ขอบคุณ “สส.ฝ่ายค้าน” ปกป้อง “หยาดเหงื่อ” ประชาชน

เป็นที่ทราบกันตั้งแต่วันพุธที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมาแล้วว่าสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติรับหลักการในวาระแรก สำหรับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ 2567 จำนวนเงิน 1.22 แสนล้านบาทเป็นที่เรียบร้อย

ด้วยมติรับหลักการ 297 เสียง ไม่รับหลักการ 164 เสียง พร้อมกับมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 32 ราย ไปดำเนินการแปรญัตติและให้นำกลับมาเสนอต่อสภาผู้แทน วาระ 2-3 ในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้

ในทางปฏิบัติมักไม่มีปัญหาอะไรยุ่งยาก จึงเท่ากับสรุปได้ ณ บัดนี้ว่า รัฐบาลนี้จะได้ดำเนินการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตหัวละ 1 หมื่นบาท ตาม เป้าหมายใหม่ที่ปรับลงมาจากเมื่อตอนหาเสียงไว้

ผมในฐานะประชาชนผู้เสียภาษีทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างไม่เคยบิดพลิ้วมาโดยตลอด ได้เขียนทักท้วงและแสดงความเห็นคัดค้านมาตั้งแต่ต้น แม้จนนาทีนี้ก็ยังคัดค้านและไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง

แต่ด้วยความเคารพในกติกาของระบอบประชาธิปไตยที่เราต้องให้เกียรติแก่สภาผู้แทนราษฎร…ดังนั้น เมื่อรัฐบาลสามารถนำร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบและการรับหลักการในวาระที่ 1 ไปได้ (และเชื่อว่าวาระ 2 วาระ 3 ก็น่าจะผ่านได้อย่างง่ายดาย) เช่นนี้…ผมก็คงไม่คัดค้านอะไรต่อไปอีก

นอกจากจะจับตาดูใน “ภาคปฏิบัติ” ต่อไปว่าจะมีความรั่วไหล หย่อนยาน เกิดช่องว่างช่องโหว่ ฯลฯ อย่างไร หรือไม่?

รวมทั้งจะตามดูวิธีประเมินผล โดยเฉพาะวิธีคิดคำนวณว่าจีดีพีจะเพิ่มขึ้นจริงหรือไม่? มีพายุหมุนอย่างที่รัฐบาลอ้างหรือไม่?

ซึ่งก็คงต้องขอฝากท่านนักวิชาการ นักคำนวณ นักพยากรณ์ และนักคาดการณ์จีดีพีทุกสำนักให้ช่วยติดตามด้วยอย่างไม่กะพริบตา

ต้องขอขอบคุณ สส.ฝ่ายค้านทุกพรรคที่ช่วยกันอภิปรายชี้แจงเหตุผลเกือบทุกแง่ทุกมุม คัดค้านการดำเนินงานของรัฐบาลตามโครงการนี้

โดยเฉพาะท่าน สส.ศิริกัญญา ตันสกุล ที่อภิปรายได้อย่างชัดเจนในประเด็นที่อาจผิดกฎหมายและความห่วงใยในการบริหารจัดการ

ส่วน สส.ฝ่ายค้านอื่นๆ ก็อภิปรายฝากข้อคิดข้อสังเกตเช่นเดียวกับที่นักวิชาการเคยเขียนจดหมายเปิดผนึกเอาไว้และข้อคิดความเห็นที่สื่อมวลชนแสดงความห่วงใยมาโดยตลอด

โดยเฉพาะประเด็นที่รัฐบาลจะนำงบกลางปี 2567 มาแจกเสียหมด หากเกิดกรณีฉุกเฉินขึ้นเช่นภัยพิบัติ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งก็คือน้ำท่วมหรืออุทกภัย ก็จะไม่มีงบประมาณใดๆ มาใช้ แก้ปัญหาได้เลย

ผมขอถือโอกาสนี้ขอบคุณท่าน สส.ฝ่ายค้านทุกท่านไว้ ณ ที่นี้อีกครั้งหนึ่ง และจากนี้ไปก็ขอแรงท่านทั้งหลายให้ร่วมกันจับตาดูโครงการนี้กันต่อไปว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร? จะเกิดผลสำเร็จมากน้อยแค่ไหน? ดูกันให้ละเอียดในทุกๆด้าน อย่าให้คลาดสายตาไปได้

โดยส่วนตัวผมเองนั้น เมื่อมาคิดอีกที… ณ นาทีนี้ก็อยากจะวิงวอนให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจงบันดาลให้โครงการนี้ประสบผลสำเร็จ

เหตุเพราะ…ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เมื่อร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ผ่านสภาในขั้นสุดท้ายแล้ว ก็เท่ากับว่าการกู้เงินต่างๆ ตามโครงการนี้จะเป็นผลตามกฎหมาย และเมื่อรัฐบาลนำออกแจกก็จะเป็นความผูกพันของรัฐที่จะต้องจ่ายคืนในอนาคต ซึ่งก็แน่ล่ะจะต้องมาจากภาษีอากรที่จัดเก็บไปจากราษฎรตาดำๆ ในฐานะผู้ใช้หนี้ตัวจริงเสียงจริง

ผมเคยพูดอยู่เสมอว่า GDP เป็นเรื่องสมมติ ที่บอกจะเพิ่มเท่านั้นเท่านี้ หมื่นล้านแสนล้านบาทล้วนสมมติขึ้นจากสูตรคำนวณบ้าง จากตัวเลขที่นำมาใช้วัดบางตัวบ้างแล้วก็ประมาณออกมาเป็นภาพรวม…ไม่มีชาติไหนในโลกนี้ที่จะคำนวณได้อย่างแท้จริงว่า GDP ของประเทศที่ถูกต้องมีอยู่เท่าไร

แต่หนี้สิน 4 แสน 5 หมื่นล้านบาท ตัวเลขที่รัฐบาลนี้จะก่อขึ้นใน โครงการแจกเงินดิจิทัลทั้งหมดเป็นเรื่องจริงครับ จะต้องจ่ายจริงๆ ใช้หนี้ จริงๆ ไม่มีสิทธิ์เบี้ยวได้

จะไม่ให้ผมต้องขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหมือนเอาใจช่วยรัฐบาลได้อย่างไรล่ะครับ เพราะไม่ว่าโครงการนี้จะสำเร็จหรือล้มเหลว พวกเราประชาชนจะต้องใช้หนี้อย่างแน่นอนอยู่แล้ว หลังรัฐบาลลงมือแจก

ก็เลยต้องฝืนใจภาวนาขอให้สำเร็จว่างั้นเถอะครับ จะได้กัดฟันเสีย “ภาษี” ด้วยความสบายใจ.

“ซูม”

ขอบคุณ “สส.ฝ่ายค้าน” ปกป้อง “หยาดเหงื่อ” ประชาชน, ผ่าน, พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม, นโยบาย, แจกเงิน, ดิจิทัลวอลเล็ต, หัวละ 1 หมื่นบาท, การเมือง, ข่าว, ข่าววันนี้, ข่าวล่าสุด, ซูมซอกแซก