รีวิว “Mo-Mo-Paradise GOLD” ที่สุดของชาบู อิ่มอร่อยไม่อั้นกับ X-WAGYU (F1) ในราคา 1,390++ ณ “Mo-Mo-Paradise GOLD” ร้านใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2566 นี้เอง ที่ The Emporium ชั้น 4 (อยู่ติดกับร้าน Sushiro)

ที่สุดของชาบู ชาบู และสุกี้ยากี้ระดับพรีเมี่ยมต้นตำรับสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ต้องยกให้ Mo-Mo-Paradise ซึ่ง GOLD สาขานี้เหนือระดับด้วยการคัดสรรวัตถุดิบชั้นดี และการบริการระดับพรีเมี่ยม ความพิเศษของสาขานี้ คือ ตกแต่งร้านโทนสี Copper & Gold ให้ความรู้สึกอบอุ่น เน้นสไตล์เหมือน Mo-Mo-Paradise สาขาคาบูกิโจ (สาขาแรกในญี่ปุ่น)

ไฮไลท์ของที่สาขานี้คือสาขาแรกในไทยที่เสิร์ฟ “เนื้อวากิวญี่ปุ่น X-WAGYU (F1)” ในรูปแบบ All-You-Can-Eat ทานได้ไม่อั้นภายใน 100 นาที

ส่วนอีกหนึ่งไฮไลท์นอกจากเนื้อที่พรีเมี่ยมแล้วก็คือวิวสวนเบญจสิริที่ร่มรื่น และวิวรถไฟฟ้าที่จะวิ่งผ่านเป็นระยะๆ

ที่ “Mo-Mo-Paradise GOLD” สามารถรองรับลูกค้าได้ 90 – 100 คน และเตรียมเปิดบริการห้อง VIP สำหรับคนที่อยากได้ความเป็นส่วนตัว

สำหรับเมนูเนื้อวากิวนั้นมี 2 ชุดให้เลือก คือ

“Standard menu” ราคา 729++บาท/ท่าน [หรือ 852.93 net/ท่าน]
เด็กสูง 110 – 140 cm: ราคา 365++ บาท/ท่าน [หรือ 427.05 net/ท่าน]
อิ่มอร่อยแบบเรียบง่าย.. เสิร์ฟด้วย

“เนื้อ USDA Prime” เนื้อ US ส่วนสันคอเกรดดีที่สุด
“เนื้อ USDA Short plate” เนื้อ US ส่วนท้องเกรดพิเศษ
“หมูคุโรบูตะ” สุดยอดหมูดำพันธุ์คาโกชิม่าเบิร์กเชียร์ส่วนสันคอ
“หมูชีวาบาระ” หมูส่วนท้องปลอดสารที่มีไขมันดีมากกว่าปลาแซลมอน 2.3 เท่า
“เนื้อเป็ดอนามัย” ส่วนอก ไม่เหม็นไม่คาว และ
“ไก่ไม้ไผ่สึมิเระ” ที่ทำจากไก่เบญจาปลอดสารอารมณ์ดี

“Premium menu” 

เบื้องต้นจะได้เนื้อเหมือน “Standard Menu” เพิ่มเติมคือได้ลิ้มลอง X-Wagyu เนื้อญี่ปุ่น F1 ที่ได้จากแม่วัวนมสายพันธุ์โฮลสไตน์ ผสมกับพ่อวัวสายพันธุ์เจแปนนีส แบล็คแฮร์ (คุโรเกะขนดำ) โดยเลี้ยงดูท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์ ทำให้เนื้อมีความอร่อยอย่างลงตัว ที่เสิร์ฟถาดละ 100 กรัม ตามแบบฉบับสาขาในญี่ปุ่น ในส่วน Sotomomo, Rump, และ Ichibo

