ผมเขียนต้นฉบับว่าด้วยความปลาบปลื้มที่ญี่ปุ่นสามารถใช้ Soft Power ของเขาอย่างได้ผล ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวของเขาล้นทะลักมาตั้งแต่ต้นปีนี้ พร้อมกับแสดงความชื่นชมกับ F ตัวที่ 6 ของเขาคือ Friendly

อันหมายถึงอุปนิสัยอันดีงามเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว ต้อนรับนักท่องเที่ยว รวมไปถึงการมีน้ำใจต่อนักท่องเที่ยว ซึ่งคนญี่ปุ่นโดยรวมมีอยู่อย่างเปี่ยมล้น

เขียนเสร็จส่งล่วงหน้าผ่านมือถือจากโตเกียวปุ๊บ ผมก็ขึ้นเครื่อง “การบินไทย” กลับบ้าน และในที่สุดก็มานั่งเขียนต้นฉบับวันนี้ที่โต๊ะทำงานบ้านผมเป็นที่เรียบร้อย

ก็ดีใจครับที่เมื่ออ่านข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ย้อนหลังแล้วพบว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันที่ให้ความสนใจในพลัง Soft Power ของเราเป็นอย่างยิ่ง จนถึงกับตั้ง คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ โดยมี นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน เป็นประธานด้วยตนเองนั้น กำลังจะปฏิบัติภารกิจอย่างหนึ่งภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของกรรมการชุดนี้

นั่นก็คือ ท่านนายกฯ ในฐานะประธานกรรมการฯ จะเชิญชวนท่านรองประธานกรรมการฯ คุณอุ๊งอิ๊ง หรือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ไปชมภาพยนตร์ไทยเรื่อง “สัปเหร่อ” ที่กำลังจะทำรายได้ทะลุหลัก 500 ล้านบาทอยู่รอมร่อ

ท่านให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า “ภาพยนตร์” หรือ Film เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายที่คณะกรรมการชุดของท่านจะให้การสนับสนุนเต็มที่ จึงหาโอกาสไปดูชมเพื่อให้กำลังใจแก่ผู้สร้าง

ผมเชียร์ท่านเต็มที่ครับ เพราะได้เห็นถึง “พลัง” ของภาพยนตร์มาเกือบตลอดอายุขัยของผม เพราะดูมาหมดทั้งภาพยนตร์ไทย ภาพยนตร์อินเดีย ภาพยนตร์ญี่ปุ่น และภาพยนตร์ฮอลลีวูด ทำให้ผมตกเป็น “เชลย” ของภาพยนตร์จากประเทศต่างๆ ที่ว่าโดยไม่รู้ตัว

โดยเฉพาะภาพยนตร์ของสหรัฐอเมริกาหรือภาพยนตร์ฮอลลีวูด ทำให้ผมและเด็กๆ รุ่นผมเติบโตมากับวัฒนธรรมอเมริกัน หลงใหลได้ปลื้มชอบซื้อของสหรัฐฯ ชอบฟังเพลงป๊อบสหรัฐฯตามไปด้วย

ญี่ปุ่นเองก็ไม่เบา เด็กรุ่นผมก็เคยหลงใหลภาพยนตร์คาวบอยญี่ปุ่นที่มี โจ ชิชิโด เป็นพระเอก และติดภาพยนตร์พวกสัตว์ประหลาดต่างๆ ของเขาอย่างงอมแงมควบคู่ไปด้วย

รุ่นหลังๆ เขาก็มีทั้งภาพยนตร์ฮ่องกงของ ชอว์ บราเธอร์ส และกำลังภายในต่างๆ เข้ามาครอบงำ ก่อนที่จะตามด้วย ซีรีส์เกาหลี ที่เริ่มจาก “แดจังกึม” เรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้

เพราะฉะนั้น หากจะปลุกปั้น “ภาพยนตร์ไทย” ให้เรืองอำนาจขึ้นมาบ้าง ก็เป็นเรื่องสมควรทำ และหากจะเริ่มด้วยเรื่องผีๆ อย่าง “สัปเหร่อ” ซึ่งออกฉายต้อนรับเทศกาล “หลอนทั่วโลก” หรือ “ฮาโลวีน” แบบนี้ก็จะเหมาะสมเป็นที่สุด

เมื่อวานนี้คุณ “ลม เปลี่ยนทิศ” ที่เขียนอยู่ข้างๆ ผมก็เสนอแนะให้ส่งเสริม “หนังผีไทย” ออกสู่ตลาดโลกเช่นกัน เพราะมีหลักฐานว่า ผีไทยเป็นผีน่ารักที่ตลาดสากลน่าจะชื่นชอบ

นอกจากจะดีใจที่เห็นรัฐบาลชุดนี้จะเอาจริงเอาจังกับเรื่อง “Soft Power” โดยจะเริ่มจากภาพยนตร์เรื่อง “สัปเหร่อ” ที่ว่านี้แล้ว ผมยังดีใจที่เคยอ่านข่าวเจอว่า คณะกรรมการชุดนี้จะสนับสนุนทุกๆ ซอฟต์พาวเวอร์ โดยแต่งตั้งกรรมการจากแวดวงต่างๆ เข้าร่วมด้วยอย่างกว้างขวาง

รวมทั้งคุณจรัญ หอมเทียนทอง อดีตนายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) ด้วย

แสดงว่าคณะกรรมการชุดนี้ยอมรับว่า “หนังสือ” ก็เป็น “ซอฟต์พาวเวอร์” อย่างหนึ่ง ทำให้คนรักหนังสืออย่างผมรู้สึกภาคภูมิใจ

คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ซึ่งมี นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน เป็นประธาน และมี “หมอเลี้ยบ” สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นกรรมการและเลขานุการ (ตำแหน่งนี้สำคัญมากสำหรับกรรมการทุกคณะ) จะสามารถผลักดัน “ซอฟต์พาวเวอร์” ของเราให้ก้าวไกลไปทั้งสากล เป็นแหล่งรายได้ตั้งแต่ระดับชาติจนถึงครัวเรือนอย่างที่ตั้งเป้าไว้หรือไม่? เรามาลุ้นกันต่อไปครับ

ผมขอเอาใจช่วยเต็มที่ สำหรับนโยบายนี้…อะไรดีก็เชียร์สุดกำลังครับ …อะไรที่ไม่น่าจะดีแบบ “แจกเงิน” ดิจิทัล ก็ขอค้านสุดกำลังเช่นกัน.

“ซูม”