ซอกแซกสัปดาห์ที่แล้ว บันทึกความทรงจำเกี่ยวกับ “สนามหลวง” ซึ่งเป็นสนามแห่งประวัติศาสตร์ ใช้ประโยชน์ทั้ง “หลวง” และ “ราษฎร์” มากว่า 240 ปี จบลงในช่วง พ.ศ.2491 ยุคจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี มีนโยบายหลักส่งเสริมให้มีการจัดตลาดนัด เพื่อแก้ปัญหา “ข้าวยากหมากแพง” ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ
โดยกำหนดให้ “จังหวัดพระนคร” หรือ “กทม.” ใช้ “สนามหลวง” เป็นสถานที่จัดตลาดนัดในทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ เสาร์-อาทิตย์ และหากมีวันนักขัตฤกษ์มาก่อนหรือมาหลังแบบติดต่อกันก็ให้จัดเพิ่มเติมไปด้วย
สัปดาห์นี้ขอบันทึกต่อจากปี 2491 เลยนะครับ ว่าตลาดนัดสนามหลวงประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวด ได้รับความนิยมอย่างสูงจากชาวพระนครและจังหวัดใกล้เคียงไปจนถึงชาวต่างจังหวัดที่เดินทางมาเมืองหลวงจะต้องหาโอกาสแวะไปจับจ่ายซื้อข้าวของ
ซึ่งมีครบทุกอย่างตั้งแต่อุปโภคบริโภค หรือของกินของใช้ไปจนถึงสินค้าการเกษตร เช่น ต้นไม้ กล้วยไม้ และพืชผักทุกชนิด
ต่อมามีการขยับโยกย้ายตลาดนัดไปที่พระราชอุทยานสราญรมย์อยู่ระยะหนึ่ง ได้รับการร้องเรียนเรื่องกลิ่นและขยะจึงย้ายไปอยู่ที่ถนนราชินี บริเวณคลองหลอด เมื่อ พ.ศ.2500 แต่ไปก่อสร้างเพิงถาวรดูแล้วไม่งดงามจึงต้องย้ายกลับมาสนามหลวง ซึ่งจะมีชั่วคราวเฉพาะเสาร์อาทิตย์ตามเดิม นับตั้งแต่ปี 2501 เป็นต้นมา
เป็นห้วงเวลาเดียวกับหัวหน้าทีมซอกแซกเข้ามาเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ และมีโอกาสไปเดินซื้อของ ณ ท้องสนามหลวงเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน ของ พ.ศ.2501 ดังกล่าว
ต่อมา พ.ศ.2503 หัวหน้าทีมซอกแซกก็สอบเข้าเรียนที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งอยู่ข้างสนามหลวงนั่นเอง
ทำให้ใกล้ชิดกับสนามหลวงมากยิ่งขึ้น และในช่วงใกล้จบการศึกษา พ.ศ.2505-2506 ได้ย้ายมาอยู่ หอพัก แถวๆ ถนนพระอาทิตย์ไม่ไกลจากสนามหลวงมากนัก ก็ได้มาอาศัยวิ่งออกกำลังไปรอบๆ สนามหลวงในช่วงเวลาเช้าอยู่หลายปี
ต้องยอมรับว่า สนามหลวงเป็นสนามสารพัดประโยชน์จริงๆ นอกจากเป็นตลาดนัดเสาร์อาทิตย์แล้ว ยังเป็นสนามหัดขี่จักรยานของเด็กๆในช่วงวันธรรมดา เป็นสนามเล่นว่าวในช่วงฤดูร้อน และจะมีการแข่งขันประกวดว่าวต่างๆ ในฤดูร้อน เป็นกิจกรรมใหญ่
มีการตั้งร้านอาหาร มีดนตรีบรรเลงชั่วคราว มีการปูเสื่อขายเมี่ยงคำ ลาบ ส้มตำ นํ้าตก ฯลฯ ระหว่างชมว่าวไปจนตลอดฤดูร้อน
ในฤดูหนาวก็จะมีงานเฉลิมพระชนมพรรษาในหลวงรัชกาลที่ 9 จัด 3 วัน 3 คืนในช่วงแรก จนกลายมาเป็นงานใหญ่จัดโต้รุ่ง ฉายภาพยนตร์ร้อยจอ ชกมวยร้อยคู่ “5 ธันวามหาราช” ในภายหลัง
ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ก็เคยมีงานใหญ่ที่สนามหลวง แต่ละปีจะมีผู้คนไปสนุกสนานโต้รุ่งนับหมื่น นับแสนคน
