ผมติดค้างท่านผู้อ่านไว้ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์โน้น ที่เขียนถึงการมอบรางวัล “โพธิคยานาคาธิบดี” ปีที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นที่จังหวัดกระบี่ โดยสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ดังที่เขียนกราบเรียนถึงที่มา ที่ไปทั้งของ “สถาบัน” และ “รางวัล” เอาไว้ครบถ้วน

แต่เนื่องจากเนื้อที่ไม่เหลือพอสำหรับจะลงรายชื่อทั้ง 14 รูป/คน ที่ได้รับรางวัลปีนี้ได้ทั้งหมด จึงขอผัดผ่อนไปลงในคอลัมน์วันต่อไป

เผอิญว่าผมเขียนถึงเรื่องนี้ในวันศุกร์ คอลัมน์วันต่อไปโดยปกติแล้วจึงต้องเป็นวันจันทร์ถัดมา เพราะในช่วงเสาร์อาทิตย์ผมได้รับมอบหมายให้เขียนถึงเรื่องเบาๆ สนุกๆ และมีเป้าหมายที่ชัดเจนอยู่แล้ว

ก็ปรากฏว่าวันจันทร์ของสัปดาห์นี้เป็นวันสำคัญยิ่งของพวกเราชาวไทยที่จะร่วมกันถวายความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จึงต้องขออนุญาตผัดผ่อนมาจนถึงวันนี้

ทั้งหมดมี 14 รางวัลด้วยกันจาก 3 สาขา โดยเริ่มจาก สาขาส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา ประเภทบุคคล 11 รูปและคน ได้แก่

1.พระพรหมวชิราธิบดี อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
2.พระพรหมวชิรนายก เจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์ มหาราชวรวิหาร
3.พระพรหมเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคาราชวรวิหาร
4.พระพรหมสิทธิ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
5.พระพรหมวัชรธีราจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
6.พระเทพวชิรากร เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุวชิรมงคล
7.พระวชิรกิจโกศล เจ้าอาวาสวัดมหาวนาราม พระอารามหลวง
8.หลวงพ่ออุปติสสะเถโร ประธานพุทธวิหารสาญจี อินเดีย ผู้ดูแลรักษาและอนุมัติให้นำพระอรหันตธาตุของพระอัครสาวก พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ มาประดิษฐานชั่วคราวในประเทศไทย
9.นาย นาเกช ซิงห์ เอกอัครราชทูตอินเดีย ประจำประเทศไทย ผู้ให้ความร่วมมืออย่างดียิ่งในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานชั่วคราวในประเทศไทย
10.นาย สมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่
11.นาย นิวัตน์ แจ้งอริยวงศ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท เอเวอร์กรีน ชิปปิ้ง เอเยนซี่ (ประเทศไทย) จำกัดสาขาพุทธศิลป์ ประเภทองค์กร 1 องค์กร ได้แก่ อาจารย์วีรพงษ์ นาคะวัณณัง คณะธรรมบุญนาคธาตุต์

สาขาสื่อมวลชนเพื่อพระพุทธศาสนา ประเภทบุคคล ได้แก่ นาย สมชาย กรุสวนสมบัติ (ซูม) คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และประเภทองค์กร 1 องค์กร ได้แก่ รายการโทรทัศน์ “สามเณรปลูกปัญญาธรรม” บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น

ครับ! ขอแสดงความยินดีแก่ทุกๆ ท่านที่ได้รับรางวัลอันทรงคุณค่าข้างต้นนี้ รวมทั้งตัวผมเองด้วยที่ได้รับความกรุณาจากคณะกรรมการพิจารณารางวัลอย่างมิได้คาดหมายมาก่อน

ตลอดเวลาที่เขียนหนังสือในไทยรัฐ มา 52 ปี ผมได้เขียนถึงพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเมื่อมีโอกาสอยู่เสมอๆ โดยเฉพาะการเขียนถึง “สังเวชนียสถาน” ทั้ง 4 แห่ง ในอินเดียและเนปาล หลังจากติดตามคณะของคุณหญิง ประณีตศิลป์ วัชรพล ไปเยือนประเทศอินเดียเมื่อ พ.ศ.2548

ครั้งนั้นได้ร่วมเขียนกับเพื่อนๆ คอลัมนิสต์ไทยรัฐอีกหลายท่าน โดยเฉพาะ “แม่ลูกจันทร์” และ “ลม เปลี่ยนทิศ” ถือเป็นโอกาสในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และจูงใจพุทธศาสนิกชนชาวไทยให้เดินทางตามรอยบาทพระศาสดาและตามข้อเขียนของพวกเราไปสู่ดินแดนพุทธภูมิจำนวนมาก

มากจนกล่าวได้ว่าเป็นการบุกเบิกการเดินทางสู่พุทธภูมิครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่มีคณะของสื่อมวลชนต่างๆ ไปเยือนประเทศอินเดียเป็นต้นมา…นับเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดของพวกเรา

ผมขอยืนยันกับสถาบันโพธิคยาวิชชาลัยว่าจะร่วมเผยแผ่และปกป้องพระพุทธศาสนาด้วยการทำความดีไม่ปฏิบัติความชั่วและจะ “พยายาม” ทำใจให้บริสุทธิ์เท่าที่จะทำได้ไปตลอดชีวิตนี้… ขอบคุณอีกครั้งนะครับ.

“ซูม”