จากวันนี้ไปอีกเพียง 6 วัน ก็จะถึงวันสำคัญอีกวันหนึ่งของพุทธศาสนิกชน อันได้แก่ “วันมาฆบูชา” ซึ่งในปี พ.ศ.2567 นี้ จะตรงกับวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งแม้จะตรงกับวันหยุด แต่ทางราชการก็จะหยุดชดเชยให้ในวันจันทร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ทำให้มีวันหยุดยาวติดต่อกัน 3 วัน ไปทำบุญได้ไกลพอสมควร
เป็นธรรมเนียมของทีมงานซอกแซกมาหลายปีแล้วว่า ก่อนจะถึงช่วงวันหยุดยาวของวันสำคัญทางพุทธศาสนา โดยเฉพาะวันมาฆบูชา หรือวิสาขบูชา ซึ่งจะมี “การเวียนเทียน” และการจัดงานบุญเฉลิมฉลองต่างๆ จนเป็นประเพณีท้องถิ่นขึ้นทั่วประเทศนั้น
พวกเราก็จะไปค้นหาว่า ที่วัดใด จังหวัดใดมีการจัดงานขึ้นเป็นการพิเศษบ้าง เพื่อนำมาบอก กล่าวเล่าสิบเป็นเชิงคู่มือแนะนำให้ท่านผู้อ่านนั้นตัดสินใจว่าจะไปร่วมงานด้วยดีหรือไม่? ถือเป็นการไป “ทำบุญ” บวก “ท่องเที่ยว” เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้และการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจขึ้นในพื้นที่
ปีนี้ พวกเราก็ขออาสาอีกเช่นเคยและขอแนะนำสถานที่ “เวียนเทียน” หรือสถานที่ที่มีงานเฉลิมฉลองในช่วงมาฆบูชาพอเป็นตัวอย่างโดยสังเขปดังต่อไปนี้
ขอเริ่มที่ จัดหวัดพะเยา เกือบเหนือสุดของประเทศไทยเป็นจังหวัดแรกเลยครับ จะมีงาน “เวียนเทียน” ณ กลาง “กว๊านพะเยา” เนื่องใน “วันมาฆบูชา 2567” เช่นเดียวกับหลายๆ ปีที่ผ่านมา เผลอแผล็บเดียวเป็นครั้งที่ 50 จัดมา 50 ปีแล้วนะครับ สำหรับการเวียนเทียนทางน้ำที่จังหวัดพะเยาภาคภูมิใจ และยืนยันว่าเป็น “หนึ่งเดียวในโลก”
งานจะเริ่มตั้งแต่ 24 กุมภาพันธ์ ไปจนถึง 26 กุมภาพันธ์ ณ บริเวณ ท่าเรือวัดติโลกอาราม และ วัดติโลกอาราม ถนนชายกว๊าน ตำบลเวียง อำเภอเมือง พะเยา โดยเฉพาะยามค่ำวันที่ 24 ก.พ. จะมีพิธีเวียนเทียนทางน้ำถวายเป็นพุทธบูชา จากนั้นก็จะมีการแสดง แสง สี เสียง “เล่าขานตำนานกว๊านพะเยา” พร้อมการแสดงศิลปวัฒนธรรมต่างๆ+ด้วยการจำหน่ายสินค้า OTOP และอาหารพื้นเมือง ซึ่งจะมีงานต่อไปจนครบ 3 วัน ในบริเวณวัดและตามหน้าวัดดังได้แจ้งไว้แล้ว
ก็มาถึงงานที่ 2 ซึ่งเป็นงานใหญ่ของภาคใต้และจัดมาเก่าแก่ตั้งแต่สมัยโบราณเช่นเดียวกัน ได้แก่ งาน “มาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุประจำปี 2567” ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันอังคาร 20 กุมภาพันธ์ ไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช สถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาที่พี่น้องชาวใต้และชาวไทยรู้จักอย่างดียิ่ง
กิจกรรมภายในงานจะประกอบด้วย การสมโภชผ้าพระบฏพระราชทานและผ้าพระบฏของส่วนราชการหน่วยงานและองค์กรต่างๆ โดยในวันมาฆบูชา 24 กุมภาพันธ์นั้นจะมีการทำบุญ ตักบาตร ตอนค่ำเวียนเทียน และอัญเชิญผ้าพระบฏในช่วงค่ำและฟังเทศน์ ฟังธรรม จนถึงเวลาอันสมควร
ทีมงานซอกแซกเคยเดินทางไปสักการะในห้วงเวลาปกติหลายครั้ง และทุกครั้งที่ไปก็จะรู้สึกอิ่มใจอิ่มบุญกลับมาทุกครั้ง
