นับจากวันนี้ (21 พฤศจิกายน) เป็นต้นไป ก็จะเหลือเวลาอีกแค่ 6 วันเท่านั้น “วันลอยกระทง 2566” ก็จะเวียนมาถึง… แต่ถ้านับวันเวลาของการจัดงาน ซึ่งหลายๆจังหวัดมักจะเริ่มโหมโรงก่อนถึงวันจริงนั้น…จังหวัดที่เป็นต้นตำรับอย่าง “สุโขทัย” เขาเริ่มงานมาแล้วตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา
ในบรรดาเทศกาลใหญ่ๆ ของประเทศไทยเรา 3 เทศกาล อันได้แก่ “ปีใหม่”, “สงกรานต์” และ “ลอยกระทง” นั้น ผมแอบชอบเทศกาล “ลอยกระทง” มากที่สุด
อาจเป็นเพราะผมเติบโตมากับ “สายนํ้า” ช่วงเด็กๆ เคยอาศัยอยู่ใน “เรือส่ง” ขายของตามลำนํ้าปิงของอำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ อยู่หลายปี พอโตหน่อยเดกับแม่ผมขึ้นฝั่งเปิดร้านของชำที่ตลาดเจริญผล…ร้านของเราก็อยู่ริมฝั่งแม่นํ้าปิงนั่นเอง
มาเรียนหนังสือกรุงเทพฯ ก็เรียนที่ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์เป็นหลัก…อยู่กับแม่นํ้าเจ้าพระยาอีกเช่นกัน
ด้วยชีวิตที่ผูกพันกับสายนํ้ามายาวนาน นี่แหละครับที่ทำให้ผมพลอยผูกพันกับ “วันลอยกระทง” ไปด้วย…เป็นวันที่ผมรอคอยมากที่สุด…มากกว่าวันปีใหม่และวันสงกรานต์เสียอีกด้วยซํ้า
ผมชอบบรรยากาศที่พี่น้องชาวไทยทั้งประเทศออกมาลอยกระทงตามแหล่งนํ้าต่างๆ ตามประเพณีที่เราได้รับการสั่งสอนมาตั้งแต่เด็กๆ ว่า แม่นํ้า ทุกสายมีพระคุณต่อพวกเรา…เราได้ดื่มกิน ได้ใช้ทำการเกษตร เลี้ยงชีพและใช้เป็นเส้นทางสัญจรไปโน่นนี่มาตั้งแต่เริ่มต้นสร้างประเทศ
ก็ควรจะหาโอกาสไปขอบพระคุณพระแม่คงคาเทพธิดาแห่งสายนํ้าไปพร้อมๆ กับการขอขมาลาโทษท่านที่บางครั้งเราอาจเผลอล่วงเกินทำอะไรไม่ดีงามใส่ท่านไปบ้าง…อย่างน้อยปีละครั้ง
โดยเลือกเอาวันเพ็ญ เดือน 12 เดือนที่โบราณเชื่อว่าแม่นํ้าทุกสายจะนองเต็มตลิ่ง เป็นวันแสดงความขอบคุณและขอขมาลาโทษไปพร้อมๆ กัน
รวมทั้งก็ถือโอกาสมีงานเฉลิมฉลองไปด้วย เช่น จัดประกวดกระทง จัดประกวดนางนพมาศขึ้น ณ ทุกๆ แห่งหนที่มีแหล่งนํ้า
ดังนั้นเมื่อเทศกาลลอยกระทงและวันลอยกระทงปี 2566 จะเวียนมาถึงในวันจันทร์หน้า (27 พ.ย.) ผมจึงตื่นเต้นและเขียนโหมโรงให้ในฉบับ “วันเสาร์” ที่ผ่านมา ไปแล้วอย่างน้อย 2 จังหวัดใน 2 ภาค
1 ในงานที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษในช่วงหลังๆ ก็คืองาน “Bangkok River Festival 2023” หรืองาน “เทศกาลสายนํ้าแห่งวัฒนธรรมไทย 2566” ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นปีที่ 9 แล้วปีนี้ ณ แม่นํ้าเจ้าพระยาที่ไหลผ่านกรุงเทพมหานคร
โดยความร่วมมือของภาครัฐภาคเอกชน อันได้แก่ กระทรวงวัฒนธรรม, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กรุงเทพมหานคร, กองทัพเรือ และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจฯ เช่นเคย
เป้าหมายหลักๆ ของงานก็คือจะช่วยจัด “เรือด่วน” นั่งฟรีไปเทียบท่านํ้าต่างๆ ริมฝั่งเจ้าพระยา รวมทั้งสิ้น 10 ท่าด้วยกัน
ได้แก่ท่า วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ, วัดอรุณราชวรารามฯ, วัดระฆังโฆสิตารามฯ, วัดกัลยาณมิตรฯ, วัดประยุรวงศาวาสฯ, ท่ามหาราช, ท่ายอดพิมาน, ท่าเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์, ท่าไอคอนสยาม และ ท่าเดอะล้ง 1919 ริเวอร์ไซด์ฯ
เมื่อขึ้นไปแต่ละท่าก็จะมีการจัดงานต่างๆ ไว้ต้อนรับ มีทั้งงานใน ลักษณะงานวัด งานออกร้านขายสินค้าชุมชน การแสดงศิลปวัฒนธรรมตามประเพณีดั้งเดิมของชุมชน ฯลฯ
ทางคณะผู้จัดจะจัดเรือโดยสารจากท่าถึงท่าแบบหมุนเวียนไปตลอด ตั้งแต่ 16.00 น. จนถึง 22.00 น. ของวันเสาร์ที่ 25 พ.ย. และอาทิตย์ที่ 26 พ.ย. ส่วน “วันลอยกระทง” จันทร์ที่ 27 พ.ย. จะขยายเวลาเป็น 16.00 น. ถึง 24.00 น.
ไปขึ้นท่าไหนก็ได้ และเลือกลงท่าไหนก็ได้ เพราะอีกประเดี๋ยวก็จะมีเรือมารับไปส่งท่าอื่นๆ ต่อ
เป็นงานหนึ่งที่ผมชอบและไปมาแล้วหลายครั้ง
ปีนี้ก็ลงปฏิทินไว้ว่าจะไปอีก…อาจไม่ใช่ “วันลอยกระทง” เพราะ ผมชอบลอยข้างบ้านมากกว่า…ถ้าไม่วันเสาร์ (25 พ.ย.) ก็วันอาทิตย์ (26 พ.ย.) นี่แหละ จะไปลงเรือขึ้นท่าวัดไหว้พระทั้ง 5 วัด ริมฝั่ง เจ้าพระยาให้ครบทุกวัดเหมือนทุกๆ ปีที่ผ่านมา.
“ซูม”