โดยจ่ายเพิ่มอีก 661++ จากราคา Standard menu >> รวมเป็น 1,390++บาท/ท่าน [หรือ 1,626.30 net/ท่าน]
เด็กสูง 110 – 140 cm: จ่ายเพิ่มอีก 330++บาท จากราคา Standard menu >> รวมเป็น 695 บาท [หรือ 813.15 net/ท่าน]
อิ่มอร่อยแบบยกระดับ

นอกจากนี้ ยังมีให้บริการ บาร์ผักสดปลอดสารกว่า 20 ชนิด พร้อมด้วย ราเมงเส้นสด, อุด้งโฮมเมด, ข้าวญี่ปุ่น, ไอศกรีม Soft serve, รสละมุน, และบาร์น้ำ หลากหลายเมนู อาทิ ชาเขียว, เครื่องดื่มโซดา, ช็อคโกแลตเย็น, ชานมเย็น, น้ำพั้นซ์, และกาแฟสด **ราคาในเซทไม่รวมน้ำเปล่า และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

สำหรับเนื้อญี่ปุ่น X-WAGYU (F1) ที่เสิร์ฟมี 3 ส่วนให้เลือก คือ

Sotomomo (ไขมันน้อย) เนื้อวากิวสะโพกส่วนนอก สังเกตเห็นเป็นเนื้อ 2 สี คือกล้ามเนื้อน่อง และกล้ามเนื้อเอ็นร้อยหวาย

Rump (ไขมันกลางๆ) เนื้อสันเอวที่พบเพียง 5%ในวัว 1ตัว สีเนื้อแดงเข้มชัด ไม่เหนียวจนเกินไป

Ichibo (ไขมันมาก) เนื้อสะโพกด้านบนใกล้โคนหาง มีลายหินอ่อนน่าทาน ละลายในปาก

ทีมงานซอกแซกชอบ Sotomomo มากที่สุด เพราะนุ่มละลายในปาก และไขมันน้อย แต่เนื้ออีก 2 ส่วนนั้นก็อร่อยและละลายในปากไม่แพ้กัน

ส่วนน้ำซุป ใน 1 โต๊ะ เลือกได้ 2 ชนิด และมี 4 ซุปให้เลือก ได้แก่
• SHABU-SHABU: ซุปน้ำใสรสดั้งเดิม ทานคู่กับซอสพอนซึ ซอสงา หรือ Sweet shoyu
> ค่อยๆ ลวกทีละอย่าง จิ้มกับซอสตามชอบ แล้วซดน้ำซุปตาม

• SUKIYAKI: ซุปน้ำดำ รสเข้มข้นเหมือนที่เคยทานในญี่ปุ่นจริงๆ ทานคู่กับไข่สด Cage free
> เติมผักใส่หม้อให้น้ำผักออกมาชูรสเพิ่มความกลมกล่อม จากนั้นค่อยลวกเนื้อ จิ้มกับไข่ดิบเพิ่มความหอมมัน ทานแล้วเข้ากันสุดๆ

• KARAMISO: ซุปข้นเต้าเจี้ยวญี่ปุ่นรสเผ็ดร้อนสไตล์ญี่ปุ่น ทานคู่กับซอสคาราทาเระ (ซอสเผ็ดมิโสะ) หรือซอสงา
> ค่อยๆ ลวกทีละอย่าง จิ้มซอส แล้วซดน้ำซุปตาม

• KINOKO Soup: ซุปรวมเห็ดญี่ปุ่นรสกลมกล่อม ทานคู่กับ ซอสทงคัตสึ (Oil source) หรือ Sweet shoyu
> เติมผักใส่หม้อให้น้ำผักออกมาชูรสเพิ่มความกลมกล่อม จากนั้นค่อยลวกเนื้อ จิ้มซอสตามชอบ แล้วซดน้ำซุปตาม
**Kinoko Soup มีเสิร์ฟเฉพาะสาขา GOLD เท่านั้น

