ใน “วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี” ฉบับภาษาอังกฤษ ลงประวัตินายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เอาไว้ยาวเหยียดพอสมควร มีเนื้อความสำคัญบางส่วนดังนี้
เขาเกิดเมื่อ 20 ตุลาคมปี 1977 ที่จังหวัดกัมปงจาม เป็นบุตรชายคนที่ 2 ของ ฮุน เซน และ บุน รานี… มีเชื้อสายจีนแต้จิ๋ว (Teachew Chinese Heritage) จากปู่ที่ชื่อ ฮุน เนียง
จากการให้สัมภาษณ์ของ ฮุน เซน ผู้เป็นบิดา ระบุว่าในคืนที่ ฮุน มาเนต ถือกำเนิด มีแสงสว่างจ้าพวยพุ่งขึ้นเหนือหลังคาบ้าน.. ทำให้ ฮุน เซน เชื่อว่าลูกชายคนนี้ของเขาเกิดมาจาก “สิ่งศักดิ์สิทธิ์”
ปี ค.ศ 1995 (พ.ศ 2538) เขาได้เดินทางไปเรียนที่ “วิทยาลัยการทหารแห่งสหรัฐฯ” หรือ “West Point” โดยรับทุนจากประเทศไทย (Using a Thai Scholarship)
เขาเป็นชาวกัมพูชาคนแรกที่มีโอกาสเข้าเรียนในร้อยเวสต์พอยต์ และจบการศึกษาที่นี่ และเป็น 1 ใน 7 คนของนักศึกษาต่างประเทศที่จบในปีเดียวกัน โดยได้รับปริญญาตรีทางเศรษฐศาสตร์
ต่อมาเขาไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งนิวยอร์ก (New York University) จนจบปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์เช่นกัน แล้วไปจบปริญญาเอกที่ มหาวิทยาลัยบริสทอล ในอังกฤษ เป็นปริญญาสูงสุดเมื่อปี 2009
เคยมีการพูดและเขียนในสื่อหลายๆ สำนักของไทยเราว่าปี 2538 ที่ ฮุน มาเนต ไปเรียนที่เวสต์พอยต์ นั้น เป็นเพราะการสนับสนุนของ “บิ๊กจิ๋ว” พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับกัมพูชา และสนิทกับกองทัพกัมพูชาผ่าน นายพลเตีย บัญ เป็นคนมอบโควต้าของ โรงเรียนนายร้อย จปร. ประเทศไทยให้ ฮุน มาเนต ซึ่งตรงกับที่ วิกิพีเดีย บันทึกไว้ข้างต้น
อย่างไรก็ดีทาง ฮุน เซน ก็เคยออกข่าวอีกด้านหนึ่งว่า ฮุน มาเนต ได้รับการสนับสนุนโดยตรงจากรัฐบาลสหรัฐฯ ที่หวังจะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับเขมรให้แน่นแฟ้นหลังยุคสงครามอินโดจีน โดย ฮุน เซน เคยออกมาให้ข่าวว่า ฮุน มาเนต ได้ทุนรัฐบาลสหรัฐฯ รวมค่าเล่าเรียนทั้งสิ้น 245,000 เหรียญ
ในส่วนของชื่อเสียงอันโด่งดังของ เวสต์พอยต์ นั้น ศ.ดร.วรภัทร โตธนะเกษม นักบริหารและอาจารย์ได้บริหารธุรกิจชื่อดังเคยเขียนไว้ในคอลัมน์ของท่านในกรุงเทพฯ ธุรกิจเมื่อปีกลายว่า โรงเรียนนายร้อยเวสต์พอยต์ ซึ่งมีชื่อเป็นทางการว่า United States Military Academy ก่อตั้งมาแล้ว 223 ปี
นอกจากจะสอนให้นักศึกษาเรียนรู้กลยุทธ์การทหาร การใช้อาวุธ การฝึกฝนร่างกายให้แข็งแรงแล้ว ยังมีจุดมุ่งหมายที่จะให้นักศึกษาของเขาจบออกไป “เป็นผู้นำที่มีความพร้อมทั้งสติปัญญา จริยธรรม สังคม และร่างกาย เพื่อเผชิญกับโลกที่ไม่แน่นอน และมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา”
ดร.วรภัทร เขียนไว้ตอนหนึ่งว่า “ที่เขาเน้นย้ำอย่างมาก ก็คือ เกียรติยศของนักเรียนนายร้อย ได้แก่ เราจะไม่โกหก ไม่โกง ไม่ขโมย และไม่ยอมรับการกระทำเช่นนั้นโดยบุคคลอื่น”
พร้อมทั้งระบุ “ปรัชญาการเรียนการสอน” ของเวสต์พอยต์ ไว้ว่า “สรุปก็คือเขาต้องการสร้างนายทหารให้ก้าวเดินออกไปจากสถาบันด้วย ลักษณะนิสัย (Character) ที่มีความรู้ทางวิชาการทหาร หน้าที่พลเมือง และการเป็นผู้นำทั้งทางคุณธรรมและจริยธรรม”
การสั่งให้ทหารโจมตีชุมชนไทยซึ่งมีประชาชนทั้งเด็ก ผู้หญิง คนแก่ รวมไปถึงโรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ 7-11 (ที่คนอเมริกันรู้จักดี) จนเสียหายและบาดเจ็บล้มตายไปจำนวนมาก… แถมหลังสุดรับปากหยุดยิงแล้ว ยังยิงอีก ฯลฯ
ไม่น่าเชื่อเลยว่าบุคคลที่มีลักษณะนิสัยเช่นนี้จะจบจากโรงเรียนนายร้อยระดับตำนานของโลกอย่างเวสต์พอยต์
“ซูม”
