ทันทีที่เห็นชื่อ “อันธพาล 2499 The Musical” เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงภาพยนตร์ระดับตำนาน “2499 อันธพาลครองเมือง” ผลงานของผู้กำกับ นนทรีย์ นิมิตบุตร พร้อมกับวลีฮิตติดหูอย่าง “เป็นเมียพี่ต้องอดทน” อย่างแน่นอน
ละครเวทีเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจากตัวละครหลักของภาพยนตร์ แต่ไม่ใช่การรีเมคโดยตรง เพราะเนื้อหาโดยรวมถือว่าแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ราวกับเป็นการเล่าเรื่องใหม่จากมุมมองใหม่เลยก็ว่าได้
แต่ตัวละครหลักทั้งหมดก็ยังคงเดิมก็คือ “แดง ไบเล่ย์”, “ปุ๊ ระเบิดขวด”, “ดำ เอสโซ่”, “เปี๊ยก สุทธิ์กษัตริย์” และ “แหลม สิงห์” ที่เป็น 5 ตัวละครหลักสำคัญของเดินเรื่องในมิวสิคัลครั้งนี้
ด้วยความที่เป็นละครเวทีแบบมิวสิคัล การเล่าเรื่องทั้งหมดจึงถูกถ่ายทอดผ่านบทเพลง ซึ่งบอกได้เลยว่าทำได้ดี มีดนตรีที่หลากหลาย มีทั้งเพลงที่ตรงยุคกับช่วง 2499 แต่ในขณะเดียวกันก็มีเพลงที่รู้สึกความใหม่โมเดิร์นขึ้นในละครเวทีเรื่องนี้เลยไม่ทำให้น่าเบื่อ
ส่วนทางด้านนักแสดงบอกได้เลยว่ามีเซอร์ไพรส์เยอะมากไม่ว่าจะเป็น
“นาย ณภัทร ศรีสมบูรณ์” ที่รับบทเป็น “แดง ไบเล่” การเล่นมิวสิคัลเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของน้อง ซึ่งก็ต้องถือว่าน้องนายทำได้ดีเลยทีเดียว ทั้งเสียงร้องและการแสดงอารมณ์นั้นมาเต็มมากๆ ไม่ว่าจะดุ จะโหด จะซึ้ง หรือจะอ่อนโยน มีหมด ต้องยกนิ้วโป้งให้ ว่าเยี่ยมจริงๆ
อีกคนที่ต้องชื่นชมก็คือ “ไอซ์ พารีส” น้องไอซ์นั้นเป็นนักร้องและนักแสดงที่เล่นละครมามากมาย ส่วนมิวสิคัลเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 โดยรับบทเป็น “ปุ๊ ระเบิดขวด” เพื่อนรักของ “แดง ไบเล่” ซึ่งไอซ์เล่นได้ดีมากๆ เสียงร้องแน่นสีหน้าท่าทางอารมณ์นั้นก็มาเต็มเช่นกัน ดูแล้วรู้สึกดุอยู่ตลอดเวลา
ส่วนคนนี้สิครับที่เรียกว่าเป็นหนึ่งเซอร์ไพรส์ของเรื่องก็คือ “เทศน์ ไมรอน” ที่รับบทเป็น “ดำ เอสโซ่” น้องถือว่ายังใหม่ในวงการบันเทิง ผมเคยดูน้องเล่นละครเรื่อง “ดวงใจเทวพรหม” ตอน “ใจพิสุทธิ์” มาแค่เรื่องเดียว
ซึ่ง ณ วันนั้นผมจำได้ว่าได้ดูเบื้องหลังละครน้องยังพูดภาษาไทยไม่ค่อยชัด อ่านภาษาไทยก็ยังไม่แข็งแรง หรือต้องมีคนมาอ่านให้ฟังและจำบท แต่พอมาเล่น อันธพาล 2499 The Musical น้องทั้งร้อง ทั้งเต้น ทั้งบู๊ และมีบทพูดภาษาไทยยาวๆ อีกมากมาย ซึ่งน้องก็ทำได้เป๊ะมาก และดีมากๆ เป็นการพัฒนาแบบก้าวกระโดดของน้องเลย
