วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน 2567 หรืออีกประมาณ 10 วันกว่าที่จะถึงนี้จะมีการแสดงคอนเสิร์ตที่น่าจะถือได้ว่ายิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับ พี่น้องชาวนครสวรรค์ ณ บริเวณอนุสรณ์สถานแห่งความรู้รักสามัคคีของคนปากน้ำโพที่มีชื่อว่า “พาสาน” บริเวณต้นแม่น้ำเจ้าพระยา
ที่ต้องใช้คำว่า “ยิ่งใหญ่ที่สุด” ก็เพราะเป็นการแสดงของวง ไทยซิมโฟนี่ออเคสตรา แห่งมูลนิธิ อาจารย์สุกรี เจริญสุข ซึ่งมีนักดนตรีนับร้อยชีวิตควบคุมโดย พันเอก (พิเศษ) ดร.ประทีป สุพรรณโรจน์ เดินสายไปแสดง ณ ที่สำคัญๆ ต่างๆ ทั่วประเทศไทย มาหลายสิบสถานที่แล้ว
ส่วนเพลงเอกที่มีการเรียบเรียงเสียงประสานขึ้นใหม่อันได้แก่เพลง “เมืองแมนแดนสวรรค์” ที่ขับร้องบันทึกแผ่นเสียงโดย สมยศ ทัศนพันธ์ เมื่อประมาณ 60 ปีก่อนโน้น จะนำมาขับร้องใหม่โดยวง “ปล่อยแก่ปากน้ำโพ” ซึ่งก็จะมีนักร้องอาวุโสผ่านการฝึก ซ้อมอย่างดียิ่งของ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ มาร่วมร้องประสานเสียงไม่น่าจะต่ำกว่า 30-40 คน
รวมแล้วในการร้องและบรรเลงเพลงนี้เพลงเดียวอาจใช้การรวมพลังของมนุษย์ไม่ต่ำกว่า 120 ชีวิตขึ้นไป, จะไม่ยกให้เป็นคอนเสิร์ตที่ “ยิ่งใหญ่ที่สุด” สำหรับนครสวรรค์ได้อย่างไรล่ะ
ที่มาที่ไปของการแสดง ณ ต้นน้ำเจ้าพระยาครั้งนี้หลายๆ ท่านคงจะได้อ่านข่าวคราวจากสื่อต่างๆ ไปบ้างแล้ว
ในส่วนของหัวหน้าทีมซอกแซกเองในฐานะนักเขียนคอลัมน์ที่นิยมความเป็นกลาง อยากเห็นผู้คนรักกันชอบกันไม่ทะเลาะกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง การสังคม หรือการบันเทิง ทั่วไป ขออนุญาตทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยประสานให้อีกครั้ง…ถ้าเป็นไปได้ขอให้ทุกฝ่ายร้องเพลง “ลืมเสียเถิด อย่าคิดถึง” ลืมเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่ศรีเทพ หันมาตั้งสมาธิอยู่กับต้นน้ำเจ้าพระยา “พาสาน” เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
จากโปรแกรมการแสดงที่คณะผู้จัดส่งมาให้จะเริ่มด้วยเพลง “เมืองแมนแดนสวรรค์” ขับร้องโดยวงปล่อยแก่ปากน้ำโพ เป็นเพลงแรกเสมือนหนึ่งการโหมโรงดึงอารมณ์ของผู้ชมผู้ฟังสังคมมาอยู่ร่วมกัน ณ ต้นน้ำเจ้าพระยา
จากนั้นก็มีเพลงจิตวิญญาณปากน้ำโพชุดใหญ่ เริ่มตั้งแต่เพลง ศาลเจ้าเทพารักษ์ บรรเลงในสไตล์จีน, ตามด้วย มอญ, ลาว, ฝรั่ง (โบสถ์คริสต์) และจิตวิญญาณปากน้ำโพอื่นๆ เช่น “เจดีย์วัดกบ” ที่จะมีการบรรเลงในแบบไทยๆ
ยังมีเพลง รักเจ้าพระยา, นครสวรรค์ ที่รัก (พาสานใจ), บทเพลง แม่น้ำของเรา ฯลฯ (แต่ไม่เห็นเพลง พบรักที่ปากน้ำโพ ของ หนู มิเตอร์)
แต่ก็เอาเถิดครับเพียงเท่านี้ในฐานะเด็กปากน้ำโพในอดีตที่เติบโตมาเป็นคนแก่ บางกะปิ กทม.10240 ในปัจจุบันนี้ก็รู้สึกซาบซึ้งคิดถึงบ้านอย่างบอกไม่ถูกแล้วครับ
นอกจากการแสดงของวงไทยซิมโฟนี่ออเคสตราดังกล่าวแล้วยังจะมีการแสดงดนตรีในลักษณะประกวดประขันของวงเยาวชนอีก 6 วง เพื่อเรียกน้ำย่อยของแฟนๆ ปากน้ำโพตั้งแต่แดดร่มลมตกประมาณ 5 โมงเย็น ก่อนเข้าสู่งานใหญ่เป็นของแถมอีกด้วย ไปจนถึงเวลาประมาณ 2 ทุ่ม จบการแสดงชุดใหญ่แล้วจึงโบกมืออำลา
