67 ปีแห่งความทรงจำ “สนามหลวง” (ตอนจบ)

ซอกแซกสัปดาห์ที่แล้ว บันทึกความทรงจำเกี่ยวกับ “สนามหลวง” ซึ่งเป็นสนามแห่งประวัติศาสตร์ ใช้ประโยชน์ทั้ง “หลวง” และ “ราษฎร์” มากว่า 240 ปี จบลงในช่วง พ.ศ.2491 ยุคจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี มีนโยบายหลักส่งเสริมให้มีการจัดตลาดนัด เพื่อแก้ปัญหา “ข้าวยากหมากแพง” ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ

โดยกำหนดให้ “จังหวัดพระนคร” หรือ “กทม.” ใช้ “สนามหลวง” เป็นสถานที่จัดตลาดนัดในทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ เสาร์-อาทิตย์ และหากมีวันนักขัตฤกษ์มาก่อนหรือมาหลังแบบติดต่อกันก็ให้จัดเพิ่มเติมไปด้วย

สัปดาห์นี้ขอบันทึกต่อจากปี 2491 เลยนะครับ ว่าตลาดนัดสนามหลวงประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวด ได้รับความนิยมอย่างสูงจากชาวพระนครและจังหวัดใกล้เคียงไปจนถึงชาวต่างจังหวัดที่เดินทางมาเมืองหลวงจะต้องหาโอกาสแวะไปจับจ่ายซื้อข้าวของ

ซึ่งมีครบทุกอย่างตั้งแต่อุปโภคบริโภค หรือของกินของใช้ไปจนถึงสินค้าการเกษตร เช่น ต้นไม้ กล้วยไม้ และพืชผักทุกชนิด

ต่อมามีการขยับโยกย้ายตลาดนัดไปที่พระราชอุทยานสราญรมย์อยู่ระยะหนึ่ง ได้รับการร้องเรียนเรื่องกลิ่นและขยะจึงย้ายไปอยู่ที่ถนนราชินี บริเวณคลองหลอด เมื่อ พ.ศ.2500 แต่ไปก่อสร้างเพิงถาวรดูแล้วไม่งดงามจึงต้องย้ายกลับมาสนามหลวง ซึ่งจะมีชั่วคราวเฉพาะเสาร์อาทิตย์ตามเดิม นับตั้งแต่ปี 2501 เป็นต้นมา

เป็นห้วงเวลาเดียวกับหัวหน้าทีมซอกแซกเข้ามาเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ และมีโอกาสไปเดินซื้อของ ณ ท้องสนามหลวงเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน ของ พ.ศ.2501 ดังกล่าว

ต่อมา พ.ศ.2503 หัวหน้าทีมซอกแซกก็สอบเข้าเรียนที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งอยู่ข้างสนามหลวงนั่นเอง

ทำให้ใกล้ชิดกับสนามหลวงมากยิ่งขึ้น และในช่วงใกล้จบการศึกษา พ.ศ.2505-2506 ได้ย้ายมาอยู่ หอพัก แถวๆ ถนนพระอาทิตย์ไม่ไกลจากสนามหลวงมากนัก ก็ได้มาอาศัยวิ่งออกกำลังไปรอบๆ สนามหลวงในช่วงเวลาเช้าอยู่หลายปี

ต้องยอมรับว่า สนามหลวงเป็นสนามสารพัดประโยชน์จริงๆ นอกจากเป็นตลาดนัดเสาร์อาทิตย์แล้ว ยังเป็นสนามหัดขี่จักรยานของเด็กๆในช่วงวันธรรมดา เป็นสนามเล่นว่าวในช่วงฤดูร้อน และจะมีการแข่งขันประกวดว่าวต่างๆ ในฤดูร้อน เป็นกิจกรรมใหญ่

มีการตั้งร้านอาหาร มีดนตรีบรรเลงชั่วคราว มีการปูเสื่อขายเมี่ยงคำ ลาบ ส้มตำ นํ้าตก ฯลฯ ระหว่างชมว่าวไปจนตลอดฤดูร้อน

ในฤดูหนาวก็จะมีงานเฉลิมพระชนมพรรษาในหลวงรัชกาลที่ 9 จัด 3 วัน 3 คืนในช่วงแรก จนกลายมาเป็นงานใหญ่จัดโต้รุ่ง ฉายภาพยนตร์ร้อยจอ ชกมวยร้อยคู่ “5 ธันวามหาราช” ในภายหลัง

ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ก็เคยมีงานใหญ่ที่สนามหลวง แต่ละปีจะมีผู้คนไปสนุกสนานโต้รุ่งนับหมื่น นับแสนคน

