บันทึก “สนามหลวง” 67 ปี แห่งความทรงจำ

ต้องบอกว่า แรงบันดาลใจที่ทีมงานซอกแซกได้รับอย่างแรงกล้า จนต้องตัดสินใจเขียนถึง “สนามหลวง” สนามที่เป็นทั้งของ “หลวง” และของ “ราษฎร” ในสัปดาห์นี้มาจากคลิปการแสดงคอนเสิร์ตของ “แอ๊ด คาราบาว” กับ “ตูน บอดี้สแลม” เมื่องาน “มหาสงกรานต์” ที่ผ่านมานี้เอง

เห็นภาพพี่น้องประชาชนนับครึ่งแสนทั้งร้องทั้งเต้นไปตามจังหวะการบรรเลงของทั้ง 2 วงกลางท้องสนามหลวง ซึ่งมีวัดพระแก้ว และพระบรมมหาราชวังเป็นฉากอยู่เบื้องหลังในคลิปชุดนี้แล้วก็อดที่จะปลาบปลื้มดื่มด่ำอย่างหาที่สุดมิได้

เป็นภาพที่สวยงามยิ่งใหญ่ประทับใจที่สุดภาพหนึ่งของ “ท้องสนามหลวง” ท้องสนามแห่งประวัติศาสตร์และสารพัดประโยชน์แห่งหนึ่งของประเทศไทยเท่าที่เคยเห็นมา

เหนืออื่นใดเมื่อได้เห็นตัวเลขที่คณะกรรมการจัดงานสงกรานต์ปี 2568 ประกาศถึงจำนวนผู้คนที่หลั่งไหลไปร่วมงานสงกรานต์กว่า 2,883,389 คน ใน 3 จุดของกรุงเทพมหานครแล้วก็ยิ่งอยากจะบันทึกไว้ให้เป็นเกียรติแก่สนามหลวงมากขึ้นไปอีก

เพราะสถิติที่กรุงเทพมหานคร แถลงแก่ผู้สื่อข่าวก็คือ 1.สนามหลวง มีผู้ไปร่วมงานสงกรานต์มากที่สุดถึง 1,106,999 คน…อันดับ 2 ได้แก่ ถนนข้าวสาร 459,737 คน และอันดับ 3 ถนนสีลม 358,728 คน

หัวหน้าทีมซอกแซกคงมิใช่เป็น 1 ในกว่า 1 ล้านคน ที่ไปสนามหลวงช่วงสงกรานต์ เพราะปีนี้ไปตักบาตรที่คลองโอ่งอ่าง แล้วไปลอยเรือ “แห่พระ” ไปถวายตามวัดต่าง ๆ ริมฝั่งเจ้าพระยากับโครงการ “Water Festival 2025 เทศกาลวิถีนํ้า…วิถีไทย” ปีที่ 10 ของ ไทยเบฟ ห่างไกลท้องสนามหลวงพอสมควร

แต่ก็ได้ไปสัมผัสเดินผ่านและเดินลอดอุโมงค์ใต้ดินท้องสนามหลวง เพื่อเข้าสู่ วัดพระแก้ว หมาดๆ เมื่อวันที่ 6 เมษายน ก่อนหน้าสงกรานต์เพียง 7 วันเท่านั้น

เมื่อได้มาเห็นภาพความยิ่งใหญ่ของงานสงกรานต์ท้องสนามหลวงปีนี้ ทั้งจากการถ่ายทอดสดในวันแห่และการแสดงคอนเสิร์ตตลอดจนกิจการต่าง ๆ ดังกล่าวอีกคำรบหนึ่ง

จึงต้องขออนุญาตท่านผู้อ่านเขียนถึงความเป็นมาความเป็นไป ตลอดจนความทรงจำอันงดงามและบางครั้งก็ไม่งดงามเท่าไรนัก เท่าที่นึกออกในช่วงเวลา 67 ปี ที่หัวหน้าทีมซอกแซกมีโอกาสมาเดินท้องสนาม หลวงวันแรก และจากนั้นก็อยู่อาศัยเป็นพลเมืองกรุงเทพมหานคร มีโอกาสพบและสัมผัสท้องสนาม หลวงอย่างใกล้ชิดมาจนถึงวันนี้

ใน วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรีลงประวัติความเป็นมาของสนามหลวง สรุปข้อใหญ่ใจความได้ว่า สนามสารพัดประโยชน์แห่งนี้ ก่อตั้งขึ้นเมื่อพุทธศักราช 2327 หลังก่อตั้งกรุงเทพมหานครอมรรัตน โกสินทร์ เมื่อ พ.ศ.2325 เป็นเวลา 2 ปี เดิมเป็นท้องนาขนาดใหญ่ เนื้อที่ 74 ไร่ 63 ตารางวา ตั้งอยู่ด้านหน้าวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ระหว่างพระบรม มหาราชวัง กับพระราชวังบวรสถานมงคล

นับตั้งแต่รัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเป็นต้นมา สนามหลวงได้มีโอกาสสนองพระมหากรุณาธิคุณ พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ โดยเฉพาะใช้เป็นที่ตั้งพระ เมรุมาศ เมื่อพระมหากษัตริย์สวรรคต ไปจนถึงพระราชพิธีสำคัญอื่น ๆ เช่น

ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้มีการทำนา ณ ท้องสนามหลวง เพื่อแสดงให้ปรากฏแก่นานาประเทศว่า เมืองไทยอุดมสมบูรณ์ด้วยข้าวปลาอาหาร มีไร่นาอยู่ข้างๆพระบรมมหาราชวัง

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯให้ประกอบพระราชพิธี พืชมงคล ขึ้นเป็นครั้งแรก ณ ท้องสนามหลวง และโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อเรียกจาก “ทุ่งพระเมรุ” เป็น “ท้องสนามหลวง” มาตั้งแต่ยุคสมัยของพระองค์ท่าน

มีบันทึกไว้ว่า ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้ขยายสนามหลวงให้กว้างขึ้นกว่าเดิม และใช้ในการประกอบพิธีสำคัญ เช่น การฉลองพระนครครบ 100 ปี และงานฉลองเมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินกลับจากยุโรป พ.ศ.2440

ในรัชสมัยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 ทรงใช้ประกอบพระราชพิธีต่าง ๆ และใช้เป็น สนามแข่งม้า และ สนามกอล์ฟ ด้วย

ที่สำคัญเมื่อ พ.ศ.2477 วันที่ 4 ธันวาคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ได้ร่วมกันจัดการแข่งขัน ฟุตบอลประเพณี ครั้งแรกขึ้น โดยใช้ สนามหลวง เป็นสนามฟุตบอล และให้นิสิต นักศึกษาของ 2 มหาวิทยาลัยล้อมวงเชียร์อยู่รอบ ๆ ปรากฏว่าเสมอกันไป 1-1

สนามหลวงผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนถึง พ.ศ.2491 ซึ่งมี จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ส่งเสริมให้มีการจัด “ตลาดนัด” เพื่อแก้ปัญหา “ข้าวยากหมากแพง” ขึ้นทุกจังหวัดทั่วประเทศ และสำหรับจังหวัด “พระนคร” หรือ กทม. ในปัจจุบันได้ใช้ สนามหลวง เป็นตลาดนัดจำหน่ายสินค้าต่า ง ๆในวันเสาร์-อาทิตย์

เรื่องราวของท้องสนามหลวงจะดำเนินต่อไปอย่างไร? เป็น “ตลาดนัด” ที่โด่งดังระดับประเทศอยู่กี่ปี? และจากนั้นมาพัฒนาไปอย่างไร? เกิดอะไรขึ้นกับสนามหลวงบ้าง? ติดตามอ่านตอนจบสัปดาห์หน้านะครับ.

“ซูม”

ภาพการแสดงคอนเสิร์ตแอ๊ด คาราบาว และตูน บอดี้สแลม บนเวทีสนามหลวงช่วงสงกรานต์ 2568 โดยมีวัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวังเป็นฉากหลัง พร้อมผู้ชมเรือนล้านร่วมงาน