“แหลมสิงห์” รับบทโดย “บูม สหรัฐ” น้องมีดีกรีเป็นแชมป์ “The Star Idol” ที่มีผลงานเพลงมามากมาย ในเรื่องนี้มาเล่นเป็นนักเลงที่ฝันอยากเป็นนักร้อง แต่ร้องเสียงหลงมาตลอด และรับบทเป็นคนอารมณ์ดีคอยสร้างเสียงหัวเราะให้คนอื่น ซึ่งทั้งร้องทั้งแสดงของน้องถือว่าเยี่ยมเลยครับ
“เปี๊ยก วิสุทธิ์กษัตริย์” รับบทโดย “ไดมอนด์ ณรกร” อดีตสมาชิกวง LAZ1 มาก่อน เรื่องเต้นเรื่องร้องนั้นไม่ต้องห่วง แสดงได้ดีเลยครับกับบทน้องเล็กในแก๊งที่แดง ไบเล่อยากให้กลับไปเรียน
อีกสองสาวของเรื่องนี้ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ “วัลภา” นางเอกของเรื่อง รับบทโดย “อ๋อลี่ ตติยา” นักแสดงจากช่อง ONE ที่สวย เซ็กซี่ และเสียงดีมากๆ โดยเฉพาะฉากที่เปิดตัวในบาร์นั้นเสียงร้องทรงพลังจริงๆ
และคนสุดท้าย “ปุยฝ้าย ภัทณชา” ในบท “แม่โฉม” คุณแม่ของ แดง ไบเล่ ที่ถ่ายทอดความรักของแม่ได้เป็นอย่างดี ในเดอะมิวสิคัลเรื่องนี้ก็ยังคงความเป็นปุยฝ้ายที่ร้องเพลงเพราะอยู่และแสดงอารมณ์ได้ดีเหมือนเดิม
บรรยากาศภาพรวมของเรื่องนี้เรียกได้ว่า สนุก ตื่นเต้น และลุ้นตลอดทั้งเรื่อง มีครบรสชาติไม่ว่าจะ บทบู๊ บทเศร้า บทซึ้ง และบทขายของที่มีหนุ่มๆ ทั้งห้าและน้องๆ นักแสดงร่วมออกมาโชว์กล้ามในฉากที่สู้กันตอน “ศึกสิบสามห้าง” ที่เป็นบทบู๊ประกอบดนตรี ที่เรียกเสียงกรี๊ดได้ลั่นโรงละครเมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์
วลีหลักๆ ที่เป็นภาพจำของเรื่องอย่าง “เป็นเมียเราต้องอดทน” ก็ยังคงมีอยู่ในละครเวทีเรื่องนี้ แต่เปลี่ยนเป็นเวอร์ชั่นเพลงแจ๊ส ซึ่งฟังดูแล้วได้อารมณ์ความแตกต่างไปอีกแบบ
วิธีการเล่าเรื่องน่าสนใจคือเอาตอนจบขึ้นมาเป็นตอนต้นแล้วก็ค่อยๆ ไล่เรียงกันไปเล่าถึงอดีตที่ผ่านมาจนมาบรรจบกับตอนเริ่มต้นอีกครั้ง
ในช่วงเปลี่ยนฉากบอกเลยว่าทำให้ตื่นเต้น เหมือนมันวาร์ปไปวาร์ปมา ทำให้ดูมีความทันสมัย และตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา
ละครเวทีเรื่องนี้เนื้อหาหลักๆ เป็นเรื่องของ เพื่อน มิตรภาพ ความรัก และครอบครัว ที่ถูกเล่าผ่านเพลงเพราะๆ มากมาย และการแสดงที่ยอดเยี่ยมของนักแสดงทุกๆ คน
ละครเวทีสนุกสนุกแบบนี้ต้องบอกต่อและเชิญชวนให้ทุกคนไปตีตัวดูนะครับ
เปิดแสดงตั้งแต่ 26 พฤษภาคม – 29 มิถุนายนนี้ ณ เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ สนใจจองบัตรได้ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกช่องทาง