แนะนำวิธีปรุงรสซอสต่างๆ
ซอสพอนซึ: รสเปรี้ยวอมหวาน เติมกระเทียมสับเพิ่มรสเผ็ดนิดๆ
ซอสงา: รสนุ่ม เติมซอสพริกเล็กน้อย เพิ่มความนัว
Sweet shoyu: โซยุรสหวานหอมกลิ่นส้ม เติมกระเทียมสับและหอมเจียว หรือเพิ่มพริกตามชอบ
ไข่สดอนามัย: เติมกระเทียมสับเพิ่มรสอุมามิ
ซอสคาราทาเระ: เติมกระเทียมสับและพริกน้ำส้มให้รสเปรี้ยวแซ่บ
ซอสทงคัตสึ: เติมซอสพริกเล็กน้อย เพิ่มความนัว

สำหรับ Premium menu ทางร้านจะเสิร์ฟเซทเริ่มต้นมาบนถาดไม้รวม 6 จานก่อน ได้แก่ X-WAGYU ทั้ง Ichibo, Rump, Sotomomo พร้อมด้วย หมูคุโรบูตะ หมูชีวาบาระ และเนื้อเป็ดอนามัย จากนั้นเราค่อยออเดอร์เพิ่มตามชอบ >> หากใครอยากเลือกเองตั้งแต่ต้น ก็แจ้งพนักงานได้ค่ะ

ส่วนนำ้ซุปเราเลือกเป็น SUKIYAKI และ KINOKO Soup 2 ซุปในหม้อเดียว >> จากแฟนพันธุ์แท้ที่ชอบทานซุปน้ำดำจิ้มไข่ดิบมาโดยตลอด ตอนนี้เทใจไปให้ซุปเห็ดจิ้ม sweet soyu ที่เติมกระเทียมสับและหอมเจียวนิดๆ เป็นที่เรียบร้อยค่ะ

อิ่มคาวแล้วก็ต่อด้วยของหวาน เป็นไอศกรีม Soft serve สไตล์ญี่ปุ่น มี 4 ซอสให้เลือกได้แก่ ซอสสตรอเบอรี่, ซอสมะม่วง, ซอสมันม่วง และซอสชาเขียว >> ทีมงานซอกแซกชอบซอสชาเขียว เพราะเสิร์ฟพร้อมถั่วแดงและวาราบิโมจิ ส่วนซอสมะม่วงก็หวานอมเปรี้ยว อร่อยลงตัว

แอบเสียดายที่ Mo-Mo-Paradise GOLD ไม่ได้เสิร์ฟไอศกรีมเชอร์เบทหลากรส และไดฟูกุนุ่มหนึบเคลี้ยวเพลินแสนอร่อย เหมือนมาไม่ถึง Mo-Mo ยังไงก็ไม่รู้ มันขาดบางอย่างไปจริงๆ นี่ถ้ามีเสิร์ฟด้วยจะถูกใจแฟนพันธุ์แท้ Mo-Mo-Paradise สุดๆ เลยจ้า

สรุปว่า “Mo-Mo-Paradise GOLD” นั้นอร่อยสมความพรีเมียม เนื้อดีชิ้นใหญ่ละลายในปาก น้ำซุปหวานหอมกลมกล่อม นอกจากอาหารอร่อยแล้ววิวก็ดีเลิศ ใครพร้อมก็ขอเชิญมา “ล้มวัว” กันได้นะคะ

พิกัด: “Mo-Mo-Paradise GOLD” ชั้น 4 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม
ราคาปกติ :
Standard menu 729++บาท
Premium menu ราคา 1,390++บาท (ลิ้มรสเนื้อวากิวญี่ปุ่น X-WAGYU (F1) แบบไม่อั้น)
เด็กสูงไม่เกิน 110 cm ทานฟรี!!
เด็กสูง 110 – 140 cm จ่ายครึ่งราคา
เปิดบริการ : 10.00 – 22.00 น.
โทรจองโต๊ะ : 061-021-1610

a_U_m แคลอรี่ลั้นลา

#ซูมซอกแซก #zoomzogzag #MoMoParadiseGOLD #MoMoParadiseThailand #Emporium #EmQuartier #EMDINING