นโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งอีกนโยบายหนึ่งที่เขียนไว้ในคำแถลงนโยบายของนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ที่หลุดออกมาสู่สื่อมวลชนต่างๆ เมื่อสัปดาห์ก่อนได้แก่ นโยบายผลักดันการสร้างรายได้จากท่องเที่ยวนั่นเอง…
ท่านนายกฯ เศรษฐาถึงขนาดจัดไว้เป็นนโยบายเร่งด่วนข้อที่ 3 และย้ำว่าจะดำเนินการทันทีที่แถลงนโยบายเรียบร้อยแล้ว
ดังข้อความที่เขียนไว้ตอนหนึ่งว่า “รัฐบาลจะผลักดันการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว เพราะการท่องเที่ยวจะเป็นกุญแจดอกแรกในการสร้างรายได้ที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในระยะสั้นและสร้างงานให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก”
“เราตั้งเป้าหมายว่าจะเปิดประตูรับนักท่องเที่ยวด้วยการอำนวยความสะดวก ปรับปรุง ขั้นตอนการขอวีซ่าและยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับกลุ่มประเทศเป้าหมาย รวมถึงการจัดทำ Fast Track Visa สำหรับผู้เข้าร่วมงานการแสดงสินค้านานาชาติ (MICE)”
“และเพื่อเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในช่วงสิ้นปี รัฐบาลจะร่วมกับภาคธุรกิจในทุกภาคส่วนเป็นเจ้าภาพจัดงานแสดงสินค้า งานเทศกาลระดับโลก เพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นสถานที่สำหรับจัดงานแสดงต่างๆ ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในภูมิภาคนี้”
ผมอ่านแล้วก็เห็นด้วยทุกประการและหวังว่ารัฐบาลจะได้ดำเนินการตามที่แถลงไว้อย่างเร่งด่วนต่อไป
ว่าไปแล้วก็ต้องขอบคุณรัฐบาล “ลุงตู่” ด้วยที่ริเริ่มเรื่องนี้ขึ้นทันทีหลังจากโควิด-19 ซาลง ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวประเทศไทยอย่างล้นหลามก่อนประเทศอื่นๆ
จึงเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วที่รัฐบาลคุณเศรษฐาจะเข้ามาต่อยอดและเร่งรัดโดยเพิ่มมาตรการใหม่ๆให้นักท่องเที่ยวสะดวกยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน แม้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูงสุดของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย…เมื่ออดีตผู้ว่าการฯ ยุทธศักดิ์ สุภสร ซึ่งมีผลงานยอดเยี่ยมมาโดยตลอด ต้องอำลาจากตำแหน่งไปเพราะเป็นมาครบ 2 สมัย ตามอายุความที่กฎหมาย ททท.กำหนดไว้
แต่ก็ได้ “ลูกหม้อ” ท่านรองฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ที่ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับอดีตผู้ว่าฯ ขึ้นมารับตำแหน่งแทน
ทำให้มั่นใจได้ว่าการส่งไม้ต่อจากผู้ว่าฯเก่าถึงผู้ว่าฯใหม่จะเป็นไปอย่างราบรื่นและไร้รอยต่ออย่างที่มีการกล่าวกันไว้ในสื่อมวลชนต่างๆ
ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้เอง ท่านผู้ว่าฯ ฐาปนีย์ ก็ให้สัมภาษณ์แก่ทีมข่าวเศรษฐกิจของไทยรัฐ แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ และความพร้อมที่จะนำพาองค์กรให้เดินหน้าต่อไป
สานต่อจากกลยุทธ์ “MOVE” ในยุคท่านผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ มาสู่กลยุทธ์ “PASS” ในยุคสมัยของท่านผู้ว่าฯ ใหม่ ในทันทีทันใด
คำว่า PASS ย่อมาจากนโยบายการทำงานหลายๆ อย่างที่สอดคล้องกับแนวทางการท่องเที่ยวยุคใหม่…รวมทั้ง S ตัวสุดท้ายที่ย่อมาจาก Sustainability หรือการสร้างการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
นำการท่องเที่ยวไทยไปสู่การลดคาร์บอน ที่เรียกว่า Road To NET Zero Tourism อันเป็นนโยบายดั้งเดิมที่ ททท. ดำเนินการอย่างเข้มแข็งมาตั้งแต่ยุคท่านผู้ว่าฯยุทธศักดิ์
แม้ในนโยบายรัฐบาลจะไม่พูดถึงประเด็นนี้ไว้ แต่ในทางปฏิบัติคงเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการอยู่แล้ว เพราะเป็นมาตรฐานใหม่ของโลกที่ทุกๆการพัฒนาจะต้องคำนึงถึง…ในยุคที่โลกเราไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาของ “โลกร้อน” อีกแล้ว แต่กำลังจะเป็น “โลกเดือด” ขึ้นมาทุกวัน
หวังว่าท่านนายกฯ ใหม่, ท่านรัฐมนตรีการท่องเที่ยวและกีฬาท่านใหม่ รวมถึงท่านผู้ว่าการ ททท.ท่านใหม่ จะร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ “การท่องเที่ยว” สามารถเพิ่มพูนรายได้ให้แก่ประเทศไทย และการจ้างงานของคนไทยได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และบรรยากาศของโลกตามนโยบาย “Net Zero” หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ที่เป็นนโยบายใหญ่สุดของชาวโลกในปัจจุบัน
พวกเราชาว “ไทยรัฐ” เอาใจช่วยเต็มที่ครับสำหรับนโยบายนี้.
“ซูม”