังว่าการตัดสินใจครั้งนี้คงถูกต้องนะครับคุณท็อป

ขอให้โชคดีและก้าวหน้าไปด้วยดี…แต่จะไปถึงดวงดาวหรือไม่? ก็คง สุดแต่บุญวาสนา…เพราะเมืองไทยเราขึ้นอยู่กับเรื่องนี้จริงๆ.

“ซูม”

การเมืองไทยเกี่ยวกับกระแสลูกท็อป ย้ายพรรค เข้าร่วมพรรคภูมิใจไทย