เหนือแล้วใต้แล้วก็ไปที่อีสานกันบ้าง เป็นของจังหวัดนครพนม ในช่วงงาน “นมัสการองค์พระธาตุพนม ประจำปี 2567” ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 17 กุมภาพันธ์ ไปจนถึง 25 กุมภาพันธ์ ณ วัดธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ซึ่งจะมีพิธีแห่อัญเชิญพระอุปคุตจากริมแม่น้ำโขง ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ เป็นการเริ่มต้นงาน จากนั้นจะมีพิธีถวายผ้าห่มพระธาตุพนม และกิจกรรมตักบาตรคู่ธาตุ ถวายข้าวพืชภาค ฯลฯ…
โดยเฉพาะในวันมาฆบูชา จะมีพิธีทำบุญตักบาตรภาคเช้า พิธีเทศนาในช่วงบ่ายช่วงเย็น และพิธีเวียนเทียนในช่วงค่ำรอบองค์พระธาตุ
ข้อสังเกตก็คืองานนมัสการองค์พระธาตุพนมเป็นงานใหญ่มาก มีการออกร้านจำหน่ายสินค้าสารพัดตั้งแต่สินค้าพื้นเมือง สินค้า OTOP ไปจนถึงสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ…หัวหน้าทีมซอกแซกมีโอกาสไปร่วมงานเมื่อปีกลายในช่วงบ่าย ยอมรับว่าอากาศค่อนข้างร้อนและเดินไกลมากจากที่จอดรถ จึงแนะนำว่าควรจะไปนมัสการองค์พระธาตุพนมในช่วงเย็น หรือค่ำคืนน่าจะเหมาะสมที่สุด
สำหรับงานต่อไปนี้ จะอยู่ที่ภาคตะวันออกของประเทศไทย จังหวัดปราจีนบุรี ในชื่องาน “เทศกาลมาฆปูรมีศรีปราจีน ครั้งที่ 38” ซึ่งมีความหมายว่า จัดมาแล้วอย่างน้อย 37 ปี 37 ครั้ง ก่อนหน้านี้ ณ บริเวณรอยพระบาทคู่ โบราณสถานสระมรกต อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี ระหว่างวันที่ 17-25 กุมภาพันธ์ นอกจากการออกร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและ OTOP ต่างๆแล้ว ยังมีการนำเที่ยวบริเวณโบราณ สถานศรีมโหสถ ตลาดย้อนยุคศรีมโหสถ การบรรยายธรรม และสวดมนต์หมู่สรภัญญะ ฯลฯ
ส่วนในค่ำคืนมาฆบูชานั้น จะมีพิธีเวียนเทียนรอบ “รอยพระบาทคู่” เป็นกรณีพิเศษ และตลอดงานจะได้อัญเชิญพุทธรูปสำคัญ ของ 7 อำเภอ ในจังหวัดปราจีนบุรี มาให้ประชาชนทั้งหลายได้บูชากราบไหว้พร้อมๆ กัน
ทั้งหมดทั้งมวลข้างต้นนี้ คือตัวอย่างงานเฉลิมฉลองและงานบุญในช่วง “มาฆบูชา” ที่จัดขึ้นในจังหวัดต่างๆของประเทศไทย และได้จัดติดต่อกันมานานจนมีชื่อเสียงเป็นที่กล่าวขวัญถึง หากท่านผู้ใดที่อยู่ใกล้หรือแม้แต่อยู่ไกลจะไปร่วมทำบุญ ก็น่าจะมีส่วนในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองได้ไม่มากก็น้อย
แต่หัวใจของวันมาฆบูชาก็คือการรำลึกถึงวันที่พระภิกษุ 1,250 รูปที่สำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้วทั้งสิ้น ได้มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย และพระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงพระ โอวาทปาฏิโมกข์ อันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาแก่พระภิกษุทั้งนั้น บรรดาสาธุชนชาวพุทธจึงถือเป็นวันสำคัญที่สุดวันหนึ่งดังกล่าว และถือเป็นประเพณีมาแต่โบราณที่จะทำบุญตักบาตรเข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรม ซึ่งจะมีการจัดขึ้นในวัดต่างๆทุกวัดทั่วประเทศไทย ดังนั้นอยู่ใกล้วัดใดก็สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ ณ วัดนั้น…
ย้ำอีกครั้ง วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 เป็น “วันมาฆบูชา”…วันแห่งความรัก ความเมตตาในแบบพวกเราชาวพุทธ และคณะรัฐมนตรีกำหนดให้เป็น “วันกตัญญู” ด้วยนะครับ.
“ซูม”