ตั้งแต่วันนี้ (พุธที่ 28 สิงหาคมเป็นต้นไป) จนถึงวันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม จะมีการประชุมสัมมนาผู้บริหารโรงเรียนไทยรัฐวิทยาทั่วประเทศ 111 โรงเรียน ประจำปี 2567 ณ สวนนงนุช พัทยา อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จัดโดยมูลนิธิไทยรัฐและสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เหมือนเช่นเคย

เพื่อให้ผู้บริหารทุกท่านได้มีโอกาสรับรู้รับทราบถึงแนวนโยบายใหม่ๆ ของกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงแนวนโยบายใหม่ๆ ของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และความรู้ที่ทันสมัยที่เกิดขึ้นในแต่ละปี เพื่อให้คณะผู้บริหารโรงเรียนไทยรัฐวิทยาทุกแห่งนำไปปรับปรุงการเรียนการสอนให้เกิดประโยชน์แก่เด็กนักเรียนกว่า 22,000 คนทั่วประเทศของเรามากยิ่งขึ้น

ถือเป็นการ “สัมมนา” อันมีประโยชน์โดยตรงต่อคณะผู้บริหารโรงเรียนไทยรัฐวิทยา และครูบาอาจารย์ต่างๆของเราที่มีการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องไม่ตํ่ากว่า 30 ปีแล้ว

ผลัดกันเป็นเจ้าภาพปีละภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร

ปีนี้จะไปสัมมนากันที่ พัทยา ที่สวนนงนุชของคุณ กัมพล ตันสัจจา ซึ่งให้ความเอื้อเฟื้อด้านที่พัก และห้องจัดสัมมนา โดยคิดราคาแบบกันเอง ที่ผมต้องขอขอบพระคุณไว้ด้วย ณ ที่นี้

สำหรับแกนหลักในการสัมมนาปีนี้ยังคงเป็นเรื่องของ “แผนยุทธศาสตร์โรงเรียนไทยรัฐวิทยา” ซึ่งฉบับนี้เป็นฉบับที่ 5 แล้ว ที่ผู้เข้าประชุมจะนำมานั่งคุยกันอย่างละเอียดก่อนกลับไปลงมือปฏิบัติ

ขณะเดียวกัน ก็จะได้คุยกันถึงประเด็นสำคัญของโลก ที่ สหประชาชาติ ให้ความสำคัญไว้ตั้งแต่เมื่อ ค.ศ.2015 หรือ พ.ศ.2558 และยังคงให้ความสำคัญมาจนถึงวันนี้ สำหรับ “วาระของโลก” ที่สหประชาชาติ เรียกว่า “SUSTAINABLE DEVELOPMENT” หรือการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนนั่นเอง

โดยกำหนดเป้าหมายไว้ 17 เป้าหมายพร้อมกับกำหนดระยะเวลาของเฟสแรก หรือระยะที่ 1 ไว้ว่าให้แล้วเสร็จภายในปี ค.ศ.2030

หลังจากนั้นประเทศต่างๆ ที่เป็นสมาชิกสหประชาชาติทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยเราด้วยต่างก็รับมติไปดำเนินงานมากบ้างน้อยบ้าง ตามความสามารถของแต่ละประเทศ

ของประเทศไทยเราความจริงก็มีการพูดถึง “การพัฒนาที่ยั่งยืน” มาก่อนปี ค.ศ.2015 เสียอีก เพราะในการจัดทำ “แผนพัฒนา ฉบับที่ 9” พ.ศ.2545-2549 หรือ ค.ศ.2002-2006 นั้น สภาพัฒน์ หน่วยงานวางแผนหลักของประเทศไทยก็ได้อัญเชิญ “นโยบายเศรษฐกิจพอเพียง” ของในหลวง ร.9 มาเป็นนโยบายหลักของการพัฒนาประเทศและกำหนดยุทธศาสตร์หลัก 7 ยุทธศาสตร์เพื่อไปสู่ การพัฒนาที่ยั่งยืน เอาไว้อย่างชัดเจน

ก่อน ค.ศ.2015 ที่สหประชาชาติจะจัดทำเอกสาร SDGs หรือ Sustainable Development Goals ด้วยซํ้าไป

แต่ก็แน่นอนละในการพัฒนาแบบไทยๆ ในสภาพของความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นโดยตลอดนั้น ผลการพัฒนาที่ยั่งยืน ของเราอาจจะยังห่างไกลไปจากเป้าอยู่บ้าง

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ายินดีก็คือผู้คนยังคงพูดถึงเรื่องนี้อยู่และหันมาเอาใจใส่มากขึ้นเมื่อพบว่าทรัพยากรต่างๆของโลกเริ่มจำกัดลง และช่องว่างของการพัฒนาระหว่างคนรวยคนจนเริ่มกว้างยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะประเทศไทยเราควรดีใจมากๆ ที่มีการหยิบยกมาพูดถึงไม่เฉพาะภาครัฐเท่านั้นยังรวมไปถึงภาคเอกชนด้วย

ไทยรัฐ กรุ๊ป ก็หันมาช่วยรณรงค์และสร้างขบวนการไปสู่อนาคตที่สมบูรณ์ หรือ “ฟิวเจอร์ เพอร์เฟกต์” จัดสัมมนาและจัดพิมพ์เอกสารเผยแพร่ขึ้นหลายชุด ถือเป็นโครงการหลักของพวกเรา

ผมจะแว็บไปร่วมสัมมนาและขออนุญาตเขียนแห้งๆ ทิ้งไว้สัก 2-3 วัน เมื่อกลับมาและได้ฟังได้ความรู้อะไรดีๆจากที่ประชุมสัมมนาครั้งนี้แล้วจะถือโอกาสสรุปมาเล่าสู่กันฟัง (อ่าน) ต่อไปนะครับ.

“ซูม”