เมื่อวานผมลองนึกภาพไปข้างหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยของเราบ้าง? ถ้านายกรัฐมนตรีคนต่อไปได้แก่บุคคลตามที่ “นิด้าโพล” สำรวจไว้เมื่อต้นๆ เดือนมีนาคม
เพิ่งวิเคราะห์มาได้ 2 คน คือ “คุณอุ๊งอิ๊ง” กับ “คุณพิธา” ก็ปรากฏ ว่าเนื้อที่หมดลงเสียก่อน
วันนี้มาวิเคราะห์ต่อ…สมมติว่าหวยไปออกที่อันดับ 3 ของนิด้าโพล ซึ่งก็คือท่านนายกฯปัจจุบัน “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ท่านที่ติดตามคอลัมน์ผมมาตลอดคงจะพอจับทางได้ว่า ผมมองลุงตู่ในแง่บวกตั้งแต่แรกเริ่ม แม้จะติบ้างชมบ้างแต่ก็จะชมมากกว่าติ
ผมให้คะแนนท่านค่อนข้างดี เมื่อบริหารครบ 4 ปีแรก และก็ไม่หัก คะแนนอะไรมากสำหรับ 4 ปีหลัง เพราะบ้านเมืองเข้าสู่ยุคโควิด-19 ระบาดพอดี ทำได้เท่าที่ทำผมก็ว่าเก่งแล้ว
แต่ผมก็ไม่สนับสนุนให้ท่านเป็นนายกฯ ต่อ และได้เขียนเสนอแนะทั้งทางตรงทางอ้อมขอให้ท่านลงจากตำแหน่งเมื่อครบวาระในสมัยที่ 2
เหตุผลของผมไม่มีหลักวิชาการใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเพียงเหตุผลจาก ประสบการณ์ “แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน” เท่านั้นเอง
ผมพบว่าคนไทยเป็นคนที่ใช้นายกรัฐมนตรีเปลือง รักง่าย แต่ก็เบื่อง่าย…รักชอบแค่ปี 2 ปี ก็เริ่มเบื่อแล้ว
ตอนผมยังเด็กๆ นายกรัฐมนตรีชื่อ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ท่านเป็นนานมาก ตั้งแต่ผมเรียนชั้นประถมปี พ.ศ.2491 มาจนผมเรียน ม.6 ที่นครสวรรค์ พ.ศ.2500 รวมเวลา 9 ปีเศษ ท่านก็โดน จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ปฏิวัติต้องหลบหนีไปเสียชีวิตที่ต่างแดน
จำได้ว่าคนไทยเฮลั่นเพราะเบื่อจอมพล ป.มาก
อีกท่านหนึ่ง ได้แก่ จอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกฯ ติดต่อกันยาวนาน โดยเฉพาะครั้งหลังสุดเป็น 2 ขยัก รวมเวลา 8 ปี กับ 278 วัน ในที่สุดก็เกิดเหตุใหญ่ 14 ตุลาคม “วันมหาวิปโยค”
นี่ก็เฮลั่นเพราะเบื่อจอมพล ถนอม กับเครือญาติของท่าน
ผมก็เลยทึกทักเอาว่าระยะเวลา 8 ปี น่าจะเป็นระยะที่ความเบื่อนายกรัฐมนตรี (คนใดก็ตาม) ของพี่น้องชาวไทยเราถึงที่สุด และคิดว่า “ป๋าเปรม” ท่านก็คงเชื่อในระยะเวลา 8 ปีเช่นกัน
ท่านจึงประกาศว่า “ผมพอแล้ว” ลงจากหลังเสือเมื่อครบ 8 ปี จนกลายเป็นรัฐบุรุษและเป็น 1 ในนายกรัฐมนตรีที่คนไทยยังพูดถึงด้วยความรักความนิยมมาจนถึงบัดนี้
บิ๊กตู่ท่านนั่งเป็นนายกฯ จริงครบ 8 ปีไปเรียบร้อยแล้ว (ณ วันที่ ผมเขียนต้นฉบับก็มี วิกิพีเดีย คอยนับให้ระบุว่า 8 ปีกับ 211 วันแล้ว) หากจะเป็นต่อตามที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความอีก 2 ปี ก็จะเกิน 8 ปีตามค่าเฉลี่ยความรักชอบสูงสุดของคนไทยไปมาก
แม้ผมจะเชื่อในความสามารถว่าท่านเป็นได้ แต่ผมก็ไม่มั่นใจว่า กระแสความเบื่อท่านจะรุนแรงมากน้อยแค่ไหน ทำให้หวั่นใจว่าจะมี การประท้วง มีการก่อกวนอย่างวุ่นวายเกิดขึ้นอีก
แทนที่บ้านเมืองของเราจะได้เดินต่อไปข้างหน้า ก็จะต้องมาเสียเวลากับเรื่องปวดหัวเหล่านี้จนไม่เป็นอันจะได้พัฒนาอะไรกันเลย
สรุปของสรุปก็คือ ถ้านายกรัฐมนตรีไทยหลังการเลือกตั้ง ได้แก่ 3 ท่านแรกที่นิด้าโพลสำรวจมา….คือ คุณอุ๊งอิ๊ง, คุณพิธา และ บิ๊กตู่ บ้านเมืองของเราก็อาจจะยังคงวนเวียนอยู่กับเรื่องวุ่นวายต่อไป
ครั้นมองไปที่อันดับถัดไป ซึ่งได้คะแนนน้อยมาก และโดยข้อเท็จจริงก็มีโอกาสน้อยมากที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นคุณหญิงสุดารัตน์, พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์, คุณจุรินทร์, นพ.ชลน่าน, คุณอนุทิน หรือคุณกรณ์ ก็ตาม
ผมจึงเขียนวิงวอนท่านผู้อ่านมาหลายครั้งแล้วว่า “การเลือกนาย” ของพวกเรา “ชาวกบ” ครั้งนี้ สำคัญยิ่ง…ขอให้ตัดสินใจกันให้ดีๆ
แต่ที่สุดของที่สุดแล้ว “การเลือกตั้ง” ก็เป็น “หัวใจ” และเป็น “แก่น” ของระบอบประชาธิปไตย ยังไงๆก็ต้องออกไปเลือกตั้งกันนะครับ
จากนั้นอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดเหมือนเพลง Whatever Will Be, Will Be นั่นแหละ
เกิดแล้วค่อยแก้ปัญหากันไป, ลุ้นไปภาวนาไป, ด้วยความเชื่อมั่น ว่า พระสยามเทวาธิราชท่านทรงดูแลเราอยู่ ดังนั้นที่ผมมองโลกแง่ร้าย มาทั้งหมดนี้ อาจจะกลายเป็นดีในที่สุดก็เป็นได้นะครับ…
“ซูม”