เมื่อสักเกือบเที่ยงคืนของคืนวันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของการปะทะระหว่างกัมพูชากับไทย โดยกัมพูชาเป็นฝ่ายยิงก่อนดังที่ทั่วโลกรับรู้รับทราบเป็นอย่างดีแล้วนั่นเอง
สื่อออนไลน์ก็ขึ้นโพสต์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีรายละเอียดว่า ท่านได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา นายฮุน มาเนต และรักษาการนายกฯประเทศไทย ภูมิธรรม เวชยชัย มาเรียบร้อย
ผู้นำทั้ง 2 ประเทศรับปากว่าจะดำเนินการ “หยุดยิง” และเข้าสู่การประชุมหารือเพื่อ “สันติภาพ” ในทันที
หลังจากที่ทรัมป์ยืนยันว่าจะไม่ยอมเจรจาด้านการค้าหรือเรื่องอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ด้วย… หากทั้ง 2 ฝ่ายยังสู้รบกัน
ทรัมป์ทิ้งท้ายว่า “นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับทั้ง 2 ประเทศ พวกเขามีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานและเปี่ยมไปด้วยเรื่องราว…หวังว่าพวกเขาจะอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติไปอีกยาวนาน เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นและเกิดสันติภาพ…ผมจะรอคอยในการสรุปข้อตกลงการค้าของเรากับทั้ง 2 ประเทศ”
ผมลองอ่านคอมเมนต์ที่ยาวเหยียดเหมือนหางว่าวในโพสต์ดังกล่าว ดูเหมือนว่าร้อยละกว่า 90 จะกระแหนะกระแหนทรัมป์ที่ “สทร.” เข้ามาห้ามศึกโดยใช้เรื่อง “เจรจาการค้า” เป็นเครื่องมือ
สำหรับผมมองว่าแม้คุณทรัมป์จะ สทร. ไปหน่อย แต่ก็เป็นความหวังดีของแกที่อยากให้เกิดสันติภาพขึ้นในภูมิภาค
รวมทั้งยังมองว่าแค่นี้น่าจะถือเป็นการ “สั่งสอน” ที่พอเพียงแล้ว เพราะเราสามารถเข้าไปครองพื้นที่ที่เป็นปัญหาได้เกือบทุกจุดและสังหารทหารเขมรได้เป็นร้อย รวมทั้งระดับ “นายพล” ด้วย 1 ราย
ผมไม่มีเวลาไปค้นว่าคุณภูมิธรรมหรือ “พี่อ้วน” รักษาการนายกฯของเราคุยกับทรัมป์ไว้ว่าอย่างไรบ้าง แต่รีบค้นโพสต์ของฮุน มาเนต ทันที เพราะอยากรู้ว่าเขาจะจริงใจแค่ไหน?
เจอเข้าพอดีก็เลยแคปไว้ สรุปเนื้อหาสาระได้ว่า ฮุน มาเนต ซึ่งได้รับโทรศัพท์จากทรัมป์ก่อน แล้วได้ตอบไปว่า ยินดีหยุดยิง จากนั้นทรัมป์ก็โทร. ไปคุยกับรักษาการนายกรัฐมนตรีประเทศไทย แล้วโทร. ไปหาเขาอีกทีว่า ทางประเทศไทยก็โอเคด้วย
“นี่ถือเป็นข่าวดีสำหรับทหารและประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ… ผมหวังว่าฝ่ายไทยจะไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืนเหมือนที่เคยทำมาแล้วในการประสานงานของท่าน อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม” ฮุน มาเนต สรุปพร้อมกับตีวัวกระทบคราดใส่ประเทศไทยตามอุปนิสัย
ที่ไหนได้เช้าวันรุ่งขึ้น 27 กรกฎาคม นายฮุน มาเนต ที่กระแสไทยนี่แหละที่ผิดคำมั่นสัญญากับทรัมป์เสียเอง.. เพราะเป็นฝ่าย “ยิงก่อน” ตอน 6 โมงเช้า 10 นาที ที่จังหวัดสุรินทร์ และยังยิงข้ามฝั่งมาโดนบ้านเรือนราษฎรไทยเราเสียหายเพิ่มขึ้น
ผมจำเป็นต้องจบข้อเขียนฉบับนี้ช่วงเย็นๆ ของวันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม ยังไม่ทราบว่าผลการสู้รบในวันที่ 4 เป็นอย่างไร?
รู้ได้อย่างเดียวว่า อยากเปลี่ยนใจไปขอให้ทหารไทยเราสั่งสอนให้หนักๆ อย่างที่นักวิเคราะห์หลายท่านวิเคราะห์ไว้
เพราะฮุน มาเนต ก็คือ ฮุน มาเนต เสียแรงมีการศึกษาดีจบ เวสต์พอยต์ จากสหรัฐฯ จบระดับด็อกเตอร์ด้านเศรษฐศาสตร์จากอังกฤษ… แต่ก็จบวิชาปลูก “มะม่วงกะล่อน” ที่ “พ่อฮุน เซน” ของท่านถ่ายทอดให้จนช่ำชองอีกวิชาหนึ่ง
นี่ขนาดรับปากทรัมป์เอาไว้แล้ว แถมคุยทับรักษาการนายกฯไทยไว้ด้วย… ยังเป็นฝ่ายลงมือก่อนในเช้าวันรุ่งขึ้น… จะไม่ให้ผมเปรียบเปรยว่าจบวิชาเกษตรศาสตร์บัณฑิต เอก “ปลูกมะม่วงกะล่อน” อีกปริญญาหนึ่งได้ยังไงล่ะ
หมายเหตุ (กะล่อน: มี 2 ความหมาย 1.หมายถึงมะม่วงชนิดหนึ่ง และ 2.หมายถึงคนพูดคล่องแคล่วแต่ไม่จริงหรือพูดลื่นไหล แต่หลอกลวง)
“ซูม”