สวัสดีปีใหม่พุทธศักราช 2568 นะครับ ท่านผู้อ่านที่รักและเคารพทุกๆท่าน…ขอให้โชคดีมีชัย ขอให้เจริญๆด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ตลอดปีและตลอดไปทุกๆ ท่านเทอญ
เนื่องจากวันนี้ (2 มกราคม) เป็นวันแรกของข้อเขียนผมสำหรับปีใหม่ 2568 และยังอยู่ในช่วงของบรรยากาศการเฉลิมฉลอง จึงขออนุญาตเริ่มต้นด้วยการอวยชัยให้พรเสียก่อนตามธรรมเนียมไทยๆ ของเรา
อวยพรเสร็จสรรพก็ขอถือโอกาสขอบพระคุณท่านผู้อ่านที่กรุณาติดตามอ่านกันมาตลอดทั้งปีที่แล้ว รวมถึงแฟนคลับเก่าแก่ที่ติดตามมาเป็นเวลายาวนานก่อนหน้านี้ พร้อมกับหวังว่าจะติดตามอ่านกันต่อไป จึงขอขอบคุณล่วงหน้าไว้ ณ ที่นี้ด้วยเช่นกัน
เมื่อพูดถึงปี 2567 หรือ “ปีมะโรง” งูใหญ่ที่ผ่านมา ผมเห็นด้วยกับข้อวิเคราะห์ ข้อวิจารณ์ของท่านผู้รู้และผู้มีประสบการณ์ทั้งหลายที่แสดงความคิดและความเห็นแทบจะเป็นเสียงเดียวกันว่า…
เศรษฐกิจ ของเรายังไม่ค่อยดี ในขณะที่ การเมืองของเราก็ค่อนข้างมีปัญหา (มาก) บวกกับ สถานการณ์โลก เกือบทุกด้านที่ยังสับสนและน่าเป็นห่วง ทั้งในแง่ภูมิรัฐศาสตร์ และสงครามการค้า
แต่สำหรับคนที่มองโลกในแง่ดีอย่างผม และชอบที่จะหยิบสิ่งดีๆหรือเรื่องดีๆที่ซ่อนอยู่ในความไม่ดีนั้นมาปลอบประโลมใจ พี่น้องชาวไทย เพื่อที่จะหาทางส่งเสริมขยับขยายให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีกกลับมองว่า…ปี 2567 เรายังไม่ถึงขั้นอับจน
การท่องเที่ยวของเรายังไปได้ดีมาก ดีอย่างทะลุเป้า ทั้งในแง่ตัวเลขและในข้อเท็จจริงที่เราเห็นด้วยตาของเราเอง
นักท่องเที่ยวยังคงหลั่งไหลเข้ามาเต็มสนามบิน และเต็มสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทำให้เกิดกำลังใจ และเกิดความหวังขึ้นมาว่า เศรษฐกิจไทยเราน่าจะพอไปได้ เพราะแม้ในด้านที่เราประกอบการกันอยู่อาจจะยังไม่ดี หรืออาจซวนเซไปบ้าง
แต่อย่างน้อยการที่ธุรกิจด้านท่องเที่ยวของคนไทยเราอีกกลุ่มหนึ่งยังเจริญรุ่งเรื่องอย่างน่าชื่นใจเช่นนี้…เราก็ยังพอที่จะเกิดความหวังขึ้นมาไม่มากก็น้อยว่า อีกไม่นานนักธุรกิจของเราก็จะดีตาม
ไม่ถึงกับจะท้อถอยไปเสียทั้งหมดว่าอย่างนั้นเถิด
ประกอบกับตัวเลขด้านการส่งออกที่เคยซบเซามากเมื่อปี 2566 ก็ค่อยๆกระเตื้องขึ้นในช่วงกลางปีมาจนถึงปลายปี 2567 โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับ สินค้าเกษตรแปรรูป นับว่ามีส่วนอย่างยิ่งในการทำให้อัตราขยายตัวของเศรษฐกิจส่วนรวมของเราขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 2.7 บ้าง 2.8 บ้าง แล้วแต่การทำนายของสำนักต่างๆ
แต่ที่น่าดีใจก็คือทุกสำนักจะบอกว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น ทำให้การเติบโตของปี 2567 ดีกว่า 2566 พอสมควร และน่าจะดีขึ้นได้อีกในปี 2568 ที่กำลังจะมาถึง
จริงอยู่แม้สถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกจะยังน่าเป็นห่วงอยู่มาก เพราะการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน 2 ยักษ์ใหญ่โลก ส่อเค้าว่าจะหนักขึ้นและจะนำความปั่นป่วนมาสู่โลกอย่างคาดไม่ถึง
แต่ผมก็เชื่อว่า ด้วยความสามารถของ “ภาคเอกชน” จะช่วยกันหาทางออกได้ และผ่อนหนักเป็นเบาได้…ขอเพียงทางภาค “รัฐบาล” อย่าทำตัวให้เป็น “ปัญหา” เสียเองก็แล้วกัน
คำว่าภาค “รัฐบาล” ผมหมายถึงเหตุการณ์ทางการเมืองทั้งเซตนั่นแหละครับ บอกตรงๆ ว่ารู้สึกห่วงใยอย่างบอกไม่ถูกกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับการเมืองไทยในขณะนี้
แต่ก็คงต้องทำใจนึกเสียว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด…เมื่อเกิดแล้วก็หาทางรับมือกันไป
อีกอย่างหนึ่งไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ…กว่า 80 ปี ที่ผมเกิดและเติบโตจนเป็น คนแก่อยู่ในประเทศนี้ ได้เห็นอะไรที่เป็นเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าเสมอๆ โดยเฉพาะเรื่องที่ห่วงว่าจะร้ายมักกลับกลายเป็นดี
จึงหวังว่าปาฏิหาริย์จะเกิดอีกครั้ง อันจะเป็นผลทำให้ “ปีมะเส็ง” ซึ่งแม้จะเป็น “งูเล็ก” แต่ก็เป็นงูเล็กที่เลื้อยได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว นำพาประเทศไทยของเราไปสู่สิ่งที่ดีงามไม่มากก็น้อยในปี 2568 นี้
สวัสดีปีใหม่ 2568 อีกครั้งนะครับ.
“ซูม”