“หลวงพ่อทวด” เขาใหญ่ องค์ใหญ่ “ที่สุดในโลก”?

ในเอกสารนำเที่ยว “เขาใหญ่” ของสื่อและบริษัทนำเที่ยวชื่อดังทุกบริษัท จะมีรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่ติดอยู่ในอันดับต้นๆ ของสถานที่ “ที่ควรไปเยือน” ได้แก่ สถานที่ที่เรียกกันว่า “พุทธอุทยานหลวงพ่อทวดเขาใหญ่” นั่นเอง

โดยมีรายละเอียดอธิบายเพิ่มเติมว่าพุทธอุทยานแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก” ซึ่งมีความสูงถึง 111 เมตร โดดเด่นอยู่ท่ามกลาง “สวนสวย” เป็นที่สักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลนอกเหนือจากหลวงพ่อทวดแล้ว ยังเป็นที่ประดิษฐาน สิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ด้วย เช่น องค์พระนารายณ์ทรงครุฑ องค์พิฆเนศ ฯลฯ

ทีมงานซอกแซกมีความเลื่อมใสในบวรพุทธศาสนาอย่างเต็มเปี่ยมอยู่แล้ว และให้ความเคารพนับถือ “หลวงปู่ทวด” พระเกจิอาจารย์รูปสำคัญของภาคใต้ ที่มีชื่อเสียงจารึกทั้งในประวัติศาสตร์ และเป็นตำนานเล่าลือเคียงคู่ประเทศไทยมาตั้งแต่ยุคสมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงปัจจุบัน เมื่อเดินทางไปถึงจังหวัดใดที่มีการสร้างรูปปั้นของท่านไว้ เพื่อเคารพบูชา–ทีมงานก็จะแวะไปกราบไหว้สักการะอยู่เสมอๆ

เมื่อได้อ่านคำเชิญชวนของบริษัทท่องเที่ยวว่าเป็นสถานที่หนึ่งที่ควรไปเยือน เมื่อเดินทางมาถึงเขาใหญ่เช่นนี้ จึงปักหมุดไว้เป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ทีมงานจะต้องไปเยือน

ในยุคไฮเทคอย่างทุกวันนี้การเดินทางไปสถานที่ที่พอมีชื่อเสียงอยู่บ้างไม่ใช่เรื่องยากเย็นอีกแล้ว เพราะมี “กูเกิล แม็ปส์” เป็นปูมเดินทางที่สะดวกที่สุด

ดังนั้น เมื่อเราตั้งค่าไว้ว่าจะไปกราบ “หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก” ณ เลขที่ 118 ถนนธนะรัชต์ ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา…กูเกิล แม็ปส์ ก็ส่งเสียงเจื้อยแจ้ว นำคณะของเราจากบ้านพัก The Box Poolvilla & Camping Khaoyai ของคุณ ประกิต อภิสารธนรักษ์ ที่ผมไปพักอยู่ ถึงพุทธอุทยานหลวงพ่อทวดเพียงเวลา 20 กว่านาทีเท่านั้น

หน้าอุทยานมีบริเวณที่ว่างสำหรับจอดรถได้จำนวนมาก มีทางเดินผ่านร้านจำหน่าย สินค้าพื้นเมือง และร้านอาหาร ร้านกาแฟ ดูสะอาดสะอ้าน ไปจนถึงด้านหน้าองค์หลวงปู่ทวดก็จะมีช้าง 2 เชือกที่กล่าวกันว่าเป็นช้างคู่บารมีของหลวงปู่ไว้สำหรับสักการะขอพร

จากนั้นเมื่อเดินลงบันไดสู่พื้นล่าง ซึ่งก็ยังเป็นที่จอดรถเช่นกัน แต่เบื้องหน้านั้นจะเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ สูง 111 เมตร หน้าตัก 168 เซน ติเมตร ที่มีแผ่นป้ายติดไว้อย่างมั่นใจว่า “องค์ใหญ่ที่สุดในโลก” พร้อมถ้อยคำเชิญชวนทำบุญต่างๆ นานา

รอบๆอุทยานยังมีรูปเคารพอื่นๆ ไว้บูชาอีกหลายๆรูป อาทิ องค์พระนารายณ์ทรงครุฑ องค์พระพิฆเนศ และศาลา “ไอ้ไข่” ฯลฯ

