Holy Belly ร้านอาหาร All-Day Dining แห่งใหม่ตั้งอยู่ที่ ชั้น GM ศูนย์การค้า Emsphere กรุงเทพฯ ซึ่งเปิดแล้วอย่างเป็นทางการ พร้อมมอบประสบการณ์รับประทานอาหารที่อบอุ่น และมีบรรยากาศเหมือนทานอาหารที่บ้าน
เมนูของที่ร้านนี้เป็นอาหารแบบนานาชาติสไตล์โฮมเมด ที่สามารถทานได้ทุกช่วงเวลาของวัน โดยเมนูของที่นี่ยังครอบคลุมถึงอาหารหลายประเภทตั้งแต่ อาหารเรียกน้ำย่อย สลัดผักสดๆ ซุป ไปจนถึง โฮมเมดพาสต้า และจานหลักอย่างสเต้กเนื้อประเภทต่างๆ ที่เชฟใส่ใจในทุกรายละเอียดในการปรุง ก่อนปิดท้ายด้วยของหวานอร่อยๆ สำหรับความประทับใจในอาหารมื้อพิเศษนี้
วันที่ทีมงานซอกแซกไปรีวิวทางร้านได้นำเสนอเมนูที่ขายดี 5 เมนู และเมนูพิเศษที่ยังวางจำหน่ายอีก 2 เมนู ซึ่งเมนูทั้งหมดนี้บอกเลยว่าเป็นเมนูต้องสั่งทุกเมนู
เริ่มจากเมนูซุป “Creamy Lobster Bisque” (390 บาท) ซุปล็อบสเตอร์ที่ใช้แนวคิด Zero Waste โดยใช้ทุกส่วนของล็อบสเตอร์ในการปรุงซุป ซึ่งต้องใช้เวลาเคี่ยว 5-6 ชั่วโมง ทำให้ซุปมีรสชาติหวานมันจากล็อบสเตอร์
เมนูต่อมาคือ Tuna Tarta & Avocado (360 บาท) เนื้อปลาทูน่าดิบปรุงรส ราดด้วยซอสส้ม เมนูนี้ปลาสดและน้ำสลัดอร่อยมาก
เมนูที่ 3 คือ Niçoise Salad หรือสลัดแห่ง เมืองนิส (Nice) (360 บาท) ในประเทศฝรั่งเศส สลัดผักสดๆ ใส่ปลาทูน่าชิ้นโต และปลาแอนโชวี่ ใช้น้ำมันมะกอกเป็นน้ำสลัด เมนูนี้ต้องทานเนื้อปลากับผักพร้อมกันเพื่อรสชาติที่เข้ากันอย่างลงตัว
เมนูพาสต้าอย่าง Homemade Ravioli Carbonara (690 บาท) ก็เป็นเมนูที่ขายดีเป็นอันดับ 1 ของที่ร้าน จุดเด่นของเมนูนี้คือด้านในของราวิโอลี่จะเป็นไข่แดงลาวา ตอนก่อนทานทางร้านจะมาโรยชีสหอมๆ บนเส้นพาสต้าให้แบบจุกๆ
อีกเมนูเด่นของพาสต้าก็คือ Holy Triffle Pasta (790 บาท) พาสต้าเส้นหนาผัดกับเนยทรัฟเฟิ่ลและพามาซานชีส โรยด้วยทรัฟเฟิ่ลสดและไข่แดงเยิ้มๆ ตอนทานมีความหอมของทรัฟเฟิ่ลอย่างเด่นชัด
และเส้นพาสต้าของที่นี่เป็นเส้นโฮมเมดที่ทางร้านทำเอง มีความสดใหม่และเหนียวนุ่ม
สำหรับอาหารจานหลักที่ทีมงานซอกแซกได้รีวิวก็คือเมนู Holy Prime Beef Roast (1,690 บาท) เนื้อ Ribeye 280 แกรม ราดด้วยซอสกระเทียมสูตรเด็ดของทางร้าน ทานคู่กับ Creamed Corn และ Holy Belly Pudding เข้ากันเป็นอย่างดี
จุดเด่นของเมนูนี้คือเนื้อที่ย่างด้วยเทคนิคเฉพาะของทางร้าน ด้วยการค่อยๆ อบเนื้อที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
ซึ่งจะทำให้เนื้อด้านนอกสุกเหมือน Welldone ส่วนด้านในสุก เหมือน Medium Rare ทำให้เนื้อนุ่มไม่เหนียวและคงความฉ่ำ ละลายในปากมากๆ
ส่วนเมนูของหวานอย่าง Sticky Date Pudding (320 บาท) พุดดิ้งอินทผาลัมราดด้วยคาราเมล เสิร์ฟพร้อมกับโยเกิร์ตไอศกรีม ต้องบอกว่าเมนูนี้ทั้งหอม หั้งหวาน เหมาะกับเป็นเมนูปิดท้ายมื้อพิเศษได้เป็นอย่างดี
นอกจากเมนูที่กล่าวมาข้างต้นนี้แล้วทางร้านยังให้ทีมงานซอกแซกชิมเมนูพิเศษที่ยังไม่ออกวางขายอีกหลยเมนู บอกได้เลยว่าอร่อยทุกเมนู ใครที่เคยมาทานแล้วต้องมาซ้ำอย่างแน่นอน
ร้าน Holy Belly ตั้งอยู่ที่ชั้น GM ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ เหมาะกับการมาทานเป็นมื้อเร่งด่วน มื้ออาหารทางธุรกิจ หรือมื้อพิเศษกับครอบครัว โดยจะเปิดให้บริการวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 10.00 น.- 22.00 น.
สอบถามรายละเอียดและจองโต๊ะได้ทาง
https://www.holybellybangkok.com/
โทร 061-020-4851