สำหรับการโยกย้าย ตลาดนัด ออกจากสนามหลวงอย่างถาวรนั้น เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ.2525 ซึ่งจะมีการใช้สนามหลวงเป็นสถานที่จัดงานพระราชพิธีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี จึงโยกร้านค้าจากสนามหลวงไปอยู่ที่ สวน จตุจักร ตั้งแต่ พ.ศ.ดังกล่าว

ในทางการเมือง…สนามหลวง ก็เคยเป็นสนามปราศรัยทางการเมืองที่เรียกว่า “ไฮด์ปาร์ค” ในยุคจอมพล ป. พิบูลสงคราม และใช้เป็นสนามเปิดตัวปราศรัยของพรรคการเมืองใหญ่ในการเลือกตั้งทั่วไปต่างๆ

เคยใช้เป็นที่ตั้งขบวนใหญ่ของนักศึกษาประชาชนที่เคลื่อนออกมาจากมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ชุมนุมที่สนามหลวงก่อนแล้วออกเดินไปตามถนนราชดำเนินในวันประวัติศาสตร์ 14 ตุลาคม 2516

อีก 3 ปีต่อมา ในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 สนามหลวงก็กลายเป็นสนามแห่งความโศกสลดใจ เมื่อมีขบวนการขวาพิฆาตซ้ายกลุ่มหนึ่งนำนิสิตนักศึกษาจำนวนหนึ่งมาสังหารโหด ณ บริเวณที่อยู่ใกล้ๆ กับหอประชุมธรรมศาสตร์

ในยุคประชาธิปไตยรุ่งเรืองหลังจากนั้นมีพรรคการเมืองใหญ่หลายพรรคมาใช้สนามหลวงเป็นสนามเปิดตัวในการเลือกตั้งทั่วไปอยู่เสมอๆ

มาถึงยุคเดินขบวนขับไล่รัฐบาลก็เริ่มต้นจากสนามหลวงอีกหลายๆครั้ง โดยเฉพาะเหตุการณ์ “พฤษภาทมิฬ” เมื่อ พ.ศ.2535

ต้องยอมรับครับว่า “สนามหลวง” เป็นสนามที่มีชื่อเสียงทางด้านการเมืองและใช้ประโยชน์ทางการเมืองในหลายๆประเด็น

ปี 2520 วันที่ 12 ธันวาคม กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนท้องสนามหลวงเป็นโบราณสถานแห่งชาติ เพื่อที่จะให้สนามหลวงได้รับการคุ้มครองโดยกฎหมาย เพื่อรักษาสภาพพื้นที่เอาไว้ให้คงสภาพเดิมต่อไปตราบนานแสนนาน ปี 2553-2554 มีการปิดปรับปรุงสนามหลวงครั้งใหญ่ และเมื่อเปิดอีกครั้งก็กลายเป็นสนามหลวงที่งดงามมีรั้วกั้นรอบสนามดังที่เห็นอยู่ทุกวันนี้

ในระหว่างปิดปรับปรุงก็เท่ากับเป็นการแก้ไขปัญหา “คนเร่ร่อน” ไม่มีที่นอน ไม่มีที่พักอาศัยที่มาอาศัยปูเสื่อคลุมถุงนอนสนามหลวงนับร้อยๆ คนในแต่ละคืนไปด้วย เพราะเมื่อกลับมาเปิดอีกครั้งจะมีรั้วกั้นกลับมานอนไม่ได้อีกแล้ว

ที่สุดของที่สุดสนามหลวงก็เป็นสนามที่สุดสวยและกลับมาใช้ประโยชน์ทางศิลปวัฒนธรรมได้อย่างเต็มตัวอีกครั้ง ดังที่เราได้พบเห็นในวัน “มหาสงกรานต์ 2568” ที่ผ่านมา

ป.ล. ที่ตั้งชื่อซอกแซกตอนนี้ว่า “บันทึก 67 ปีแห่งความทรงจำ” แม้จะเล่ายาวกลับไปถึง 241 ปี ก็เพราะความทรงจำที่แท้จริงของหัวหน้าทีมซอกแซก เริ่มเมื่อปี 2501 ที่เดินทางมาเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ นอกนั้นเปิด วิกิพีเดีย บ้าง เปิด กูเกิล หาข่าวและบทความย้อนหลังบ้าง ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ.

“ซูม”

ภาพประวัติศาสตร์สนามหลวง ศูนย์รวมวัฒนธรรม การเมือง และชีวิตผู้คนใจกลางกรุงเทพฯ