สำหรับทีมงานซอกแซก ซึ่งมีความศรัทธาในประวัติตำนาน ตลอดจนเรื่องราวที่เกี่ยวข้องของหลวงปู่ทวด ตลอดจนพระเกจิอาจารย์ชื่อดังต่างๆ มาตั้งแต่ยังเด็ก แม้เติบใหญ่จะได้มีโอกาสเรียนรู้มากขึ้น มีความเข้าใจในวิทยาศาสตร์ต่างๆ มากขึ้น

แต่ก็ยังให้ความเคารพในตำนานในคำบอกเล่าของเรื่องราวอันเป็นปาฏิหาริย์ของพระเกจิต่างๆ ด้วยความเข้าใจและให้เกียรติในบริบทความเชื่อของพี่น้องชาวไทยที่ถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน

โดยเฉพาะประวัติและตำนานของ “หลวงปู่ทวด” หรือ สมเด็จพระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์ หรือ สมเด็จเจ้าพะโคะ หรือ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หรือ หลวงปู่ ทวดวัดช้างให้ และ ฯลฯ ซึ่งเป็นรูปเดียวกัน

ท่านถือกำเนิด ณ หมู่บ้านซึ่งปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา เมื่อ พ.ศ.2125 ยุคกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี และอยู่ในรัชสมัยของ สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช กว่า 440 ปีมาแล้ว

เรื่องราวของท่านมีทั้งที่บันทึกไว้สั้นๆ ในเอกสารประวัติศาสตร์ และมีคำบอกเล่าในลักษณะตำนานผสมนิทานพื้นบ้านถ่ายทอดสืบกันมาอย่างน่าตื่นเต้น

ขอแนะนำให้เข้ากูเกิล โดยพิมพ์คำว่า “หลวงพ่อทวด” ซึ่งจะมีเว็บไซต์เกี่ยวกับท่านขึ้นมาให้อ่านจำนวนมาก รวมทั้งของ กรมศิลปากร ที่พาดหัวไว้ว่า ประวัติหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งเมื่อคลิกเข้าไปดูจะเป็นหนังสือที่จัดพิมพ์โดยกรมศิลปากรเมื่อหลายปีก่อน เล่าเรื่องราวของท่านอย่างน่าสนใจยิ่ง

เป็นทั้งตำนานเป็นทั้งเรื่องเล่าแต่งเติม เสริมพระบารมีนับแต่ท่านยังเด็ก เริ่มบวชเรียน ทั้งที่สงขลาและที่นครศรีธรรมราช จนถึงการเดินทางเข้ากรุงศรีอยุธยาด้วยเรือเดินทะเลได้มีโอกาสแสดงปาฏิหาริย์เหยียบน้ำทะเลจืดเป็นครั้งแรก

ไปจนถึงได้เข้าเฝ้าพระมหาธรรมราชา ได้ช่วยตอบปัญหาปริศนาธรรมจากพระเจ้ากรุงลังกาที่มีบ้านเมืองเป็นเดิมพัน จนทำให้กรุงศรีอยุธยารอดพ้นจากการส่งบรรณาการไปได้ เป็นที่ทรงโปรดปรานของพระมหาธรรมราชา

แต่ก็ไม่ปรารถนาที่จะเป็นใหญ่อยู่ในกรุงศรีฯ ขอเดินทางกลับสงขลาเช่นเดิม เข้าจำพรรษา ณ วัดพะโคะ หรือวัด ราชประดิษฐาน บริเวณเขาพัทธสิงค์ ตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นวัดที่ท่านจำพรรษามาตั้งแต่ต้น

จากนั้นก็มีเรื่องเล่าต่อว่า เมื่อท่านอายุ 80 พรรษา ได้หายไปคล้ายละสังขาร แต่ก็ไปปรากฏตัวขึ้นที่ไทรบุรี และโยงมาถึงวัดช้างไห้ จังหวัดปัตตานี หลังจากมรณภาพเมื่ออายุ 100 ปี ในที่สุด

เนื่องในโอกาสที่ได้ไปกราบหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลกที่เขาใหญ่ ก็ขออนุญาตนำเรื่องเล่าจากเว็บไซต์ของกรมศิลปากรมาฝากไว้ด้วย…มีโอกาสอย่าลืมเข้าไปอ่านประดับความรู้กันด้วยนะครับ.

“ซูม”

หลวงพ่อทวดเขาใหญ่ องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ณ พุทธอุทยานเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา