วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ 11 เมษายน 2568 เป็นวันทำงานวันสุดท้ายของมนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย ก่อนถึงห้วงเวลาหยุดยาว เฉลิมฉลองปีใหม่ไทย หรือเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 ที่จะคืบคลานมาถึงในอีก 2 วันข้างหน้า
ปีนี้ทางราชการประกาศให้หยุดได้ถึง 15 เมษายน จึงเท่ากับเราจะได้โบนัสหยุดยาวตั้งแต่พรุ่งนี้ รวม 4 วันเต็มๆ
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา พวกเราชาวไทยมีเรื่องขุ่นข้องหมองใจ หรือ “มีความทุกข์” ในหลายๆเรื่อง ตั้งแต่ “แผ่นดินไหว”+“ทรัมป์ระห่ำขึ้นภาษี” มาจนถึงรัฐบาลจะลักไก่ผลักดันกฎหมายสอดไส้ “กาสิโน” เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร
เรื่องแผ่นดินไหวแม้ส่วนใหญ่จะหายตื่นตระหนกแล้ว แต่สำหรับผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ “ตึกใหม่” สตง.ถล่มที่สวนจตุจักรยังคงเป็นเรื่องเศร้าที่จะต้องหาทางปลอบขวัญ ปลอบโยนชดเชย และให้กำลังใจกันต่อไป รวมไปถึงการค้นหาให้ถึงสาเหตุแห่งการสูญเสียครั้งนี้ว่ามีเลศนัยหรือไม่?
เรื่อง “ทรัมป์ระห่ำ” ได้บังเกิดผลในการใช้บังคับการขึ้นอัตราภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ไปเมื่อบ่ายๆ วันที่ 9 เมษายน ตามเวลาประเทศไทย ตามประกาศิตโหดที่ทรัมป์กำหนดไว้ เดือดร้อนเรียบร้อยแล้วทุกหย่อมหญ้ากว่า 60 ประเทศ
ส่วนเรื่อง “ลักไก่” กฎหมายกาสิโน มีข่าวว่ารัฐบาลสั่ง “ถอย” ในนาทีสุดท้าย…ไม่พิจารณาในสมัยประชุมนี้ แต่ยังกั๊กไว้เปิดสมัยประชุมหน้า ค่อยเอามาว่ากันอีกที
ดังนั้นเมื่อมาถึงวันนี้ วันศุกร์ที่ 11 เมษายน หลังการทำงานในช่วงเย็นๆแล้ว คนไทยเราก็จะได้เวลาหยุดยาว เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ไทย ดังที่เกริ่นไว้ ผมจึงอยากจะเห็นคนไทยเราสนุกกันอย่างเต็มที่…ตักตวงความสุขตุนเอาไว้ให้เต็มหัวใจ…ว่างั้นเถอะ
ใครจะไปเที่ยวไหนก็ไป เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทั่วไทย เพื่อชดเชยนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่อาจจะมาไทยในช่วงนี้ลดลง
ใครที่ประสงค์จะกลับบ้านตามประเพณีปฏิบัติที่ดำเนินการกันมา นับตั้งแต่ยุคอดีตกาลที่คนไทยเราบางส่วนมีความจำเป็นต้องเดินทางไปทำงานไกลบ้าน เหนือใต้ออกตกและกรุงเทพมหานคร
พอถึงเทศกาลสงกรานต์หรือปีใหม่ไทย ก็จะเดินทางกลับบ้านอย่างชนิดที่ต้องใช้คำว่า “โกลาหลอลหม่าน” ไปทั้งประเทศ
โดยเฉพาะในวันศุกร์สุดท้ายของการทำงานก่อนวันหยุดเทศกาลสงกรานต์…สถานีขนส่งสายต่างๆจะเนืองแน่นไปด้วยผู้คนและเกิดภาวะการจราจรติดขัดอย่างหนักขึ้นโดยรอบ
หนักที่สุดก็สถานีขนส่งสายเหนือ สายอีสาน “ตลาดหมอชิต” หลังโรงพิมพ์ไทยรัฐเรานี่แหละครับ การจราจรติดขัดตั้งแต่บ่ายไปจนถึงดึกดื่นเที่ยงคืน
ในทางหนึ่งก็รู้สึกท้อแท้สำหรับพวกเราที่มีทำงานอยู่แถวๆนี้ต้องพลอยมาเดือดร้อนไปกับการจราจรด้วย…แต่อีกทางหนึ่งก็รู้สึกอบอุ่นใจและปลาบปลื้มจนลืมความทุกข์จากรถติดเสียสิ้น
เพราะดีใจแทนพี่น้องจากต่างจังหวัดของเราจากภาคเหนือ ภาคอีสาน จะได้กลับบ้านในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
เมื่อคิดอย่างนี้แทนที่จะรู้สึกหงุดหงิดเพราะรถติดหนักใกล้ๆที่ทำงานเรา…เรากลับรู้สึกปลาบปลื้มใจแทนพี่น้องเหล่านั้นพร้อมกับแอบส่งกำลังใจขอให้พวกเขาเดินทางโดยสวัสดิภาพ
และไปตักตวงความสุขความอบอุ่นกับครอบครัวพร้อมกักตุนใส่หัวใจเอาไว้ให้ เต็มเปี่ยม ก่อนจะกลับมาทำงานอีกครั้งหลังสงกรานต์
วันศุกร์นี้ใน พ.ศ.นี้จะมีผู้คนแน่นขนัดเหมือน พ.ศ.โน้นหรือไม่ยังไม่ทราบ แต่ก็เชื่อว่าคงจะมีมากพอสมควรจากข่าวคราวที่ได้มีการรายงานไว้
ผมขออวยพรให้เดินทางโดยสวัสดิภาพในทุกสถานีขนส่งและทุกเส้นทางคมนาคมนะครับ…รวมทั้งขอให้ตักตวงความสุขกับครอบครัวและญาติมิตรของท่านให้เต็มที่
ลืมเรื่อง “เศร้าๆ” เรื่อง “ทุกข์ๆ” สารพัดเรื่องชั่วขณะนะครับ ผ่านสงกรานต์ไปแล้วค่อยกลับมาว่ากันอีกที!
“ซูม”