ตลอดการแสดงจะมีการบันทึกเทปโดยสถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอส เพื่อไปเผยแพร่ออกอากาศให้ได้ดูได้ชมกันทั่วประเทศไทยในภายหลังอีกครั้งหนึ่ง
โดยส่วนตัวหัวหน้าทีมซอกแซกกับท่านอาจารย์สุกรีรู้จักมักคุ้นถึงขั้นสนิทสนมกลมเกลียวมานานมาก แม้ว่าต้นกำเนิดของเราทั้ง 2 จะมาจากคนละภาคคนละจังหวัดก็ตาม
แต่ก็อย่างที่ทราบแหละครับประเทศไทยคือกรุงเทพฯ และกรุงเทพฯ คือประเทศไทย ในที่สุดผู้คนจากต่างจังหวัดก็มักถูกกรุงเทพฯ ดูดเข้ามาหมด และก็มาเจอกันพบกันเป็นเพื่อนกันในเมืองหลวงนี่เอง
ท่านอาจารย์สุกรีได้ทุนมาเรียนที่วิทยาลัย ครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยายุคก่อน เรียนเอกทางดนตรีเก่ง ทางเป่าแซ็ค ระหว่างรับราชการเป็นครูก็ออกรับงาน บรรเลงหารายได้เสริมโดยสุจริตตามบาร์ตามคลับต่างๆ
รู้จักสนิทสนมกับเพื่อนหัวหน้าทีมที่เป็นนักเที่ยวบาร์อยู่หลายคน และในที่สุดเพื่อนๆก็ชักนำมารู้จักกันในช่วงหลัง โดยเฉพาะในการจัดแสดงคอนเสิร์ต ให้ “ป๋าเปรม” เป็นครั้งสุดท้ายนั้น หัวหน้าทีมก็เคยเดินตามท่านอาจารย์สุกรีไปให้กำลังใจป๋าในบ้านสี่เสา เทเวศร์ ขณะฝึกซ้อมหลายครั้ง
ต่อมาก็ตามเชียร์ท่านอาจารย์โดยตลอด หลังจากท่านประสบความสำเร็จในการก่อตั้ง วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ขึ้นที่มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เป็นทั้งผู้อำนวยการและคณบดีของวิทยาลัยนี้
เมื่อทราบว่าหลังเกษียณแล้วท่านมีโครงการนำวงซิมโฟนี่ออเคสตรามาจัดแสดงเพลงไทยและเดินสายไปทั่วประเทศ รวมทั้งการไปตั้งชมรมนักร้อง “วงปล่อยแก่” ของจังหวัดต่างๆ สร้างความภูมิใจให้คนแก่จำนวนมากก็แอบปรบมือให้หลายๆครั้ง
ดังนั้นเมื่อท่านตัดสินใจนำวงดนตรีที่ท่านก่อตั้งและสนับสนุนมาแสดงที่จังหวัดนครสวรรค์ หัวหน้าทีมในฐานะศิษย์เก่าของจังหวัดนี้ด้วย จึงขอต้อนรับและขอบคุณอย่างจริงใจ
สำหรับเพลง “เมืองแมนแดนสวรรค์” นั้นมีบันทึกว่า เนียน วิชิตนันท์ เป็นผู้ประพันธ์คำร้อง ทำนอง และบันทึกแผ่นเสียงครั้งแรกโดย สมยศ ทัศนพันธ์ ประมาณ พ.ศ.2497-2500 รุ่นๆ เดียวกับ “มนต์ เมืองเหนือ” ที่ประพันธ์โดย ครูไพบูลย์ บุตรขัน ขับร้องโดย สมยศ ทัศนพันธ์ เช่นกัน แต่ไม่ฮิตเท่าเพลงหลัง
เคยสอบถามเพื่อนๆ จังหวัดอื่นๆ เมื่อครั้งมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ ใหม่ๆ ปี 2501 ได้รับคำตอบว่าไม่เคยได้ยินเลย
น่ายินดีที่ในยูทูบปัจจุบันนี้ได้มีผู้นำ แผ่นเสียงจากการร้องของสมยศ ทัศนพันธ์ แท้ๆ มาลงไว้ด้วย ท่านผู้อ่านที่เป็นคนนครสวรรค์รุ่นเก่าอย่าลืมเข้าไปเปิดฟังนะครับเสียงยังดีมากทีเดียว
สรุปของสรุป…ขอฝากงานแสดงของอาจารย์สุกรีและคณะในวันที่ 20 มิถุนายน 2567 ณ บริเวณ “พาสาน” ต้นกำเนิดแม่น้ำเจ้าพระยาไว้ด้วยนะครับ พี่น้องชาวนครสวรรค์ทุกท่าน…อย่าลืมไปดูไปให้กำลังใจ (ดูฟรีฟังฟรี) ท่านอาจารย์สุกรีกันเยอะๆและช่วยกันปักต้นตะไคร้อย่าให้ฝนตกด้วยครับระหว่าง 17.00-20.00 น.วันที่ 20 มิ.ย. ที่ปากน้ำโพ.
“ซูม”