สำหรับการโยกย้าย ตลาดนัด ออกจากสนามหลวงอย่างถาวรนั้น เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ.2525 ซึ่งจะมีการใช้สนามหลวงเป็นสถานที่จัดงานพระราชพิธีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี จึงโยกร้านค้าจากสนามหลวงไปอยู่ที่ สวน จตุจักร ตั้งแต่ พ.ศ.ดังกล่าว
ในทางการเมือง…สนามหลวง ก็เคยเป็นสนามปราศรัยทางการเมืองที่เรียกว่า “ไฮด์ปาร์ค” ในยุคจอมพล ป. พิบูลสงคราม และใช้เป็นสนามเปิดตัวปราศรัยของพรรคการเมืองใหญ่ในการเลือกตั้งทั่วไปต่างๆ
เคยใช้เป็นที่ตั้งขบวนใหญ่ของนักศึกษาประชาชนที่เคลื่อนออกมาจากมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ชุมนุมที่สนามหลวงก่อนแล้วออกเดินไปตามถนนราชดำเนินในวันประวัติศาสตร์ 14 ตุลาคม 2516
อีก 3 ปีต่อมา ในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 สนามหลวงก็กลายเป็นสนามแห่งความโศกสลดใจ เมื่อมีขบวนการขวาพิฆาตซ้ายกลุ่มหนึ่งนำนิสิตนักศึกษาจำนวนหนึ่งมาสังหารโหด ณ บริเวณที่อยู่ใกล้ๆ กับหอประชุมธรรมศาสตร์
ในยุคประชาธิปไตยรุ่งเรืองหลังจากนั้นมีพรรคการเมืองใหญ่หลายพรรคมาใช้สนามหลวงเป็นสนามเปิดตัวในการเลือกตั้งทั่วไปอยู่เสมอๆ
มาถึงยุคเดินขบวนขับไล่รัฐบาลก็เริ่มต้นจากสนามหลวงอีกหลายๆครั้ง โดยเฉพาะเหตุการณ์ “พฤษภาทมิฬ” เมื่อ พ.ศ.2535
ต้องยอมรับครับว่า “สนามหลวง” เป็นสนามที่มีชื่อเสียงทางด้านการเมืองและใช้ประโยชน์ทางการเมืองในหลายๆประเด็น
ปี 2520 วันที่ 12 ธันวาคม กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนท้องสนามหลวงเป็นโบราณสถานแห่งชาติ เพื่อที่จะให้สนามหลวงได้รับการคุ้มครองโดยกฎหมาย เพื่อรักษาสภาพพื้นที่เอาไว้ให้คงสภาพเดิมต่อไปตราบนานแสนนาน ปี 2553-2554 มีการปิดปรับปรุงสนามหลวงครั้งใหญ่ และเมื่อเปิดอีกครั้งก็กลายเป็นสนามหลวงที่งดงามมีรั้วกั้นรอบสนามดังที่เห็นอยู่ทุกวันนี้
ในระหว่างปิดปรับปรุงก็เท่ากับเป็นการแก้ไขปัญหา “คนเร่ร่อน” ไม่มีที่นอน ไม่มีที่พักอาศัยที่มาอาศัยปูเสื่อคลุมถุงนอนสนามหลวงนับร้อยๆ คนในแต่ละคืนไปด้วย เพราะเมื่อกลับมาเปิดอีกครั้งจะมีรั้วกั้นกลับมานอนไม่ได้อีกแล้ว
ที่สุดของที่สุดสนามหลวงก็เป็นสนามที่สุดสวยและกลับมาใช้ประโยชน์ทางศิลปวัฒนธรรมได้อย่างเต็มตัวอีกครั้ง ดังที่เราได้พบเห็นในวัน “มหาสงกรานต์ 2568” ที่ผ่านมา
ป.ล. ที่ตั้งชื่อซอกแซกตอนนี้ว่า “บันทึก 67 ปีแห่งความทรงจำ” แม้จะเล่ายาวกลับไปถึง 241 ปี ก็เพราะความทรงจำที่แท้จริงของหัวหน้าทีมซอกแซก เริ่มเมื่อปี 2501 ที่เดินทางมาเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ นอกนั้นเปิด วิกิพีเดีย บ้าง เปิด กูเกิล หาข่าวและบทความย้อนหลังบ้าง ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ.
“ซูม”