วันนี้ผมมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวนิดหน่อยนั่งจิ้มแห้ง เขียนอะไรไม่ออกมาตั้งแต่บ่ายโมง…ใกล้เวลาส่งต้นฉบับเข้ามาเต็มที จะเขียนอะไรดีละเนี่ย?
ถ้าเป็นสมัย 30-40 ปีก่อน เวลาเขียนอะไรไม่ออก บรมครูด้านการเขียนแนะนำให้เลือก “จดหมาย” จากท่านผู้อ่านมาลงสักฉบับ หรือสองฉบับก็เต็มคอลัมน์แล้ว เราก็เขียนแสดงความคิดเห็นต่อท้ายนิดหน่อย…ก็พอจะเอาตัวรอดไปได้ 1 วัน
แต่ยุคนี้เดือนหนึ่งมีจดหมายมาถึงผมแค่ฉบับ 2 ฉบับเท่านั้น ท่านผู้อ่านเลิกใช้วิธีติดต่อสื่อสารกับคอลัมนิสต์ ในทางจดหมายมาหลายปีแล้วครับ
ก็พอดีนึกได้ว่ายุคนี้ต้องใช้ AI ซึ่งกำลังฮิตมาก เขาว่านักเรียนนักศึกษาหลายๆ คนหันมาใช้ AI ช่วยทำวิทยานิพนธ์กันแล้ว
อย่ากระนั้นเลยวาน AI ช่วยเขียนแทนสักวันดีกว่า โดยตั้งคำถามไปว่า “เศรษฐกิจแย่ปฏิบัติตนอย่างไรดี?” และนี่คือคำตอบในภาพรวมจาก AI ครับ
“ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดีควรเน้นการประหยัด การบริหารจัดการหนี้ และการเพิ่มช่องทางการหารายได้ นอกจากนี้การลงทุนใช้สินทรัพย์ที่ปลอดภัย และมีเสถียรภาพ รายละเอียดก็เป็นสิ่งสำคัญ”
1.ประหยัดและลดรายจ่าย :
ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น : พิจารณาตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก เช่น การทานอาหารนอกบ้าน, การไปเที่ยวพักผ่อน หรือการซื้อของฟุ่มเฟือย
ใช้ของให้คุ้มค่า : ซื้อของที่จำเป็นตามความต้องการจริง, เลือกซื้อสินค้าแบบแพ็กใหญ่หรือโปรโมชันลดราคา
ใช้เทคโนโลยี : พิจารณาใช้แอปพลิเคชันหรือโปรแกรมที่ช่วยจัดการค่าใช้จ่าย, ติดตามรายจ่าย, หรือค้นหาดีลดีๆ
2.บริหารจัดการหนี้ :
ลดหนี้ดอกเบี้ยสูง : หาทางลดหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงก่อน เช่น การขอปรับโครงสร้างย้ายหนีไปยังบัตรเครดิตที่มีดอกเบี้ยตํ่ากว่า
จ่ายชำระหนี้ให้ตรงเวลา : การจ่ายหนี้ให้ตรงเวลาจะช่วยรักษาเครดิตและหลีกเลี่ยงดอกเบี้ย หรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
3.เพิ่มช่องทางการหารายได้ :
ทำงานเสริม : ลองหารายได้เพิ่มเติมจากงานประจำ เช่น การขายสินค้าออนไลน์, การทำ freelance หรือการรับงานพิเศษต่างๆ
พัฒนาทักษะ : ฝึกฝนทักษะใหม่ๆ ที่เป็นที่ต้องการของตลาดงาน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสในการทำงานใหม่ๆ
4.ลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย :
หาโอกาสลงทุน : พิจารณาลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและมีเสถียรภาพ เช่น พันธบัตรรัฐบาล กองทุนตราสารหนี้ หรือหุ้นของบริษัทที่มีผลประกอบการดี
กองทุนตราสารหนี้ : มีความเสี่ยงตํ่ากว่าหุ้นและสามารถให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างคงที่
หุ้นของบริษัทที่มีผลประกอบการดี : พิจารณาลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีผลประกอบการดี และมีสถิติการเติบโตที่ดี
5.เตรียมเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน :
มีเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน : มีเงินสำรองที่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในระยะเวลา 3-6 เดือน เพื่อใช้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น การว่างงานหรือการเจ็บป่วย
จัดทำงบประมาณรายรับรายจ่าย : การจดบันทึกรายรับรายจ่ายจะช่วยให้เห็นภาพรวมการเงินและสามารถวางแผนการใช้เงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปรับตัวให้เข้ากับภาวะเศรษฐกิจ : ช่วงเศรษฐกิจไม่ดีอาจมีการปรับเปลี่ยนในตลาดงานและธุรกิจต่างๆ ดังนั้นควรเปิดใจเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์
หมายเหตุ ทั้งหมดทั้งมวลข้างต้นนี้เป็นคำตอบจาก AI ที่ผมถามง่ายๆ โดยเข้า “กูเกิล” แม้คำตอบจะกว้างไปหน่อย แต่ก็ตรงประเด็น ที่สำคัญเป็น AI ประเภท “ถ่อมตัว” เสียด้วย โดยมีหมายเหตุส่งท้ายว่า “คำตอบจาก AI อาจมีความผิดพลาดโปรดใช้ด้วยความระมัดระวัง”–ขอบคุณมากๆ ครับคุณ AI.
“ซูม”