เป็นอันว่าเรียบร้อยโรงเรียนโดนัลด์ ทรัมป์ ไปแล้วนะครับ สำหรับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งที่ 60 (วันที่ 5 พ.ย. 2024)
เมื่อผลอย่างไม่เป็นทางการระบุว่า คุณทรัมป์ แกได้คะแนนเสียง “คณะผู้เลือกตั้ง” หรือ “อิเลคโทรัลโหวต” เกิน 270 เสียงที่ต้องการ ไปเมื่อราวๆ บ่าย 3 ของวันพุธที่ 6 พ.ย. ตามเวลาบ้านเรา
ผมปิดต้นฉบับที่ “เวลา 17.00 น.เป๊ะ เว็บไซต์ข่าว CNN รายงานว่า คุณทรัมป์ได้เสียงคณะผู้เลือกตั้งไปแล้ว 276 เสียง และได้คะแนนดิบแบบป๊อปปูลาร์โหวตไป 70 ล้านเศษเสียง
ในขณะที่คุณ คามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต ได้เสียงคณะผู้เลือกตั้ง 219 เสียง และป๊อปปูลาร์โหวต 65 ล้านเศษเสียง แพ้กันขาดลอย ทั้งๆ ที่ยังนับไม่หมดเหลืออีก 3-4 รัฐ ซึ่งคุณทรัมป์นำอยู่เช่นกัน
ผมเปิดดูข่าว CNN ตอน 9 โมงเช้าวันพุธ ซึ่งเพิ่งนับคะแนนไปสัก 2-3 ชั่วโมงเห็นจะได้ พบว่าคุณทรัมป์แกนำโด่งไปแล้วเฉพาะอีเลคโทรัลโหวตถึง 105-27 เสียง
แม้ CNN จะบอกว่าถึงนำขนาดนี้ แต่ก็ยังสรุปไม่ได้ เพราะยังเหลืออีกหลายรัฐ และคุณแฮร์ริสก็กำลังทำคะแนนได้ดีในรัฐเหล่านี้
แต่คนที่ติดตามผลการเลือกตั้งทั้งของสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ในโลกอีกหลายๆ ประเทศ รวมทั้งประเทศไทยเราด้วยมากว่า 50 ปีอย่างผมก็ยังไม่เคยพบเคยเห็นว่าคนที่โดนนำมากๆ ขนาดนี้จะกลับมาชนะได้
ซึ่งในที่สุด ทุกสิ่งอย่างก็เป็นอย่างที่คิดไว้ เพราะแม้คุณคามาลาจะตีตื้นขึ้นมาได้เยอะ แต่ในที่สุดก็ยังแพ้อยู่ดีตามผลอย่างไม่เป็นทางการ แต่ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก ที่ผมสรุปไว้ข้างต้น
ก็เป็นอันว่าประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะมีพิธีอย่างเป็นทางการในต้นเดือนมกราคม จะไม่มีทางเป็นใครอื่นไปได้ละครับ นอกจากคุณ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีที่ชนะเลือกตั้งมารับตำแหน่งเมื่อ ค.ศ.2017 แล้วถูกน็อกไปโดยคุณ โจ ไบเดน เมื่อ ค.ศ.2021 ก็กลับมาใหม่ได้อีกครั้ง
จะชอบหรือไม่ชอบ ก็ต้องทนอยู่กับคุณทรัมป์อย่างน้อยอีก 4 ปี
โดยส่วนตัวผมเอง–ผมเอาใจช่วยคุณ คามาลา แฮร์ริส มาอย่างเงียบๆ ไม่ใช่เพราะ “นโยบาย” หรือ “วิสัยทัศน์” อะไรของท่านหรอกครับ…แต่เป็นเพราะผมฟังเธอพูดแล้วอยู่กับร่องกับรอยมากกว่า
ไม่ออกไปทางเพี้ยนๆ หรือกวนๆ หรือนักเลงๆ หรือบางครั้ง ก็โกหกเอาดื้อๆ แบบคุณทรัมป์
ก็เอาเถิดครับ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด…เมื่อเกิดแล้วเราก็ต้องยอมรับและเตรียมตัวที่จะรับผลกระทบในเชิงลบที่จะเกิดขึ้น
สหรัฐฯ นั้นเป็นยักษ์ใหญ่เป็นเบอร์หนึ่งตัวจริงของโลก และก็เป็นอธิบดีกรมตำรวจของโลกอย่างที่ยุคหนึ่งสมัยหนึ่งเคยมีคนเปรียบเปรยไว้
นโยบายหรือการกระทำใดๆ ของสหรัฐฯ ย่อมมีผลกระทบต่อโลกอย่างกว้างขวาง ทั้งทางตรงและทางอ้อม
กล่าวเฉพาะนโยบายไม่พูดถึงคุณสมบัติส่วนตัวของคุณทรัมป์ ผมก็รู้สึกว่านโยบายเศรษฐกิจหลักๆ ของแกจะสะเทือนโลกหนักกว่าคุณคามาลาอยู่แล้ว
เช่นบอกว่าจะเก็บภาษีนำเข้าจากทุกประเทศ 20 เปอร์เซ็นต์, จะเล่นงานและเพ่งเล็งประเทศที่มีดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลทุกประเทศ (ไทยเราก็เกินเสียด้วย) และข้อนี้สำคัญ แกบอกว่าจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนหนักกว่าคนอื่นๆ คือจะเล่นงานถึง 60 เปอร์เซ็นต์โน่นเลย
ย่อมจะมีผลทำให้เศรษฐกิจจีนซึ่งหนักอยู่แล้วหนักลงไปอีก และถ้าจีนหนักเศรษฐกิจโลกก็หนัก มีผลกระทบอย่างกว้างขวางถึงไทยเราด้วยที่ต้องพึ่งพาจีนค่อนข้างเยอะทั้งด้านท่องเที่ยวและการส่งออก
แต่จะทำอย่างไรได้ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างได้เกิดขึ้นแล้ว ก็ต้อง กัดฟันยอมรับและพยายามเอาตัวรอดให้ได้ต่อไป
อย่าให้การกลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกรอบของคุณทรัมป์มาทำให้แผนงานสนุกๆ ของเราโดยเฉพาะ “Winter Festival” ที่จะเริ่มตั้งแต่ 15 พ.ย. “วันลอยกระทง” ไปจนถึงปีใหม่ กร่อยลงก็แล้วกันครับ
ป.ล. ชัยชนะของทรัมป์คราวนี้ถือว่าหักปากกาเซียนครับ เพราะเซียนส่วนใหญ่ทายว่า คุณคามาลาจะชนะหวุดหวิด–ยกเว้นเซียนดังจากประเทศไทย “น้องหมูเด้ง” จากสวนสัตว์เปิดเขาเขียวที่ไปกินกระทงที่สลักชื่อทรัมป์ ทายถูกเป๊ะเลยว่าทรัมป์ชนะแน่นอน.
“ซูม”