เมื่อประมาณปี 2558-2559 เกือบๆ 10 ปีมาแล้ว ผมและเพื่อนเค้ารับมิสอีกหลายๆ คนของไทยรัฐได้รับเชิญจากท่านเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญใน พ.ศ. นั้น.. ท่านณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร ที่เรามักเรียกชื่อเล่นของท่านว่า “ฑูตแล” ไปเยือนกรุงพนมเปญอยู่หลายวัน
ห้วงเวลาดังกล่าวน่าจะเป็นปีท้ายๆ ของท่านทูตแลในตำแหน่งทูตไทยประจำกัมพูชา เพราะต่อมาในปี 2560 ท่านก็เกษียณอายุ
ถ้าจะถามว่ามีคนไทยคนไหนบ้างที่ปรารถนาดีต่อกัมพูชา และอยากเห็นกัมพูชาเป็นมิตรที่ดีของประเทศไทยและพึ่งพาอาศัยกันในทางเศรษฐกิจและสังคมก็เห็นจะเป็นทูตแลนี่แหละครับ
ท่านนัดคณะของผมให้พบกับผู้ใหญ่ในรัฐบาลกัมพูชาหลายท่าน.. แรกๆ มีโปรแกรมจะได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ด้วยซ้ำ แต่ฮุน เซน ไม่ว่าง คณะของเราจึงได้พบกับรองนายกฯ และ รมว. กลาโหม เตีย บัญ แทน
จากนั้นก็ไปพบรัฐมนตรีอีกหลายกระทรวง อาทิ กระทรวงคมนาคม กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงข่าวสาร ฯลฯ เป็นต้น
ทุกๆ รัฐมนตรีมีทัศนคติที่ดีต่อประเทศไทย มีความชื่นชมในความเป็นมิตรที่ใจกว้างของรัฐบาลไทยที่ให้ความช่วยเหลือเจือจานและมีความร่วมมืออย่างดียิ่งแก่กัมพูชาในทุกๆ ด้าน
ผมกลับมาเขียนแสดงความชื่นชมเตีย บัญ เต็มคอลัมน์ เล่าถึงประวัติของท่านที่เคยลี้ภัยจากเขมรมาเป็นคนงานที่ อ่างศิลา ชลบุรี อยู่หลายปี ก่อนกลับไปกัมพูชาแล้วได้เป็นใหญ่ในภายหลัง
ช่วงนั้นเป็นช่วงฟื้นฟูสัมพันธ์ไมตรีขึ้นมาอีกครั้งหลังเกิดเหตุการณ์เผาสถานทูตไทยและธุรกิจคนไทยในพนมเปญ เมื่อ พ.ศ. 2546 ซึ่งก็ได้ท่านเตีย บัญ นี่แหละเป็นกาวใจ
การฟื้นฟูความสัมพันธ์ดำเนินไปอย่างเร็วมาก และการลงทุนจากประเทศไทยที่ชะงักงันไประยะหนึ่งก็กลับคืนมาอีกครั้ง.. โดยเฉพาะปั๊มน้ำมัน PTT หรือ ปตท. โผล่ผุดขึ้นหลายแห่งในพนมเปญ
ร้านกาแฟ “อเมซอน” ของ ปตท. ก็ผุดขึ้นหลายแห่งหลายที่ทั้งในปั๊มและนอกปั๊ม.. โดยเฉพาะนอกปั๊มนั้น มีรายงานว่าด้านหน้ามหาวิทยาลัยพนมเปญโด่งดังที่สุด คนแน่นเอี้ยดทุกวัน
นอกจากปั๊ม ปตท. และอเมซอน ผมเริ่มเห็นร้าน S&P ของ “ป้าใหญ่” ภัทรา ศิลาอ่อน โผล่ขึ้นอย่างน้อย 1 แห่ง + ด้วยปูนซีเมนต์ของ SCG ขึ้นป้ายขายหลายที่ในตลาดพนมเปญ
ผมสรุปเหตุการณ์ที่ไปเยือนกัมพูชาครั้งนั้นเอาไว้สั้นๆ ว่า จะมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเขมรที่ขาดสะบั้นไปหลังการเผาสถานทูตดีขึ้นอย่างรวดเร็วก็ตาม.. แต่หนึ่งในปัจจัยสำคัญ ผมยกให้กับการทุ่มเททำงานอย่างจริงจังจริงใจที่มีต่อกัมพูชาของท่านทูตณัฏฐวุฒิ นี่แหละครับบวกด้วยการเป็นกาวใจที่แท้จริงของท่านเตีย บัญ
ท่านฑูตแลได้ถึงแก่กรรมอย่างน่าเสียดายยิ่งเมื่อเดือนมีนาคมปี 2566 ผมไม่แน่ใจว่าดวงวิญญาณของท่านจะรู้สึกอย่างไรกับการสู้รบระหว่างเขมร-ไทยที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
แต่สำหรับผมรู้สึกเสียใจแทนท่านเป็นที่สุด ที่ความปรารถนาดีของท่านต้องสูญเปล่าไปโดยสิ้นเชิง
ปั๊มน้ำมัน PTT หรือ ปตท. เปลี่ยนชื่อเป็นปั๊ม PPC ย่อมาจาก PEACE PETROLEUM CAMBODIA เรียบร้อย ส่วนน้ำมันเขายืนยันว่าไม่ได้นำเข้าแล้วจากประเทศไทย
ครั้งที่แล้วตอนเผาสถานทูตก็นายฮุน เซน นี่แหละที่อยู่เบื้องหลัง แต่โชคดียังมีท่านเตีย บัญ ช่วยไกล่เกลี่ยและมีส่วนสำคัญยิ่งในการฟื้นฟูมิตรภาพ
คราวนี้ทั้งฮุน เซน ทั้งฮุน มาเนต ออกมาโชว์เต็มตัว 2 พ่อลูก.. แต่ท่านเตีย บัญ ดูเหงาๆ และลูกๆ 2 คนของท่าน คนโตชื่อ เตีย เสียม มีข่าวว่าเป็นเจ้าของปั๊ม ปตท. ที่เปลี่ยนมาเป็นปั๊ม PPC นี่เอง
อีกคนคือพลเอกเตีย เซียฮา รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ซึ่งต้องถือว่าเป็นผู้นำทหารกัมพูชาในการสู้รบด้วย.. แปลว่าตระกูล “เตียง” ยอมเอออตระกูล “ฮุน” ทุกอย่าง แบบนี้คงยากแล้วกระมัง?.. ที่ความสัมพันธ์จะกลับมาเหมือนเดิม.
“ซูม”

