ผมตัดข่าวเล็กๆ ข่าวหนึ่งที่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐลงไว้ในหน้า 11 ของฉบับเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วใส่แฟ้มทันที เมื่ออ่านจบลง เพราะเชื่อว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้าที่จะถึงนี้จะต้องกลายเป็นข่าวใหญ่ของประเทศไทยเราอย่างยากที่จะหลีกเลี่ยง
นั่นก็คือ ข่าว น.ส.ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาท่านแถลงอย่างเป็นทางการว่า ประเทศไทยจะสิ้นสุดฤดูร้อน และจะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนในวันที่ 22 พฤษภาคม หรือเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ในขณะที่ผมกำลังดีใจว่าเราจะเข้าสู่ฤดูฝนนั้นเอง ก็อ่านมาถึงประโยคที่ท่านอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาขยายความว่าปีนี้ปริมาณฝนทั้งฤดูจะน้อยกว่าปีที่แล้ว และจะเกิดฝน “ทิ้งช่วง” ประมาณกลางเดือนมิถุนายนจนถึงเดือนกรกฎาคมค่อนข้างแน่
ครั้นเมื่อถึงเดือนสิงหาคมและกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่จะมีฝนตกชุกนั้นก็มีโอกาสที่จะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนผ่านบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย 1-2 ลูก ส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ อาจก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งน้ำล้นตลิ่งขึ้นได้
สรุปความทั้งหมดก็คือ ประเทศไทยของเรานับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะต้องเผชิญเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับดินฟ้าอากาศอันไม่สู้ดีนัก ได้แก่ “น้ำแล้ง” กับ “น้ำท่วม” ครบทั้ง 2 ประการ
เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะจากการวิเคราะห์ข้อมูลและคาดการณ์แบบจำลองศูนย์ภูมิอากาศชั้นนำของโลกคาดว่าจะเกิดสภาวะ “เอลนีโญ” ระดับปานกลางขึ้นในประเทศไทย ในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมต่อเนื่องถึงเดือนธันวาคม 2566 และเป็นไปได้ที่จะต่อไปอีกจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2567
ได้ยินคำว่า “สภาวะเอลนีโญ” แล้วก็ไม่ต้องถามอะไรต่ออีกละครับว่าข้อมูลนี้เชื่อได้หรือไม่ได้ เพราะยังไงๆ ก็ต้องเชื่อไว้ก่อน และเตรียมตัวล่วงหน้าไว้ก่อนเพื่อรับสถานการณ์
โดยเฉพาะสถานการณ์ “ฝนแล้ง” หรือ “ฝนทิ้งช่วง” ที่จะเกิดตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป ซึ่งก็อีกเพียง 20 กว่าวันเท่านั้น
ดูจากปฏิทินการเมืองของประเทศไทยเราแล้ว รัฐบาลที่จะต้องรับมือกับสภาวะฝนทิ้งช่วงที่ว่านี้ก็คือรัฐบาลของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นี่แหละครับ
เพราะยังไงๆ การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ไม่น่าจะแล้วเสร็จในเวลารวดเร็วแน่นอน ณ นาทีนี้คาดกันว่าอย่างน้อยก็ต้องเดือนกรกฎาคม หรือบ้างยังห่วงว่าจะถึงเดือนสิงหาคมด้วยซ้ำ
ผมก็ขอเสนอให้ “ลุงตู่” จัดประชุม ครม.ว่าด้วยเรื่องนี้เลย เพราะเป็นที่รู้ๆกันอยู่แล้วว่า หน้าที่หลักเป็นของกระทรวงไหน เนื่องจากภาวะฝนแล้งฝนทิ้งช่วงไม่ใช่จะเกิดขึ้นครั้งแรก
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ควรทำอย่างไร? กระทรวงมหาดไทยควรทำอย่างไร? ก็ให้เตรียมการให้พร้อมสรรพ โดยปรึกษากับท่านอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาที่แถลงไว้แล้วว่าจะติดตามข้อมูลติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงอย่างไม่ให้คลาดสายตาในทุกขั้นตอน
ถือว่าทำ “ทิ้งทวน” ว่างั้นเถอะครับลุง
อย่าไปวางแผนหรือคิดหวัง “ส้มหล่น” ว่า การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้จะไม่สำเร็จ และอาจมีโอกาสไปถึง “ลุงๆ” เลยครับ–ยังไงก็ไม่ถึงแน่ หรือหากถึงก็ไม่ควรรับ
ผมตระหนักดีในความ “รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ของลุงและคณะพรรค ซึ่งลุงและคณะก็ได้แสดงให้เห็นประจักษ์มาโดยตลอด
แต่ถึงเวลาแล้วที่ลุงจะต้องไปพักผ่อนหลังมอบหมายภารกิจอันสำคัญยิ่ง เพื่อพิทักษ์รักษา “ชาติ–ศาสน์–กษัตริย์” ให้แก่คนไทยอื่นๆ ที่มีอุดมการณ์เดียวกันรับช่วงต่อไป ซึ่งผมเชื่อว่า มีแน่นอนและมีมากด้วย
ระหว่างที่มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ไปตามครรลองอยู่นี้ ลุงก็เตรียมตัวและมุ่งมั่นรับมือกับปัญหา “เอลนีโญ” ให้เต็มที่…เพื่อให้เป็นไปตามภาษิตไทยที่ว่า “อยู่ให้คนรัก จากให้คนคิดถึง” แหละครับ
ของลุงอยู่เกิน 8 ปีคนอาจจะรักน้อยลง ตอนอยู่ก็อย่าไปน้อยใจ เพราะเป็นไปตามสัจธรรมอยู่แล้ว…แต่ยังไงๆ ช่วงฝนแล้งนี้ต้องฝากฝีมือให้คน “คิดถึง” ให้ได้นะครับ…โอกาสทองมาถึงแล้วละลุง!
“ซูม”
