สื่อมวลชนทุกแขนงรายงานข่าวตรงกันว่า ศาสตราจารย์พิเศษ ธานินทร์ กรัยวิเชียร นายกรัฐมนตรีคนที่ 14 ของประเทศไทย และองคมนตรีในรัชกาลที่ 9 ได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา สิริอายุ 97 ปี
ผมทราบจาก ไทยรัฐออนไลน์ ซึ่งรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ เพจเฟซบุ๊ก “โบราณนานมา” ได้โพสต์ข้อความแจ้งข่าวสั้น ๆ ระบุว่า ท่านได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ทางบุตรธิดาและครอบครัวจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ด้วยความไม่แน่ใจว่า เพจเฟซบุ๊ก “โบราณนานมา” จะเชื่อได้ แค่ไหน ผมจึงคลิกไปอ่านสำนักข่าวออนไลน์อื่น ๆ อีกหลายสำนัก จนในที่สุดก็เชื่อได้ว่า ข่าวการถึงแก่อสัญกรรมของท่านเป็นเรื่องจริง
ต่อมาเพจ “โบราณนานมา” ก็เผยแพร่ประวัติของท่าน มีเนื้อหาสาระสำคัญว่า ศ.พิเศษ ธานินทร์ กรัยวิเชียร เกิดเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2470 ภูมิลำเนา ณ จังหวัดพระนคร เป็นนักกฎหมายที่มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
ศ.พิเศษ ธานินทร์ เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 14 ของไทย หลังจากที่คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน โดยการนำของ พลเรือเอกสงัด ชลออยู่ ได้ทำการรัฐประหารรัฐบาลของ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519
ในระหว่างดำรงตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาลของนายธานินทร์ กรัยวิเชียร มีนโยบายโดดเด่นคือ การต่อต้านภัยคุกคามของลัทธิคอมมิวนิสต์ที่กำลังมีอิทธิพลอย่างสูงในขณะนั้น ควบคู่ไปกับนโยบายต่อต้าน คอร์รัปชัน และนโยบายปราบปรามยาเสพติด โดยจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ขึ้น
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลของท่านถูกโค่นล้มจากการรัฐประหาร โดย พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ในวันที่ 20 ตุลาคม 2520 ต่อมา พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายธานินทร์ให้ดำรงตำแหน่งองคมนตรี เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2520 และได้ดำรงตำแหน่งนี้ มาจนสิ้นรัชกาล
เนื้อหาสาระข้างต้นนี้ ผมคัดลอกมาจากเพจ “โบราณนานมา” ซึ่งตรวจสอบกับความทรงจำแล้วค่อนข้างถูกต้อง
ขณะเดียวกันก็มีการบันทึกไว้ใน วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรีด้วยว่า รัฐบาลนายธานินทร์ กรัยวิเชียร ได้ใช้อำนาจในการจัดการประชาชนในข้อหาคอมมิวนิสต์ จนมีประชาชนส่วนหนึ่งหนีข้อหานี้เข้าป่าไปเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังมีการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน การควบคุมเสรีภาพสื่อมวลชนสั่งปิดหนังสือพิมพ์ ซึ่งในระยะเวลา 1 ปี มีคำสั่งปิดหนังสือพิมพ์ถึง 22 ครั้ง โดยรัฐมนตรีมหาดไทย นายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งอาศัยคำสั่งปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 42
จากความทรงจำของผมเช่นกัน เนื้อหาสาระที่วิกิพีเดียบันทึกไว้ ถูกต้องแล้ว โดยเฉพาะจำกัดเสรีภาพสื่อ ซึ่งผมยืนยันได้ว่าจริง
โดยวัฒนธรรมประเพณีของประเทศไทยเรานั้น เมื่อบุคคลใดถึงแก่กรรมเราก็จะพูดถึงแต่เรื่องที่เป็นคุณงามความดีและแสดงความรักความอาลัยแก่ผู้ล่วงลับ
ในกรณีของอดีตนายกฯธานินทร์ก็เช่นกัน แม้ในชีวิตส่วนใหญ่ของท่านจะบำเพ็ญประโยชน์ให้แก่ประเทศไทยอย่างอเนกอนันต์ โดยเฉพาะในช่วงการเป็นผู้พิพากษาและในช่วงดำรงตำแหน่งองคมนตรียาวนานติดต่อกันมาเกือบ 40 ปี
แต่ในช่วง 1 ปีที่ท่านบริหารประเทศ และใช้นโยบายเผด็จการพลเรือนเต็มรูปแบบนั้น ได้เกิดผลกระทบต่อการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างใหญ่หลวงทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ
ผมจะขออนุญาตย้อนอดีตแสดงความคิดความเห็นย้อนหลังในบางเรื่องบางประเด็นนะครับ และจะพยายามเขียนอย่างเป็นกลาง และให้เกียรติแก่ผู้ถึงแก่กรรมแล้วตามวัฒนธรรมไทย ๆ ของเราทุกประการ.
“ซูม”

