ไปดู “โขน” รอบสอง ปลื้มใจ “เด็กไทย” ชอบ

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้เอง ผมมีโอกาสกลับไปดู “โขน” ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เรื่อง “รามเกียรติ์” ตอน “พระจักราวตาร” อีกครั้งหนึ่ง

หลังจากที่ไปดูครั้งแรก หรือรอบแรก ที่เรียกว่า “รอบสื่อมวลชน และรวมญาตินักแสดง” ซึ่งเป็นรอบที่จัดให้ “สื่อมวลชน” และญาติสนิทมิตรสหายของผู้แสดงต่างๆ ดูชมก่อนจะเริ่มแสดงจริง

ท่านผู้อ่านคงจำได้ ผมเขียนแสดงความชื่นชมเอาไว้เต็มคอลัมน์ พร้อมกับเชิญชวนแฟนๆ โขนทั้งหลายไปให้กำลังใจ และช่วยกัน “สืบสาน รักษา ต่อยอด” ให้โขนไทยของเราอยู่ยั้งยืนยงเคียงคู่ประเทศไทยของเราไปตราบนานเท่านาน

ต่อมาก็ทราบว่า ด้วยความงดงามของโขนตอนนี้ จึงมีการพูดกันแบบปากต่อปาก ทำให้พี่น้องประชาชนและเด็กนักเรียน ซึ่งมีการจัดรอบนักเรียนขึ้นด้วย ไปให้กำลังใจกันอย่างแน่นขนัดทุกรอบ

สำหรับรอบที่ผมไปดูเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว เป็น “รอบเหมา” ของ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ครับ…ได้รับอภินันทนาการจากคุณ ฐาปน สิริวัฒนภักดี ส่งบัตรมาให้ผมกับครอบครัวชุดหนึ่ง จึงตัดสินใจไปดูซํ้าอีกครั้ง

ปรากฏว่าดูแล้วดื่มด่ำกว่าครั้งที่ 1 อีกหลายเท่าตัวเลยครับ

อาจเป็นเพราะนักแสดงต่างๆ มีความช่ำชองมากขึ้นแล้วหลังจากแสดงติดต่อกันมาหลายวัน…ในขณะที่ฝ่ายจัดฉากจัดเทคนิคก็ชำนาญการมากขึ้นสามารถดำเนินการได้อย่างคล่องตัวไม่ติดขัด

ในโขนชุดนี้นอกจากจะมีฉากสวยสดงดงามกว่าทุกครั้งที่เคยแสดงมาแล้ว ยังสมมติว่าพระรามสามารถสังหารทศกัณฐ์ได้เรียบร้อย พร้อมได้นางสีดากลับคืนสู่อโยธยาและขึ้นครองอโยธยาในที่สุด

จึงมีฉากเฉลิมพระเกียรติ “พระจักราวตาร” ในฉากสุดท้ายด้วยการร่ายรำถวายพระพรทั้งภาคพื้นดินและบนสวรรค์อย่างสวยงามอลังการตามสไตล์ของโขนศิลปาชีพฯ เป็นการส่งท้าย

แต่เท่าที่จำได้ว่า “รามเกียรติ์” ของไทยเรามิใช่จบเพียงเท่านั้น ยังมีตอนสีดาลุยไฟพิสูจน์ความซื่อสัตย์ของสีดาก่อนกลับคืนสู่อ้อมอกพระราม หลังจากไปถูกกักตัวที่ลงกาเป็นเวลานาน

จากนั้นก็ยังมีปีศาจยักษ์ตนหนึ่งแปลงร่างมาเป็นคนใช้ ขอให้สีดาวาดรูปทศกัณฐ์ให้เธอดู…นางสีดาวาดเสร็จยังไม่ทันลบ พระรามก็มาพบเข้าพอดี

ทำให้พระรามเข้าพระทัยผิดคิดว่านอกใจ สั่งประหารนางสีดา แต่พระลักษมณ์ไม่ประหารปล่อยนางไปอยู่กับพระฤาษีตนหนึ่ง และประสูติพระโอรสที่เกิดจากพระรามองค์หนึ่ง ชื่อว่า พระมงกุฎ

ยาวต่อไปจนถึงพระรามมาเจอพระมงกุฎสู้รบกันไม่แพ้ชนะ “ศรศิลป์ไม่กินกัน” จึงรู้ว่าเป็นพ่อลูก ขอคืนดีกับนางสีดา แต่นางไม่ยอม หนีต่อไปเมืองบาดาล

จนในที่สุดพระอิศวรต้องมาไกล่เกลี่ยจนนางสีดาใจอ่อน จึงยอมกลับไปครองอโยธยาด้วยกันแบบแฮปปี้เอนดิ้ง

จากเรื่องที่ยาวเหยียดเช่นนี้ทำให้เรามีคำพูดอุปมาอุปไมย อยู่วลีหนึ่งว่า “ยาวเป็นรามเกียรติ์” สำหรับนิทานหรือนิยาย หรือการเล่าเรื่องอะไรก็ตามที่ยาวมากกว่าปกติ

การแสดง “โขน” เรื่องรามเกียรติ์ ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่ง ประเทศไทย คงจะมีต่อไป จบตอนนี้ในวันที่ 8 ธันวาคมแล้ว ก็คงจะมีตอนอื่นอีก เพราะยังมีเรื่องเล่าได้อีกยาวเหยียดอย่างที่ว่า

จะเป็นตอนไหน ช่วงไหน แสดงเมื่อไร คนไทยเราคงจะไปให้กำลังใจเนืองแน่นเหมือนเช่นเคยแหละครับ…อย่างคราวนี้ใน

รอบเหมาของ ไทยเบฟฯ ก็มีเด็กๆ อายุ 8 ขวบไปถึง 13-14 ขวบ ไปดูนับร้อยคน ส่งเสียงเฮฮาลั่นศูนย์วัฒนธรรมฯ ตอนเปิดตัวหนุมาน และกองทัพลิงออกมาเต็มเวทีรอบบ่ายที่แสดงก่อนหน้าก็เป็นของนักเรียน…มีนักเรียนมาดูเต็มโรงจากจังหวัดต่างๆ

เห็นแล้วก็ชื่นใจ ตราบใดที่เด็กไทยรุ่นใหม่ชอบเช่นนี้ โขนของเราคงจะอยู่ยั้งยืนยงเคียงคู่ประเทศไทยไปตราบนานเท่านาน ดังที่มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตั้งปณิธานไว้แน่นอนครับ.

“ซูม”

โขนไทยการแสดงรามเกียรติ์ ตอนพระจักราวตาร สืบสานศิลปะไทย ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย